วันนี้ เวลา 01:55 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ปรากฏการณ์ช่องว่างของ AI: การเพิ่มความเหลื่อมล้ำระหว่างคนเก่งกับคนธรรมดา

ดร.ทรงพล เทอดรัตนเกียรติ เรียบเรียง
ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำงานและการเรียนรู้ ความเชื่อเบื้องต้นที่ว่า AI จะสร้างความเท่าเทียมและลดช่องว่างระหว่างผู้คนกำลังถูกท้าทายด้วยหลักฐานทางวิชาการที่เพิ่มขึ้น งานวิจัยจากสถาบันชั้นนำทั่วโลกชี้ให้เห็นว่า แทนที่จะช่วยสร้างความเท่าเทียม AI กลับกำลังขยายช่องว่างระหว่างคนที่มีทักษะสูงกับคนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านประสิทธิภาพการทำงานและโอกาสทางเศรษฐกิจ รายงานนี้จะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ ตลอดจนกลไกที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำและผลกระทบในระดับโลก
หลักฐานจากงานวิจัย: ปัญญาประดิษฐ์เพิ่มประสิทธิภาพให้คนเก่งแต่ทำให้คนที่ไม่เก่งแย่ลง
งานวิจัยจาก MIT และมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลกได้พบข้อมูลที่น่าตกใจเกี่ยวกับผลกระทบของ AI ต่อประสิทธิภาพการทำงานในกลุ่มคนที่แตกต่างกัน ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่านักวิทยาศาสตร์ระดับสูงที่ใช้ AI มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 80-90% ขณะที่นักลงทุนมืออาชีพได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 10% เมื่อใช้ AI และผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จสามารถเพิ่มกำไรได้ถึง 15% ด้วยการใช้ AI[1][7] แต่ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญกลับไม่ได้ประโยชน์จาก AI หรือบางกรณีอาจทำงานได้แย่ลงกว่าเดิม
การศึกษาในประเทศเคนยาได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญต่อประเด็นนี้ นักวิจัยได้ทดลองนำ AI ที่เรียกว่า "Mentor" ซึ่งพัฒนาจาก GPT-4 มาช่วยผู้ประกอบการธุรกิจท้องถิ่น ผลลัพธ์พบว่า AI ไม่ได้มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพทางธุรกิจโดยรวมมากนัก แต่กลับเพิ่มช่องว่างระหว่างผู้ประกอบการที่มีประสิทธิภาพสูง (High Performance) และผู้ประกอบการที่มีประสิทธิภาพต่ำ (Low Performance) อย่างมีนัยสำคัญ โดยผู้ประกอบการที่เก่งได้รับประโยชน์จาก AI เพิ่มขึ้นถึง 20% ในขณะที่ผู้ประกอบการที่ไม่เก่งกลับมีประสิทธิภาพแย่ลงถึง 10%[6]
กลไกการสร้างความเหลื่อมล้ำของ AI
ทำไม AI จึงขยายช่องว่างระหว่างคนเก่งกับคนธรรมดา? การศึกษาในเคนยาชี้ให้เห็นถึงกลไกสำคัญที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์นี้ คนที่มีความเชี่ยวชาญสูงจะสามารถตั้งคำถามที่ตรงประเด็นและเฉพาะเจาะจง ซึ่ง AI สามารถตอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาเข้าใจขอบเขตความสามารถของ AI และรู้วิธีการใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในทางกลับกัน คนที่ไม่เก่งหรือไม่มีความเชี่ยวชาญมักจะตั้งคำถามที่ยากและซับซ้อนเกินกว่าที่ AI จะสามารถให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ได้[6]
การวิจัยยังพบว่า ความเข้าใจพื้นฐานต่อเรื่องที่ต้องการคำปรึกษาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การใช้ AI เกิดประโยชน์แตกต่างกัน เมื่อผู้ใช้มีความรู้พื้นฐานเพียงพอ พวกเขาสามารถแยกแยะได้ว่าคำตอบใดจาก AI มีประโยชน์และเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ ในขณะที่ผู้ที่ขาดความรู้พื้นฐานอาจไม่สามารถแยกแยะได้ว่าคำแนะนำใดเหมาะสมกับสถานการณ์ของตน ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดได้[6]
ความเหลื่อมล้ำในระดับโลก: ช่องว่างระหว่างประเทศรายได้สูงและประเทศกำลังพัฒนา
ปรากฏการณ์ช่องว่างจาก AI ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงระดับบุคคล แต่ยังขยายไปถึงระดับประเทศด้วย รายงาน "โปรดระวังความเหลื่อมล้ำทาง AI: การสร้างมุมมองระดับโลกเกี่ยวกับอนาคตของการทำงาน" (Mind the AI Divide: Shaping a Global Perspective on the Future of Work) โดยองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และสำนักงานผู้แทนพิเศษด้านเทคโนโลยีของเลขาธิการสหประชาชาติ ได้ชี้ให้เห็นว่า AI กำลังขยายช่องว่างระหว่างประเทศที่มีรายได้สูงและประเทศกำลังพัฒนา[3][4]
