โครงการแลนด์บริดจ์ (Land Bridge)
ของประเทศไทยเป็นโครงการเมกะโปรเจกต์ที่มีเป้าหมายในการเชื่อมโยงการขนส่ง
สินค้าระหว่างทะเลอันดามันและอ่าวไทย โดยการสร้างเส้นทางคมนาคมผ่านภาคใต้ของประเทศ โครงการนี้ถูกเสนอขึ้นเพื่อเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้า ลดระยะเวลาการเดินทาง และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ
ที่มาของโครงการ
แนวคิดของแลนด์บริดจ์ในประเทศไทยมีมาตั้งแต่หลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่เพิ่งได้รับความสนใจอย่างจริงจังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของปริมาณการค้าระหว่างประเทศและความต้องการในการหาทางเลือกใหม่ในการขนส่งสินค้าที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ การแข่งขันทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ประเทศไทยต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตนี้
รายละเอียดของโครงการ
โครงการแลนด์บริดจ์มีแผนที่จะสร้างเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมต่อระหว่างท่าเรือแหลมริ่วในจังหวัดชุมพรและท่าเรืออ่าวอ่างในจังหวัดระนอง ระยะทางประมาณ 89.35 กิโลเมตร โดยจะประกอบด้วยทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) รถไฟทางคู่ (ขนาดราง 1.435 เมตรและ 1 เมตร) และท่อขนส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โครงการนี้มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 1 ล้านล้านบาท
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ลดระยะเวลาการขนส่งสินค้า: การใช้เส้นทางแลนด์บริดจ์จะช่วยลดระยะทางการเดินเรือประมาณ 670 กิโลเมตร เมื่อเทียบกับการใช้เส้นทางผ่านช่องแคบมะละกา ซึ่งสามารถลดระยะเวลาการเดินทางได้ประมาณ 2-3 วัน
Policy Watch
2. เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน: ประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ
3. กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่: การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภาคใต้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างงานและโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ
ทำไมโครงการเพิ่งมาในขณะนี้
แม้ว่าแนวคิดแลนด์บริดจ์จะมีมานาน แต่การดำเนินการจริงเพิ่งเกิดขึ้นในช่วงนี้เนื่องจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงความพร้อมของงบประมาณ การสนับสนุนทางการเมือง และความต้องการในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตของการค้าและการขนส่งในภูมิภาค นอกจากนี้ การแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว ทำให้ประเทศไทยต้องเร่งดำเนินโครงการนี้เพื่อไม่ให้เสียโอกาสทางเศรษฐกิจ
ความคุ้มค่าในอนาคต
การประเมินความคุ้มค่าของโครงการแลนด์บริดจ์ต้องพิจารณาหลายปัจจัย แม้ว่าโครงการนี้จะช่วยลดระยะเวลาการขนส่งสินค้าและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นักวิชาการบางคนชี้ว่า การขนส่งสินค้าผ่านแลนด์บริดจ์อาจใช้เวลามากกว่าการเดินเรือผ่านช่องแคบมะละกา เนื่องจากกระบวนการยกขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์จากเรือขึ้นรถและกลับลงเรืออีกครั้ง ซึ่งอาจใช้เวลาหลายวัน
Policy Watch
นอกจากนี้ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมก็เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณา พื้นที่ที่โครงการจะผ่านมีความอ่อนไหวทางนิเวศวิทยา โดยเฉพาะพื้นที่ป่าชายเลนและแหล่งอนุรักษ์ หากเกิดอุบัติเหตุ เช่น น้ำมันรั่วไหล อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบนิเวศ
Policy Watch
โครงการคล้ายคลึงในต่างประเทศ
โครงการแลนด์บริดจ์ไม่ใช่แนวคิดใหม่ในระดับโลก หลายประเทศได้ดำเนินโครงการที่คล้ายคลึงกันเพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างทะเลหรือมหาสมุทร ตัวอย่างเช่น
1. คลองสุเอซ (Suez Canal) ในอียิปต์: เป็นเส้นทางน้ำที่เชื่อมต่อทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับทะเลแดง ช่วยลดระยะทางการเดินเรือระหว่างยุโรปและเอเชีย
2. คลองปานามา (Panama Canal) ในปานามา: เชื่อมต่อมหาสมุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรแปซิฟิก ลดระยะทางการเดินเรือระหว่างชายฝั่งตะวันออกและตะวันตกของสหรัฐอเมริกา
3. โครงการแลนด์บริดจ์ของมาเลเซีย: มาเลเซียมีแผนพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างทะเลจีนใต้และช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญ
————————————
• 𝗛𝗮𝗰𝗸 𝗸𝗻𝗼𝘄𝗹𝗲𝗱𝗴𝗲, 𝗖𝗿𝗮𝗰𝗸 𝗗𝗮𝘁𝗮•
ฉลาดขึ้นวันล่ะ 1 องศา
————————————
• กดติดตามเราได้ทุกช่องทางกันนะ!! •
𝗙𝗔𝗖𝗘𝗕𝗢𝗢𝗞 | 𝗜𝗡𝗦𝗧𝗔𝗚𝗥𝗔𝗠 | 𝗕𝗟𝗢𝗖𝗞𝗗𝗜𝗧 | 𝗫 |𝗧𝗜𝗞𝗧𝗢𝗞 | 𝗬𝗢𝗨𝗧𝗨𝗕𝗘
◾https://linktr.ee/Crackynewsth
#crackynews #สำนักข่าวแคร็กกี้ #แลนด์บริดจ์ #SEC
ติดต่อสอบถาม-โฆษณาประชาสัมพันธ์
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
