Blockdit Logo (Mobile)
TRIZ.AI Innovation Creative studio
•
8 ชั่วโมงที่แล้ว • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

เริ่มต้นเป็น นวัตกร ด้วยวิธีง่ายๆ

ดร.ทรงพล เทอดรัตนเกียรติ เรียบเรียง
การก้าวเข้าสู่การเป็นนวัตกรไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลายคนคิด โดยแท้จริงแล้ว นวัตกรคือผู้ที่สามารถสร้างสรรค์แนวคิด วิธีการ หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในการทำสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้ว หรือการปรับปรุงสิ่งเดิมให้ดีขึ้น[6] นวัตกรมีความหมายกว้างกว่านักประดิษฐ์ ไม่ได้จำกัดเฉพาะการประดิษฐ์สิ่งของหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ ที่จับต้องได้เท่านั้น แต่รวมถึงสิ่งที่เป็นนามธรรม เช่น แนวคิด ทฤษฎี วิธีการ หรือกระบวนการใหม่ๆ[10]
บทความนี้จะนำเสนอแนวทางที่เป็นระบบสำหรับการเริ่มต้นเป็นนวัตกรด้วยวิธีง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง
เข้าใจบทบาทและกระบวนความคิดของนวัตกร
ก่อนจะเริ่มเดินทางสู่การเป็นนวัตกร สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจว่านวัตกรคือใคร และต้องมีกรอบความคิดอย่างไร นวัตกรคือบุคคลหรือกลุ่มคนที่แนะนำการเปลี่ยนแปลงและแนวคิดใหม่ๆ เป็นคนแรกในการกระทำสิ่งต่างๆ มีความรู้ความสามารถในการเข้าใจและประยุกต์ใช้ความรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ รับมือกับอุปสรรคในระหว่างการพัฒนานวัตกรรมได้ กล้าเสี่ยงอย่างชาญฉลาด กล้าทำสิ่งใหม่ๆ และกล้าคิดต่างอย่างสร้างสรรค์[6]
การเป็นนวัตกรนั้นเริ่มต้นที่ "คุณ" เอง ต้องมีความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน[1] นวัตกรที่ประสบความสำเร็จต้องกล้าท้าทายสิ่งที่เคยเป็นมา (Challenge the "Status" Quo) ไม่ติดอยู่กับความเคยชินหรือสิ่งที่เคยทำมาในอดีต เพราะระบบความคิด (Mindset) คืออุปสรรคสำคัญที่อาจทำให้นวัตกรรมล้มเหลว[4] นอกจากนี้ นวัตกรยังต้องมีความมุ่งมั่น ไม่ท้อถอยง่ายๆ[1]
วิธีการพัฒนากรอบความคิดของนวัตกรนั้นต้องเริ่มจากการฝึกคิดเชิงระบบ (System Thinking) มองหาอย่างครอบคลุมว่ามีองค์ประกอบใดบ้างที่จะมาตอบโจทย์ธุรกิจหรือตอบโจทย์ลูกค้าได้ ต่อมาคือการคิดหลากหลาย (Divergent Thinking) ออกแบบไอเดียให้หลากหลาย ตามด้วยการผสมผสานความคิด (Convergent Thinking) นำความคิดที่หลากหลายมาเชื่อมกันเพื่อหาไอเดียที่ใช่ที่สุด และสุดท้ายคือการคิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Thinking) เพื่อหาช่องทางในการนำนวัตกรรมเข้าสู่ตลาด[7]
ทักษะสำคัญที่นวัตกรต้องมี
การพัฒนาตนเองให้เป็นนวัตกรต้องอาศัยทักษะหลัก 5 ประการ ได้แก่ การสังเกต (Observing) เริ่มจาก What – How – Why สังเกตว่าเห็นอะไร อย่างไร แล้วทำไมจึงเป็นเช่นนั้น การตั้งคำถาม (Questioning) ตั้งคำถามจากสิ่งที่เราเห็น นำไปสู่สมมติฐาน (Hypothesis) อันเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างไอเดีย[7] การสร้างการมีส่วนร่วม (Associating)
เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาร่วมเสนอหรือออกความเห็น เพื่อให้เกิดการ co-creation หรือ co-design การทดลอง (Experimenting) ลงมือปฏิบัติและทดลองปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ไปพร้อมกับการสังเกต และการเชื่อมโยง (Networking) กับผู้อื่น[7]
ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้คุณมองเห็นโอกาสและปัญหาที่ผู้อื่นมองข้าม สามารถเชื่อมโยงจุดต่างๆ เข้าด้วยกันจนเกิดเป็นไอเดียใหม่ที่มีคุณค่า และที่สำคัญคือสามารถนำไอเดียไปปฏิบัติจนเกิดผลจริงได้
