ผีเสื้อขยับปีกที่ประเทศหนึ่งทำให้เกิดพายุในอีกซีกโลกหนึ่ง ตอนที่ 2
ถึงเราจะรู้ว่าผีเสื้อขยับปีกแล้วเกิดความเปลี่ยนแปลงด้านลบต่อโลก เราก็อาจไม่สัมผัสผลกระทบโดยตรงทันที คนส่วนใหญ่ไม่สนใจด้วยซ้ำ เรามักมองสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันเกี่ยวกับเราโดยตรงไหม ถ้าไม่เกี่ยว เราก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไร นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เช่น ภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นตำตาในโลก เรารู้ว่าพลาสติกไม่ดีต่อโลก แต่เราก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ยังใช้มันอยู่ทุกวัน เรารู้ว่าควันดำสร้างห่วงโซ่ไม่ดี แต่เราก็ไม่เอารถไปซ่อมสักที เราเห็นท่อน้ำสาธารณะรั่ว เราอาจไม่แยแสพอที่จะโทรศัพท์ไปแจ้งการประปา เป็นต้น
มิพักเอ่ยถึงเรื่องโลกร้อนซึ่งคนส่วนใหญ่มองว่าไม่ใช่ปัญหา ไม่เกี่ยวกับฉัน เพราะฉันมีเครื่องปรับอากาศ มีเงินซื้อความเย็นสบาย น้ำท่วมโลกเป็นเรื่องไกลตัว เพราะฉันอยู่ที่คอนโดฯชั้นสูง ๆ
เราไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไรเมื่อเกิดแผ่นดินไหวที่จังหวัดหนึ่งในเมืองจีน คร่าชีวิตชาวบ้านไปห้าพันคน แต่เมื่อภัยธรรมชาตินั้นทำให้ชาวบ้านที่เหลือหมื่นคนไม่มีที่อยู่ ต้องอพยพไปเมืองใหญ่ หางานในโรงงานทำ และกระทบต่อการแข่งขัน เพื่อเพิ่มกำไรมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง โรงงานผลิตนมผงแห่งหนึ่งจึงใส่สารเมลามีนเข้าไปในผลิตภัณฑ์ และส่งมาขายให้เรา เมื่อนั้นเราจึงรู้สึกว่า The Butterfly Effect เกี่ยวข้องกับเรา แล้วจึงรู้สึกเดือดร้อนขึ้นมา
ตามวงจรธรรมชาติ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปลาเล็กกินสิ่งมีชีวิตที่เล็กกว่าลงไปเป็นทอด ๆ มนุษย์เป็นท่อนหนึ่งของห่วงโซ่อาหาร เนื่องจากเราอยู่เหนือสุดของห่วงโซ่นี้ เราเป็นผู้กินปลาใหญ่ จึงมักติดนิสัยควบคุมชีวิตที่ด้อยกว่าเรา
เมื่อตัวแปรคือมนุษย์ซึ่งอยู่เหนือสุดของห่วงโซ่ ใช้ความโลภเอามากไว้ก่อน เราก็สามารถเปลี่ยนทิศทางของห่วงโซ่รวมได้อย่างง่ายดาย ในเวลานี้ เรากินมากเกินไป ใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากเกินความต้องการ ด้วยความโลภเต็มอัตราเร่ง มันก็ก่อ Butterfly Effect ที่กำลังนำพาโลกดิ่งลงเหว
ปัญหาต่าง ๆ ในโลกเวลานี้ เช่น คนล้นโลก การแก่งแย่งแข่งขัน สงคราม บริโภคนิยม โลกร้อน อากาศวิปริต ฯลฯ ล้วนเป็น cause-effect ท่อนหนึ่งของโลกรวม โดยมีความโลภ ความโง่เขลา ความเห็นแก่ตัวเป็นตัวกระตุ้น
การกระทำที่เกิดจากความไม่รู้เป็นเรื่องพอเข้าใจได้ ทว่าการกระทำที่เกิดจากความรู้ แต่ไม่แยแสเป็นเรื่องน่าเศร้า
ตัวอย่างมีอยู่รอบตัวเรา การซื้อสัตว์ป่าที่ตลาดนัด มันหมายถึงแม่ของมันอาจต้องถูกฆ่าจึงเอาลูกของมันมาขายได้ หมายถึงวงจรชีวิตในป่าเปลี่ยนไป หมายถึงผลกระทบต่อป่า หมายถึงผลกระทบต่อสภาพดินฟ้าอากาศ และในภาพรวมก็คือโลกทั้งใบ
การตัดป่าเผาทุ่งในอินโดนีเซียส่งผลให้เกิดควันพิษปกคลุมประเทศ และแพร่ไปทั่วทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย และภาคใต้ของไทย ทำให้นาย ก. ป่วย ทำให้รัฐต้องเสียเงินรักษา ทำให้ประชาชนที่เสียภาษีต้องรับผิดชอบ รัฐต้องจ่ายเงินพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ ระบบสาธารณสุขจ่ายเงินมหาศาลไปกับค่ายา ค่ารักษาที่ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น หากไม่มีคนพ่นควันพิษ
จะบอกว่า “ฉันไม่เกี่ยว” หรือ “ธุระไม่ใช่” ไม่ได้ เราเกี่ยว! และมันเป็นธุระของเราเสมอ
เคยสงสัยไหมว่าทำไมคนในประเทศที่พัฒนาแล้วจึงจริงจังกับการต่อต้านสินค้าที่ได้มาจากการทำลายวงจรธรรมชาติ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ก็เพราะพวกเขาเข้าใจกระบวนการทำงานของอิทัปปัจจยตา รู้ว่าโดยภาพรวมการทำลายวงจรธรรมชาติที่จุดใดจุดหนึ่งอาจทำลายโลก ไม่ช้าก็เร็ว ริ้วคลื่นแห่งอิทัปปัจจยตาจะมาถึงตัวเรา
ข้ออ้างของคนจำนวนมากคือเราช่วยสังคมช่วยโลกได้จริงหรือ เราไม่มีกำลังอำนาจที่จะเปลี่ยนโลก เราคนเดียวอาจไม่มีกำลังพอ แต่เราอาจประเมินตัวเองต่ำไป หากผีเสื้อตัวหนึ่งสามารถทำให้ฝนตกที่อีกทวีปหนึ่งได้
ลองนึกดูว่าเราจะทำอย่างอื่นได้มากแค่ไหน และลองนึกดูต่อไปว่า หากคนจำนวนมากกล้าทำเรื่องดี ๆ เรื่องหนึ่งหรือสองสามเรื่องพร้อมกัน พลังของปีกผีเสื้อจะกระพือแรงเพียงใด
จาก รอยยิ้มใต้สายฝน / วินทร์ เลียววาริณ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
