รัสเซียและยูเครนจะไม่หยุดยิงกันในระยะสั้นๆ
เมื่อทิศทางของสงครามรัสเซีย-ยูเครน เริ่มสั่นคลอน ในขณะที่กองทัพรัสเซียเปิดฉากโจมตีท่อส่งน้ำมันในเคิร์สค์และล้อมทหารยูเครนหลายพันนาย
เซเลนสกีซึ่งมีความขัดแย้งกับสหรัฐฯ ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้น
เขาทำได้เพียงก้มหัวให้กับสหรัฐฯ และขอให้ทรัมป์อย่าตัดความช่วยเหลือทางทหาร และขอให้มัสก์อย่าตัด "สตาร์ลิงก์" นอกจากนี้
เขายังต้องกดดันต่อรัสเซียโดยให้กองทัพรัสเซียหยุดยิงก่อน
อย่างไรก็ตาม แผนการหยุดยิงของเซเลนสกีทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขายังคงใช้ชีวิตอยู่ในความฝัน
เจ้าหน้าที่จากคณะผู้แทนยูเครน เปิดเผยว่า พวกเขามีข้อเสนอให้หยุดยิงทางอากาศและทางทะเล เนื่องจากทางเลือกดังกล่าวสามารถนำไปปฏิบัติและตรวจสอบได้ง่าย จึงสามารถเริ่มต้นดำเนินการได้เลย
ตามที่ เซเลนสกี กล่าว การกระทำดังกล่าวอาจทำให้กองทัพรัสเซียสูญเสียความเหนือกว่าทางอากาศ และป้องกันไม่ให้กองทัพรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน
ความคิดนี้สร้างสรรค์มาก แต่เขาเคยคิดบ้างไหมว่าทำไมรัสเซียถึงต้องตกลงตามนี้
เมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นสมัยเก่า หรือสมัยใหม่ ในประเทศเราหรือต่างประเทศ
เมื่อใดก็ตามที่สองกองทัพสู้รบ ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ และความมีชีวิตหรือความตาย จะถูกตัดสินทันที
เราต่างไม่เคยเห็นพรรคการเมืองใด กองทัพใด
ที่กำลังจะพ่ายแพ้กล้าที่จะขอให้พรรคที่มีอำนาจเหนือกว่ายอมผ่อนปรน
เซเลนสกีอาจรู้สึกว่ากองทัพยูเครนสามารถใช้ "ไพ่แมวระเบิดที่ย้อนกลับ" ได้
และทั้งสองฝ่ายสามารถ "ต่อสู้กันอย่างยุติธรรม" โดยอาศัยเพียงกำลังทหารภาคพื้นดิน
บางทีด้วยอาวุธและอุปกรณ์จากกองทัพสหรัฐฯ และการสนับสนุนด้านข่าวกรองจากนาโต้ กองทัพยูเครนอาจยังคงสามารถเอาชนะได้
ยังไงเสีย เซเลนสกีก็เดินทางมาถึงซาอุดิอาระเบียแล้ว และจนถึงขณะนี้ รัสเซียยังไม่ได้ตอบสนองต่อแผนหยุดยิงที่เกินขอบเขตดังกล่าว
ในความเป็นจริง ตั้งแต่ทรัมป์เริ่มไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทัศนคติของรัสเซียก็เย็น(ชา)ลงมาก
ภายหลังการประชุมสุดยอดซาอุดิอาระเบียระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ นายลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า
ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ มากกว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
นั่นคือ...หมายความว่ารัสเซียไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยยูเครนไป
ทางด้าน ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ก็กล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนในบทสัมภาษณ์ล่าสุด โดยกล่าวว่า
รัสเซียยินดีที่จะพิจารณาหยุดยิงชั่วคราว หากยูเครนมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญในการแก้ปัญหาสันติภาพขั้นสุดท้าย เงื่อนไขที่ฝ่ายรัสเซียเสนอมาก็ยังคงเหมือนเดิม นั่นคือ
ดินแดนที่ถูกยึดไปจะต้องไม่ถูกส่งคืน กองทัพยูเครนจะต้องยอมแพ้ ยูเครนจะต้องไม่เข้าร่วมนาโต
และจะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่เพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่สนับสนุน "การปลดนาซี"
เงื่อนไขเหล่านี้จากฝั่งรัสเซียเปรียบเสมือนกับการขอให้เซเลนสกีลาออกและ "สร้างยูเครนยุคใหม่ขึ้นมา" ตามความปรารถนาของพวกเขา
ด้วยการเปรียบเทียบแบบง่ายๆ จะเผยให้เห็นว่าความเข้าใจของทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับเรื่อง “การหยุดยิง” แตกต่างกันแค่ไหน
เพื่อนๆบางคนอาจพูดว่ารัสเซียต้องการให้ยูเครนล่มสลาย ซึ่งดูจะเป็นความเท็จ จากการ "สร้างยูเครนยุคใหม่ขึ้นมา"
แต่เป็นเรื่องจริงที่ยูเครนต้องการทำลายรัสเซียเช่นกัน
จากนั้นในเดือนมีนาคม 2565 เมื่อรัสเซียเสนอเพียงว่ายูเครนไม่ควรเข้าร่วมนาโตและไม่ขอดินแดนยูเครน เหตุใดเซเลนสกีจึงฉีกข้อตกลงที่ลงนามไปล่ะ?
ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเซเลนสกีได้รับการยุยงจากภายนอก และกล่อมให้เชื่อว่ายูเครนสามารถชนะสงครามได้ หรือแม้แต่ล้มรัสเซียและโค่นล้มระบอบการปกครองของปูตินได้
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะพุ่งรบต่อไป
ตามคำพูดที่ว่า หลังจากนั้นประธานาธิบดีไบเดนของสหรัฐฯ กล่าวว่า "เราไม่สามารถปล่อยให้ชายผู้นั้นอยู่ในอำนาจได้"
สอดคล้องกับเมื่อยูเครนได้รับรถถังหลัก "Leopard 2" ของเยอรมัน
เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน(ในขณะนั้น)ก็กุลีกุจอขึ้นไปบนรถถังเพื่อทดลองขับ และสิ่งแรกที่เขาพูดคือ
ฉันจะไปยึดมอสโกว....ให้ได้เลยยยยยย....(3คำหลังนี่ ผมเขียนเพิ่มเอาเองนะครับ ฮาาา)
รวมถึงแผนที่ "การแยกส่วนรัสเซีย" ที่แขวนอยู่บนผนังห้องทำงานของบูดานอฟ ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองกระทรวงกลาโหมยูเครน
กล่าวได้ว่าตลอดช่วงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน เป้าหมายของเซเลนสกีไม่ได้มีแค่การปกป้องประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเอาชนะรัสเซีย
เพื่อบรรลุเป้าหมายในการล้มล้างระบอบการปกครองของปูติน
รื้อรัสเซียออกเป็นประเทศเล็กๆ หลายสิบประเทศ และมะรุมมะตุ้มแบ่งสรรทรัพยากรต่างๆของรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่รัสเซียยังคงควบคุมเคิร์สก์ได้อยู่ รัสเซียจะไม่มีวันยอมหยุดยิง
ในทางกลับกัน แถลงการณ์ของยูเครนกลับโยนความผิดไปที่รัสเซียที่ไม่ต้องการหยุดยิง กันต่อไป...
เอาล่ะๆๆ เรามาดูกันสิว่า ที่ทรัมป์ไม่อยากให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ทั้งหมดเพื่อโน้มน้าวให้ปูตินหยุดยิงตามที่เขาพูดจะจริงหรือไม่?
หรือว่า ครัสนอฟ( Peter Krasnov )ที่สูญหายไปจะเริ่มแสดงตัวตนที่แท้จริงของเขาและกดดันยูเครนให้ดื้อรั้นรัสเซียต่อไป
ในกรณีนี้วิธีเดียวที่จะตัดสินความจริงได้ก็คือ.... บนสนามรบ
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
