เมื่อวาน เวลา 07:33 • ข่าว

จับกุมดูเตอร์เต คาสนามบินมะนิลา ข้อหาอาชญากรรมในคดีสงครามยาเสพติด

การเมืองฟิลิปปินส์ เข้าสู่ระยะเสือกินเนื้อเสือ เพราะแชร์อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ไปเสียแล้ว เมื่อทางการฟิลิปปินส์สั่งจับกุม โรดรีโก ดูเตอร์เต อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ด้วยข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากนโยบายสงครามยาเสพติดในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์
โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับคำสั่งตรงจากประธานาธิบดี เฟอร์ดินาน มาร์กอส จูเนียร์ (บอง บอง) ที่รับลูกต่อจาก ICC ให้จับกุมดูเตอร์เต ส่งให้ตำรวจสากลทันทีที่เขาเดินทางกลับจากการร่วมแคมเปญหาเสียงของพรรคในฮ่องกง มาลงที่สนามบินมะนิลา แถมยังดักคออีกว่า อดีตผู้นำฟิลิปปินส์ และ ลูกทีมทุกคนของเขามีสุขภาพแข็งแรงดี และได้รับการตรวจอย่างดีจากทีมแพทย์ของรัฐบาล
(หมายความว่าจะอ้างว่าป่วย เพื่อยื่นเงื่อนไขขอรักษาตัวก่อนในห้องพิเศษไม่ได้)
1
นับเป็นการจับกุมกันแบบสายฟ้าแล่บ ที่สร้างความโกลาหล วุ่นวายกลางสนามบินมะนิลาทันที เนื่องจากตำรวจได้รวบตัวดูเตอร์เตก่อนที่หมายจับตัวจริงจะมาถึงเสียอีก แถมยังแยกตัวเขาออกจากทีมผู้ช่วย และ ทนายความทันที โดยไม่เปิดโอกาสได้คุยกัน จนมีการประท้วงกันล้งเล้งลั่นสนามบินว่า เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลตามรัฐธรรมนูญ เท่ากับว่าเป็นการจับกุมอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย
การทำสงครามยาเสพติด ถือเป็นนโยบายเรือธงของ โรดรีโก ดูเตอร์เต ที่ทำให้เขาชนะเลือกตั้งใหญ่ ทะยานจากนายกเทศมนตรีท้องถิ่นในเมือง ดาเวา สู่ผู้นำการเมืองระดับประเทศในปี 2016 ด้วยการปราบปราบผู้ค้ายาแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน และการวิสามัญผู้ต้องหาถูกนำมาใช้อย่างเปิดเผย ที่สร้างความสะพรึงในหมู่พ่อค้ายา ถึงขนาดที่หลายคนกลับใจยอมไปมอบตัวก่อนที่จะโดนฆ่าตัดตอนในภายหลัง
มีการประเมินว่าตลอดช่วงที่ โรดรีโก ดูเตอร์เต เป็นผู้นำฟิลิปปินส์ มีการฆ่าตัดตอน และวิสามัญพ่อค้ายาไม่ต่ำกว่า 12,000 ราย ซึ่งรัฐบาลดูเตอร์เต นั้นถือว่าเป็นผลงานสร้างชื่อ โดยอ้างอิงตัวเลขผู้เสพยากว่า 1.8 ล้านคนในฟิลิปปินส์ หากไม่มีการใช้มาตรการที่เด็ดขาด รุนแรง ปัญหายาเสพติดในสังคมฟิลิปปินส์จะรุนแรงถึงขนาดไหน
แต่นั่นก็อาจไม่ใช่ข้ออ้างที่รัฐบาลฟิลิปปินส์จะใช้อำนาจรัฐในการวิสามัญพ่อค้ายา ก่อนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ จึงมีการยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งต่อมา ตูเตอร์เต ก็ถอนฟิลิปปินส์ออกจากสมาชิก ICC ในภายหลัง แต่ไม่ได้มีผลต่อการพิจารณาคดีของ ICC
แต่ทว่า ดูเตอร์เต ไม่สามารถทำตัวเป็นเสือที่ซ่อนอยู่ในถ้ำได้ เมื่อในถ้ำมีเสืออีกตัว ก็คือ คนจากตระกูล มาร์กอส
2
หลังจากที่ บอง บอง มาร์กอส จูเนียร์ ชนะเลือกตั้งเป็นผู้นำฟิลิปปินส์ในปี 2022 จากการที่ ดูเตอร์เต ยอมเสี่ยงเดิมพันสนับสนุน ตระกูลมาร์กอส กลับสู่อำนาจอีกครั้ง แต่การอยู่ร่วมกันของเสือ 2 ตัวไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อมาร์กอสเริ่มใช้อิทธิพลทางการเมืองกำจัด ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นสายของดูเตอร์เต
และ ล่าสุด ซาราห์ ดูเตอร์เต ลูกสาวของเขาถูกถอดถอนจากตำแหน่งรองประธานาธิบดี เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากคลิปวิดิโอ ที่เธอขู่จะส่งคนลอบสังหารประธานาธิบดี บอง บอง มาร์กอส
การจับกุม โรดรีโก ดูเตอร์เต ส่งตำรวจสากล จึงเป็นเหมือนการตอกตะปู ปิดฝาโลง นักการเมืองสายดูเตอร์เตเลยทีเดียว เป็นปรากฏการณ์เสือกินเนื้อเสือ ที่เราเคยเห็นในประวัติศาสตร์การเมืองในหลายที่ ไม่เว้นแม้แต่บ้านเรา
แต่หากถามว่า นี่คือลมหายใจสุดท้ายของตระกูลดูเตอร์เต ที่จะโลดแล่นในการเมืองฟิลิปปินส์หรือไม่ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับอนาคต หากตระกูลมาร์กอส ที่เคยต้องหอบเสื้อผ้าหนี อย่างคนไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ยังกลับมาได้ในรุ่นลูก ก็ไม่แน่ว่าอนาคตอาจเป็นโอกาสของตระกูลอื่นๆ ที่เคยถูกโทษประหารทางการเมือง จะกลับมายึดถ้ำ ล้างบางใครบางคนได้เหมือนกัน
1
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา