เมื่อวาน เวลา 13:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

รัฐบาลฉีดยาแรง 4.5 แสนล้าน ดันโครงการใหม่ โด๊ป GDP ทะลุ 3%

กางแผนรัฐบาล เร่งอัดฉีด 4.5 แสนล้าน ปั้น GDP ปี 2568 ตั้งเป้าหมายต้องโตเกิน 3% ทั้งกระตุ้นบริโภค แจกเงินหมื่น เร่งรัดการลงทุน ใช้จ่ายภาครัฐผ่านโครงการรถไฟ-แลนด์บริดจ์
สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรง ส่งผลให้สัญญาณความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีมากขึ้น สะท้อนผ่านตัวเลขการบริโภค ภาคบริการ รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภค ขณะที่เศรษฐกิจไทย ซึ่งขับเคลื่อนด้วยการท่องเที่ยวกำลังเผชิญปัจจัยท้าทายจากนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงมาก ส่งผลต่อความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2568 ที่อาจจะโตไม่ได้ถึง 3% ตามเป้าหมายที่รัฐบาล
  • ดัน 46 โครงการ ตลอดปี 68
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า รัฐบาลวางแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย และผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวเกินกว่า 3% ผ่านการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ รวมทั้งหมด 46 โครงการ ตลอดทั้งปี 2568 โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 2-3 เพื่อเป็นแรงส่งไปถึงไตรมาส 4 และในช่วงปีหน้า
โครงการที่จะผลักดันในปี 2568 ทั้งหมด 46 โครงการนั้น แบ่งเป็น โครงการที่ทำไปแล้ว 7 โครงการ โครงการที่ทำไปแล้วแต่ยังไม่จบอีก 27 โครงการ และโครงการที่จะเสนอใหม่อีก 12 โครงการ โดยมีเป้าหมายหลักคือ กระตุ้นให้ GDP ปี 2568 ขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 3.0-3.5% จากที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ 3.0% ซึ่งยังตํ่ากว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ตํ่ากว่าประเทศในภูมิภาคและตํ่ากว่าศักยภาพที่ควรเป็น
สำหรับโครงการใหม่ 12 โครงการนั้น ได้หารือในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งล่าสุดที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาแล้ว แยกเป็นด้านต่างๆ ชัดเจน โดยเฉพาะการกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเป็นกลุ่มที่รัฐบาลตั้งเป้าผลักดันกระตุ้นการใช้จ่ายออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังเร่งกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน ควบคู่การขับเคลื่อนการใช้จ่ายภาครัฐและเร่งรัดการส่งออกและบริการเพิ่มขึ้นด้วย
  • กระตุ้นบริโภคผ่าน 3 โครงการ
กลุ่มแรก รัฐบาลตั้งเป้ากระตุ้นการบริโภค เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนการใช้จ่ายภายในประเทศให้เกิดการหมุนเวียน ผ่าน 3 โครงการใหญ่คือ
1.โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ระยะที่ 3 ซึ่งรายละเอียดโครงการได้ผ่านการเห็นชอบจากบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว โดยรัฐบาลตั้งเป้าแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ให้กับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี รวมทั้งหมด 2.7 ล้านคน คาดว่า จะจ่ายเงินลงไปถึงมือได้ภายในปลายไตรมาส 2 ปีนี้
2.โครงการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
3.โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง โดยใน 2 โครงการหลังนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียด
ส่วนต่อมาเป็นการกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน กำหนดแผนงานเอาไว้หลักๆคือ เร่งรัดการลงทุนที่ได้รับการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนแล้ว โดยมีโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในปี 2566 กว่า 76% ที่เริ่มลงทุนจริงแล้ว ส่วนปี 2567 มีเอกชนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนเพียงแค่ 38% ที่เริ่มลงทุนจริง
ดังนั้นจึงมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไปเร่งหามาตรการเพิ่มเติมเร่งรัดการลงทุนส่วนนี้ต่อไป
  • เร่งลงทุนรัฐผ่าน 6 โครงการ
อีกส่วนคือ กระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ โครงการในส่วนนี้จะเน้นไปที่โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ ที่สำคัญเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ มี 6 โครงการคือ
1.โครงการรถไฟทางคู่สายใต้
2.โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว (หนองคาย-เวียงจันทน์) แห่งที่ 2
3.โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าและย่านกองเก็บตู้สินค้าเพื่อรองรับการขนส่งทางรางจังหวัดหนองคาย
4.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและเชื่อมต่อกับระบบขนส่งของเขตเศรษฐกิจำคัญในประเทศ ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงโครงการแลนด์บริดจ์ (Landbridge) ด้วย
5.โครงการจ้างแรงงานชลประทาน เพื่อเข้าไปชวยเหลือกลุ่มเกษตรกรในปี 2568
6.โครงการขับเคลื่อนแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่
