Tesla บริษัทยานยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐฯ กำลังเผชิญสถานการณ์น่าเป็นห่วงบนกระดานหุ้นอย่างรุนแรง หลังมีรายงานว่ามีผู้เทขายหุ้นของ Tesla อย่างต่อเนื่องบนวอลสตรีต ส่งผลให้หุ้น Tesla ร่วงลงมาอีกกว่า 15% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา (10 มี.ค. 68) และยังถือเป็นวันที่ Tesla มีราคาหุ้นแย่ที่สุดในตลาดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2563
นอกจากนี้ การที่หุ้นของ Tesla ร่วงหนักในสหรัฐฯ ยังทำให้ภาพรวมตลาดหุ้น Nasdaq ร่วงลงเกือบ 4% ซึ่งเป็นการร่วงลงอย่างรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2565 โดยหุ้นของ Tesla ร่วงหนักลงทุกสัปดาห์นับตั้งแต่ซีอีโอของ Tesla อย่าง อีลอน มัสก์ เดินทางไปยังวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อรับบทบาทสำคัญในทำเนียบขาวสมัยที่สองของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะผู้นำกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล หรือ DOGE
นักวิเคราะห์คาดว่า การร่วงอย่างรุนแรงของหุ้น Tesla ในวันจันทร์นั้น เกี่ยวข้องกับความไม่แน่นอนเรื่องแผนภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งแคนาดาและเม็กซิโกเป็นตลาดสำคัญสำหรับซัพพลายเออร์ยานยนต์ และภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดสงครามการค้า และอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตและนำไปสู่ราคาที่สูงขึ้น
ด้านนักวิเคราะห์ของ Bank of America รายงานเมื่อวันจันทร์ว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ของ Tesla ร่วงลงประมาณ 50% ในยุโรปในเดือนมกราคมเมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความไม่ชอบแบรนด์ที่เพิ่มมากขึ้น และยังตั้งข้อสังเกตว่าลูกค้าบางรายยังไม่ซื้อรถ Tesla เพราะกำลังรอรุ่น Model Y เปิดตัว
“ยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก รวมถึงรุ่นไฟฟ้าล้วนและไฮบริดปลั๊กอิน เพิ่มขึ้น 21% ในเดือนมกราคมจากปีก่อน แม้ว่ายอดขายของ Tesla จะลดลง การเติบโตนี้ขับเคลื่อนโดยความต้องการในยุโรป” นักวิเคราะห์จาก Bank of America ระบุ