ประเทศรายได้สูงอยู่ในจุดได้เปรียบที่จะใช้ประโยชน์จาก AI ในการเพิ่มผลิตภาพ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่ง การลงทุนในเทคโนโลยี และการพัฒนาทักษะแรงงาน ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะในแอฟริกา ต้องเผชิญกับอุปสรรคจากการขาดโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและแรงงานที่มีทักษะ[3] การลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเสริมศักยภาพการประมวลผลถูกกระจุกตัวในประเทศรายได้สูง เป็นจำนวนเงินกว่า 300 พันล้านดอลลาร์ทั่วโลก ซึ่งสร้างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาทักษะ[3]
ผลการประเมินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ใน 125 ประเทศ ยืนยันว่าประเทศที่ร่ำรวยกว่า รวมถึงตลาดที่พัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ มีความพร้อมสำหรับการนำ AI มาใช้มากกว่าเมื่อเทียบกับประเทศที่มีรายได้น้อย[3] IMF ยังคาดการณ์ว่า AI จะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งงานเกือบ 40% โดยประมาณ 60% ในประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่เพียง 26% ในประเทศที่มีรายได้น้อย[9]
ผลกระทบต่อตลาดแรงงานและสังคม
ปัญญาประดิษฐ์กำลังเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมทั่วโลก นำมาซึ่งโอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเพิ่มผลิตภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความท้าทายใหม่ๆ ให้กับแรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ขาดทักษะที่จำเป็นในยุค AI รายงานจากบริษัทไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC) คาดการณ์ว่าระหว่างปี ค.ศ. 2017 ถึง 2037 จะมีตำแหน่งงานมากกว่า 7 ล้านตำแหน่งที่จะถูกแทนที่ด้วย AI แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีการสร้างงานรูปแบบใหม่ถึง 7.2 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มสุทธิ 200,000 ตำแหน่ง[5]
อย่างไรก็ตาม การกระจายตัวของผลประโยชน์จากการสร้างงานใหม่นี้อาจไม่เท่าเทียมกัน โดยทั่วไปแล้ว คนงานที่มีรายได้สูงและอายุน้อยกว่าอาจได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นอย่างไม่สมส่วนหลังจากการนำ AI มาใช้ ในขณะที่ผู้มีรายได้น้อยและแรงงานสูงอายุอาจไม่สามารถปรับตัวได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงนี้[9]
นอกจากนี้ ผู้หญิงถือว่ามีความเปราะบางสูงสุดต่อช่องว่างทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในบทบาทด้านการจัดการธุรการและการจ้างงานภาคธุรกิจ ซึ่งเป็นสาขาที่มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่ด้วย AI[3]
แนวทางการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสผ่าน AI
แม้ว่าจะมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มขึ้นจาก AI แต่ในขณะเดียวกัน AI ก็มีศักยภาพในการลดช่องว่างทางสังคมถ้าได้รับการพัฒนาและนำไปใช้อย่างเหมาะสม ตัวอย่างเช่น AI สามารถเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับผู้พิการทางการได้ยินผ่านระบบการเรียนรู้ภาษามือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งช่วยให้ผู้พิการทางการได้ยินเข้าถึงการเรียนรู้ภาษามือที่เป็นมาตรฐานสากลได้ง่าย สะดวก และราคาไม่แพง[10]
นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยลดช่องว่างในการเข้าถึงการศึกษา โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านเวลาและทรัพยากร ผ่านคอร์สเรียนออนไลน์ที่ใช้ AI ในการแปลภาษาอัตโนมัติหรือระบบที่ช่วยปรับระดับความยากง่ายของเนื้อหาให้เหมาะกับผู้เรียน[11] แพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่ใช้ AI เช่น Khan Academy หรือ edX สามารถปรับระดับความยากง่ายของบทเรียนตามความสามารถและความเร็วในการเรียนรู้ของผู้ใช้งาน ทำให้คนทำงานสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องเสียเวลาหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการเดินทางไปยังสถานที่เรียน[11]
การเตรียมความพร้อมสำหรับโลกยุค AI