  • ขับเคลื่อนการส่งออกและบริการ
ส่วนกลุ่มสุดท้ายคือ การขับเคลื่อนการส่งออกและบริการ มีแผนงานสำคัญ 2 เรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการในปี 2568 คือ
1.Amazing Thailand Grand Tourism & Sport Year 2025 ซึ่งททท.ได้ประกาศเอาไว้แล้ว ผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น จัดงานเทศกาลตลอดทั้งปี
2.โครงการส่งเสริม Soft Power ด้านการท่องเที่ยว โดยเบื้องต้นกำหนดการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในระดับพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ
  • ดันโครงการเดิม 27 โครงการ
นอกจากนี้ ยังมีโครงการอื่นๆ ที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวตามเป้ามาย ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่รัฐบาลเริ่มต้นดำเนินโครงการไปแล้วกว่า 27 โครงการ เช่น โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการแจกเงิน 10,000 บาทให้ผู้สูงอายุ, โครงการคุณสู้ เราช่วย, โครงการเกี่ยวกับสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจ, นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
รวมทั้งยังมีโครงการช่วยเหลือเกษตรกร ผ่านโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี และโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยสถาบันเกษตรกรปีการผลิต 2567/68
  • อัดฉีดเงินเข้าระบบ 4.53 แสนล้าน
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า เงินที่รัฐบาลจะนำมาใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น จะมาจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีและวงเงินสินเชื่อรวมกว่า 4.53 แสนล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่อัดฉีดผ่านการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 1.15 แสนล้านบาทและการใช้วงเงินสินเชื่อและการคํ้าประกัน วงเงิน 3.38 แสนล้านบาท
1
สำหรับโครงการที่อัดฉีดผ่านการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 1.15 แสนล้านบาท ประกอบด้วย โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ระยะที่ 3 หรือเงินดิจิทัลเฟส 3 จำนวน 27,000 ล้านบาท โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านบัตรผู้สูงอายุ 40,000 ล้านบาท โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 3,550 ล้านบาท โครงการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม 16.7 ล้านบาท โครงการส่งเสริม Soft Power ด้านการท่องเที่ยว 15.5 ล้านบาท
โครงการ “ชูใจ วัยเก๋า” 15 ล้านบาท โครงการจ้างแรงงานชลประทาน 5,553 ล้านบาท โครงการบูรณาการและขับเคลื่อนแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติฯ 17 ล้านบาท โครงการ Amazing Thailand Grand Tourism & Sport Year 2025 จำนวน 153 ล้านบาทและโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 38,578.22 ล้านบาท
ขณะที่โครงการที่มีการใช้วงเงินสินเชื่อและการคํ้าประกัน วงเงิน 3.38 แสนล้านบาท ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ 15,000 ล้านบาท โครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย(ระยะที่ 2) 50,000 ล้านบาท โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี 8,362.76 ล้านบาท โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าว 15,000 ล้านบาท โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยตํ่า GSB Boost Up 100,000 ล้านบาท โครงการคํ้าประกันสินเชื่อ PGS ระยะที่ 11 วงเงิน 50,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมี โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 วงเงิน 20,000 ล้านบาท โครงการสินเชื่อซื้อ-สร้าง 50,000 ล้านบาท โครงการสินเชื่อซ่อม-แต่ง 5,000 ล้านบาท โครงการสินเชื่อปลุกพลัง SME 10,000 ล้านบาท โครงการสินเชื่อ Beyond ติดปีก SME 10,000 ล้านบาท และโครงการสินเชื่อ IGNITE THAILAND 5,000 ล้านบาท
  • รมช.คลัง รับกระตุ้นสั้น-กลาง-ยาว
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะมีทั้งโครงการระยะสั้น กลาง และระยะยาว ทั้งโครงการกระตุ้นการเกษตร การท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการโครงสร้างพื้นฐานด้วย ซึ่งคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะดูความเหมาะสมของโครงการต่างๆ ที่จะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในแต่ละช่วง แต่อำนาจที่จะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเป็นเรื่องของกระทรวงนั้น ๆ โดยจะดูในเรื่องที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษและงบประมาณด้วย
“เรายังไม่ขอกล่าวถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ขอให้รอเจ้ากระทรวงนั้น ๆ เป็นผู้ให้รายละเอียด ซึ่งในส่วนของกระทรวงการคลัง เร็ว ๆ นี้ จะมีมาตรการคํ้าประกันรถกระบะของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงสินเชื่อรถยนต์ และช่วยกระตุ้นด้านกำลังซื้อด้วย” นายเผ่าภูมิกล่าว
โฆษณา