13 มี.ค. เวลา 11:02 • ประวัติศาสตร์

วาติกัน: ประเทศที่เล็กที่สุดในโลก แต่อำนาจศาสนามหาศาล

วาติกัน (Vatican City) เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ทั้งในแง่ของพื้นที่และจำนวนประชากร แต่กลับมีบทบาทสำคัญในระดับสากลในฐานะศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ประเทศนี้เป็นที่ตั้งของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตะปาปา ซึ่งมีอิทธิพลต่อชาวคาทอลิกทั่วโลก บทความนี้จะกล่าวถึงประวัติศาสตร์ สถานที่สำคัญ ระบบการปกครอง และลักษณะเฉพาะของนครรัฐวาติกัน
ประวัติศาสตร์ของวาติกัน
นครรัฐวาติกันมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ย้อนกลับไปถึงยุคจักรวรรดิโรมัน ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร ต่อมาในปี ค.ศ. 1929 วาติกันได้รับเอกราชจากอิตาลีภายใต้ สนธิสัญญาลาเตรัน (Lateran Treaty) ที่ลงนามโดยรัฐบาลอิตาลีและสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 11 ทำให้วาติกันกลายเป็นรัฐอิสระที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ
ปัจจุบัน วาติกันทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของศาสนจักรโรมันคาทอลิก และเป็นสถานที่สำคัญสำหรับผู้แสวงบุญจากทั่วโลก
ลักษณะทางภูมิศาสตร์
วาติกันเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล (landlocked) ตั้งอยู่ภายในกรุงโรม ประเทศอิตาลี มีพื้นที่เพียง 0.49 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถือว่าเล็กที่สุดในโลก พรมแดนของประเทศถูกล้อมรอบด้วยกำแพงวาติกัน ซึ่งแบ่งอาณาเขตระหว่างวาติกันและอิตาลี
แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ภายในประเทศมีสิ่งปลูกสร้างสำคัญมากมาย รวมถึงมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ และพิพิธภัณฑ์วาติกัน ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรักษางานศิลปะและโบราณวัตถุที่ทรงคุณค่า
การปกครองและโครงสร้างทางการเมือง
วาติกันปกครองในระบอบ เทวาธิปไตย (Theocracy) โดยมี สมเด็จพระสันตะปาปา เป็นประมุขสูงสุด ทั้งในด้านศาสนาและการเมือง พระองค์มีอำนาจในการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่บริหาร และออกกฎหมายผ่านองค์กรปกครองภายใน ซึ่งรวมถึงสำนักวาติกัน (Curia) และคณะพระคาร์ดินัล
นครรัฐวาติกันไม่มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย สมเด็จพระสันตะปาปาได้รับเลือกโดยที่ประชุมพระคาร์ดินัล (Conclave) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ดำเนินมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ประชากรและวัฒนธรรม
วาติกันมีประชากรประมาณ 800 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักบวช เจ้าหน้าที่ศาสนา และบุคคลที่ปฏิบัติงานให้กับสำนักวาติกัน อย่างไรก็ตาม ประเทศนี้ ไม่มีประชากรถาวร พลเมืองของวาติกันได้รับสัญชาติชั่วคราวตามตำแหน่งหน้าที่ และเมื่อสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ สัญชาติวาติกันจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ
แม้ว่าจะเป็นประเทศขนาดเล็ก แต่วาติกันเป็นศูนย์กลางของศิลปะและวัฒนธรรม โดยเฉพาะในด้านสถาปัตยกรรมและจิตรกรรม ผลงานของศิลปินชื่อดัง เช่น ไมเคิลแองเจโล และราฟาเอล ล้วนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในพิพิธภัณฑ์วาติกัน
เศรษฐกิจของวาติกัน
เนื่องจากวาติกันไม่มีอุตสาหกรรมหรือแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ เศรษฐกิจของประเทศจึงพึ่งพาแหล่งรายได้หลัก ได้แก่
การบริจาคจากคริสตศาสนิกชนทั่วโลก – เงินบริจาคจากคริสตชนเป็นแหล่งรายได้หลักของวาติกัน
การท่องเที่ยว – รายได้จากการเข้าชมพิพิธภัณฑ์วาติกัน และการจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก
การออกแสตมป์และเหรียญที่ระลึก – วาติกันเป็นที่รู้จักในด้านการออกแสตมป์และเหรียญที่ระลึก ซึ่งเป็นที่นิยมของนักสะสมทั่วโลก
นอกจากนี้ วาติกันยังมีธนาคารของตนเอง คือ สถาบันเพื่อผลงานทางศาสนา (IOR - Institute for Works of Religion) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการทางการเงินของศาสนจักร
สถานที่สำคัญในวาติกัน
1. มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Basilica)
มหาวิหารที่สำคัญที่สุดของศาสนจักรคาทอลิก และเป็นที่ตั้งของหลุมฝังพระศพของนักบุญเปโตร หนึ่งในอัครสาวกของพระเยซู
2. จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Square)
ลานกว้างหน้ามหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่สมเด็จพระสันตะปาปาออกมาพบปะและอวยพรประชาชน
3. พิพิธภัณฑ์วาติกัน (Vatican Museums)
เป็นที่เก็บรวบรวมศิลปะและโบราณวัตถุที่สำคัญของโลก รวมถึง โบสถ์น้อยซิสทีน (Sistine Chapel) ซึ่งมีภาพวาด "The Creation of Adam" โดยไมเคิลแองเจโล
วาติกันเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก แต่กลับมีบทบาทสำคัญในระดับสากลในฐานะศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ระบบการปกครองของประเทศนี้อยู่ภายใต้การนำของสมเด็จพระสันตะปาปา ซึ่งมีอำนาจสูงสุดทั้งในด้านศาสนาและการบริหาร
แม้ว่าจะไม่มีประชากรถาวรหรือเศรษฐกิจที่พึ่งพาอุตสาหกรรม แต่ด้วยความสำคัญทางศาสนา วัฒนธรรม และศิลปะ ทำให้นครรัฐวาติกันเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีอิทธิพลและเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
————————————
• 𝗛𝗮𝗰𝗸 𝗸𝗻𝗼𝘄𝗹𝗲𝗱𝗴𝗲, 𝗖𝗿𝗮𝗰𝗸 𝗗𝗮𝘁𝗮•
ฉลาดขึ้นวันล่ะ 1 องศา
————————————
• กดติดตามเราได้ทุกช่องทางกันนะ!! •
𝗙𝗔𝗖𝗘𝗕𝗢𝗢𝗞 | 𝗜𝗡𝗦𝗧𝗔𝗚𝗥𝗔𝗠 |
𝗕𝗟𝗢𝗖𝗞𝗗𝗜𝗧 | 𝗫 |𝗧𝗜𝗞𝗧𝗢𝗞 | 𝗬𝗢𝗨𝗧𝗨𝗕𝗘
#crackynews #สำนักข่าวแคร็กกี้ #วาติกัน
————————————
ติดต่อสอบถาม-โฆษณาประชาสัมพันธ์
โฆษณา