เมื่อเผชิญกับปรากฏการณ์ช่องว่างของ AI สิ่งสำคัญคือการเตรียมความพร้อมทั้งในระดับบุคคลและระดับประเทศ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ และ ดร.สันติธาร เสถียรไทย อธิบายว่าในอนาคตมนุษย์จะแบ่งเป็น 4 สายพันธุ์ และคนเก่งที่หันหลังให้ AI จะแพ้คนธรรมดาที่ใช้ AI เป็น[2] สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาทักษะการใช้ AI ให้เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะอยู่ในระดับทักษะใดก็ตาม
ทักษะที่จำเป็นในยุค AI ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ความรู้ทางเทคนิค แต่รวมถึงความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน การพัฒนาทักษะเหล่านี้จะช่วยให้บุคคลสามารถทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานในอนาคต[5]
ในระดับประเทศ นโยบายสาธารณะควรมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคมที่ครอบคลุมและเสนอโครงการฝึกอบรมใหม่ๆ สำหรับแรงงานที่มีความเปราะบาง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงของ AI ครอบคลุมมากขึ้น ปกป้องการดำรงชีวิต และควบคุมความไม่เท่าเทียมกัน[9] นอกจากนี้ การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศและการบริหารจัดการ AI ในโลกแห่งการทำงานก็เป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับความท้าทายนี้[4]
สรุป: การรับมือกับความเหลื่อมล้ำจาก AI
ข้อมูลจากงานวิจัยและรายงานต่างๆ ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า AI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มช่องว่างระหว่างคนเก่งกับคนธรรมดา และระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนา แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเราควรปฏิเสธเทคโนโลยีนี้ แต่เป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนานโยบายและกลยุทธ์ที่สนับสนุนการเข้าถึง AI อย่างเท่าเทียมและการพัฒนาทักษะที่จำเป็น
สุดท้ายแล้ว AI เป็นเพียงเครื่องมือชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อทุกอุตสาหกรรมและช่วยในการทำธุรกิจ แต่ไม่สามารถทำให้ทุกคนทำงานได้ดีขึ้นโดยอัตโนมัติ[6] ความสำเร็จในยุค AI จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับตัว เรียนรู้ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้อย่างชาญฉลาด โดยไม่ลืมว่าปัจจัยมนุษย์ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของนวัตกรรมและการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
การสร้างโลกที่ทุกคนได้รับประโยชน์จาก AI จึงไม่ใช่เพียงการพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวหน้า แต่เป็นการสร้างระบบนิเวศทางการศึกษา เศรษฐกิจ และสังคมที่สนับสนุนให้ทุกคนมีโอกาสในการเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกของเรา
Citations:
[1] #AI จะทำให้คนเก่งยิ่งเก่งขึ้น แต่คนที่ยังไม่เก่งอาจ #ตกงาน ! - YouTube https://www.youtube.com/watch?v=AsiLMsHd_J4
[2] มนุษย์ 4 สายพันธุ์ ในโลกยุค AI | The Secret Sauce x TDRI EP.743 https://www.youtube.com/watch?v=xOpq362pMP0
[3] AI เพิ่มความเหลื่อมล้ำใน 'ประเทศรายได้น้อย' - ทุนพัฒนาเทคโนโลยีกว่า 300 ... https://www.sdgmove.com/2024/08/23/ai-divide-in-low-income-countries/
[4] เตือน AI อาจเพิ่มช่องว่างความเหลื่อมล้ำประเทศร่ำรวยและประเทศกำลังพัฒนา http://prachatai.com/journal/2024/08/110358
[5] ทักษะต้องมีในยุค AI เพิ่มเพื่อทางเลือกอาชีพหลากหลายเมื่อเข้าสู่วัยทำงาน https://www.starfishlabz.com/blog/1561-%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84-ai-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%99
[6] ผลวิจัยเผยเมื่อคนไม่เก่งมาใช้ AI จะทำงานได้แย่ลงกว่าเดิม - Creative Talk https://creativetalkconference.com/people-less-knowledge-worse-using-ai/
[7] AI จะทำให้คนเก่งยิ่งเก่งขึ้น แต่คนที่ยังไม่เก่งอาจตกงาน! - YouTube https://www.youtube.com/watch?v=G9SM3hADjdg
[8] “AI” ฉลาดเกินมนุษย์? ความรู้เทียบหนังสือ 100 ล้านเล่ม คิดคอนเทนต์เสร็จใน ... https://www.youtube.com/watch?v=Cf85UuXvK9M
[9] ไอเอ็มเอฟเผย AI กระทบตำแหน่งงาน 40% ทำให้ความไม่เท่าเทียมเลวร้ายลง https://www.thairath.co.th/news/foreign/2755259
[10] ใครว่า AI ปัญญาประดิษฐ์ สร้างแต่ความเหลื่อมล้ำ!! - กรุงเทพธุรกิจ https://www.bangkokbiznews.com/tech/innovation/1119686
[11] AI กับการเรียนรู้แบบ Lifelong Learning - มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย https://cce.utcc.ac.th/blogs/ai-lifelong-learning-for-professionals-utcc/
[12] IMF ชี้ AI กระทบ 40% ของงานทั่วโลก คนมีสกิล AI รายได้พุ่ง เพิ่มเหลื่อมล้ำ ... https://ai.in.th/news/imf-ai-article/
[13] Human vs AI : AI จะมาทดแทนคนได้จริงหรือไม่? - AI GEN https://aigencorp.com/human-vs-ai/
[14] AI จะฉลาดกว่ามนุษย์ในอีก 5 ปีข้างหน้า - The Active https://theactive.thaipbs.or.th/news/economy-20240522
[15] คนเก่ง AI “มนุษย์ทองคำ” ยุคดิจิทัล | ประชาชาติธุรกิจ | LINE TODAY https://today.line.me/th/v2/article/PGMnEq8
[16] ปัญญาประดิษฐ์: IMF ระบุ เอไอกระทบการจ้างงาน 40% และทำให้ความไม่ ... https://www.bbc.com/thai/articles/c0kylgxqjevo
[17] คนไทยต้องปรับตัวอย่างไร ในยุคที่คนเก่ง AI คือมนุษย์ทองคำ | ประชาชาติธุรกิจ https://today.line.me/th/v2/article/nXk2Yzo
[18] AI กับความเหลื่อมล้ำจากนามสกุล | PIER https://www.pier.or.th/abridged/2025/01/
[19] เปิด 5 มิตินวัตกรรมที่ใช้ AI ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม - NIA https://www.nia.or.th/5-dimensions-of-ai-innovation-reduce-social-inequality
[20] คิดว่าคนฉลาดจะมีผลกระทบกับ AI มั้ย - Pantip https://pantip.com/topic/42243973
[21] สรุป 10 ประเด็น AI กับโลกการทำงานในอนาคต จากรายงาน “Gen-AI https://ai.in.th/news/pr-new/ai-future-of-work/
[22] 7 บทบาท ของ AI ประโยชน์มีมาก แต่ “ความเสี่ยง” ก็มีด้วย “เศรษฐกิจโลก ... https://www.thairath.co.th/money/economics/global_economics/2813698
[23] ผลการสำรวจเผยผู้คนกว่า 60% ลังเลจะไว้ใจ "ปัญญาประดิษฐ์" https://www.infoquest.co.th/2023/278124
[24] IMF เตือน AI อาจทำคนตกงานมากกว่าที่คิด ความไม่เท่าเทียมรายได้รุนแรงขึ้น | https://workpointtoday.com/imf-warns-ai-may-cause-more-people-to-lose-their-jobs-than-expected/
[25] 6 วิธีที่คุณสามารถเพิ่มทักษะความชำนาญด้าน AI ได้อย่างง่ายดาย - Beryl8 https://www.beryl8.com/th/newsroom/insights/277/6-%E0%B8%A7%E0%B8
[27] AI จะลดช่องว่างการเรียนรู้ในโรงเรียนในประเทศไทยได้หรือไม่ | UNESCO https://www.unesco.org/th/articles/ai-caldchxngwangkareriiynruuinorngeriiyninpraethsithyidhruuexim
[28] ข้อควรระวังการใช้งาน ปัญญาประดิษฐ์ AI ( Artificial Intelligence) https://science.mahidol.ac.th/sosd/?p=2758
[30] AI กับสังคม: ผลกระทบ อิทธิพล และการสร้างสมดุลเพื่ออนาคต - ALPHASEC https://www.alphasec.co.th/post/ai-%E0%B8%81%E0%B8%B1%%9
[31] AI จะสร้างช่องว่างทักษะระหว่างนักพัฒนาที่สามารถซื้อหาได้กับคน ... - Reddit https://www.reddit.com/r/cscareerquestions/comments/1iy4bjw/will_ai_tools_create_a_skill_gap_between_devs_who/?tl=th
[34] คุณค่า AI ปัญญาประดิษฐ์สมองกลอัจฉริยะ สู่การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะแบบ ... https://so05.tci-thaijo.org/index.php/arts/article/view/270060
[35] งานวิจัย Microsoft ชี้ชัด พร้อมจ้างเด็กจบใหม่เก่ง AI มากกว่าคนประสบการณ์สูง https://thestandard.co/microsoft-research-internship-ai/
[36] [PDF] ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยอมรับการใช้เทคโนโลยี AI ( http://ethesisarchive.library.tu.ac.th/thesis/2019/TU_2019_6102036065_11652_11923.pdf
[37] [PDF] การศึกษาผลกระทบจากการยอมรับใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI ... https://archive.cm.mahidol.ac.th/bitstream/123456789/5260/1/TP%20BM.057%202566.pdf
[38] [PDF] การศึกษานวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์เพือการบริหารทรัพยากรมนุษย์ กรณีศึกษา ... https://archive.cm.mahidol.ac.th/bitstream/123456789/5627/1/TP%20HOM.003%202567.pdf
โฆษณา