## ขั้นตอนสู่การเป็นนวัตกร
การเป็นนวัตกรนั้นต้องมีแนวทางที่เป็นระบบ เพื่อให้จัดลำดับได้ว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง ซึ่งกระบวนการที่สมเหตุสมผลและนำไปปฏิบัติได้จริงจะทำให้เกิดความชัดเจน และผู้นำไปปฏิบัติก็มีหลักยึดในการทำกิจกรรมต่างๆ[1] ต่อไปนี้คือขั้นตอนง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นเป็นนวัตกรได้อย่างเป็นระบบ
1. พิจารณาความพร้อมและเลือกประเด็นที่ใช่
ขั้นตอนแรกคือการพิจารณาว่าเวลานี้คือช่วงเวลาอันเหมาะสมที่คุณ ทีมงานของคุณ และองค์กรของคุณ จะริเริ่มโครงการนวัตกรรมใช่หรือไม่[1] ถ้ายังไม่ใช่ ก็ควรจะเลื่อนออกไปก่อน พร้อมกันนี้ให้ค้นหาว่านวัตกรรมอะไรที่เหมาะสมจะนำมาใช้พัฒนาธุรกิจของคุณ หรือแก้ปัญหาให้กับลูกค้าของคุณ[2] การเลือกประเด็นการทำงานให้ถูกต้อง (Strategic Targeting) ถือเป็นการกลัดกระดุมเม็ดแรกของการทำงาน ควรเลือกประเด็นที่สนใจ เข้าใจพื้นฐานปัญหา และสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ในระดับหนึ่ง[3]
2. กำหนดเป้าหมายและขอบเขตงานที่ชัดเจน
หลังจากเลือกประเด็นที่ต้องการทำแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการกำหนดทิศทางด้วยการวางเป้าหมายที่ชัดเจนให้กับโครงการ[1] และกำหนดขอบเขตการทำงานว่ามีอะไรที่เกี่ยวข้องหรือต้องนำมาใช้บ้าง ต้องเตรียมตัวอย่างไร[2] รวมถึงทบทวนให้รอบอีกครั้งก่อนลงมือเตรียมการใดๆ ว่านวัตกรรมนั้นเหมาะสมกับสิ่งที่ธุรกิจทำอยู่หรือไม่ เป็นไปในทิศทางและเป้าหมายขององค์กรหรือเปล่า[2]
3. ทำความเข้าใจปัญหาและความต้องการอย่างลึกซึ้ง
ขั้นตอนที่สำคัญมากคือการเปิดกว้างทางความคิด และสำรวจแนวโน้มต่างๆ เทคโนโลยีใหม่ และความต้องการของลูกค้า เพราะคุณต้องการข้อมูลเชิงลึกก่อนที่จะได้ไอเดียใหม่ๆ[1] นอกจากนี้ยังต้องศึกษาปัจจัยภายนอกที่เกี่ยวข้อง เช่น แนวโน้มการตลาด เสียงตอบรับจากลูกค้า รวมถึงเทคโนโลยีที่จะมารองรับการผลิต[2] วิธีที่ดีที่สุดคือการลงพื้นที่เข้าใจปัญหา อย่าคิดทำงานบนหอคอยงาช้าง นวัตกรต้องลงไปดูในพื้นที่ ฝังตัวเพื่อเรียนรู้ ทำความเข้าใจ คนในพื้นที่จะให้คำตอบได้ว่าอะไรที่สามารถทำได้ หรืออะไรที่เป็นไปได้แค่ในเชิงทฤษฎี[3]
4. ระดมความคิดและพัฒนาไอเดีย
เมื่อมีข้อมูลเชิงลึกแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการระดมสมองแบบมีระบบ[1] ในขั้นตอนนี้ อย่ามองข้าม Bad Idea เพราะใครจะไปรู้ว่าไอเดียที่ฟังแล้วไม่เข้าท่าในตอนแรก อาจกลายเป็นไอเดียที่ดีที่สุดในเวลาต่อมา[4] การคิดนอกกรอบ (Reframe) มักนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ที่โลกต้องจดจำ นวัตกรที่ดีควรมีมุมมองที่หลากหลาย และสวมหมวก 3 ใบในเวลาเดียวกัน คือ ต้องมีความเป็นนักออกแบบในตัว มีมุมมองด้านธุรกิจ และมีความสามารถในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีได้อย่างชาญฉลาด[4]
5. สร้างต้นแบบและทดสอบไอเดีย
หลังจากระดมความคิดและกลั่นกรองไอเดียมาได้สัก 3-5 ไอเดีย ขั้นตอนต่อไปคือการนำไอเดียเบื้องต้นไปทดสอบและเรียนรู้จากความคิดเห็นผู้ใช้ เพื่อพิจารณาดูว่าไอเดียนี้น่าสนใจหรือไม่[1] การทดสอบนี้ควรเลือกพื้นที่การทำงานที่เหมาะสมกับการทำงานจริงในขั้นทดลอง ไม่ควรเลือกพื้นที่ที่มีความซับซ้อนทางสังคมสูงในการทดสอบนวัตกรรม[3] เมื่อพบไอเดียที่น่าสนใจก็สามารถนำไปพัฒนาเป็น business case (เอกสารที่เล่าถึงเหตุผลในการริเริ่มและศักยภาพของโครงการ)[1]
6. ลงมือทำและขยายผล
ขั้นตอนสุดท้ายเกิดขึ้นหลังจากได้รับการอนุมัติแล้ว คุณสามารถนำไอเดียไปลงมือทำและขยายผลได้[1] ในขั้นตอนนี้ ควรเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ บุคลากร ทรัพยากร และพื้นที่ให้เหมาะสมแก่การปฏิบัติงาน เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่[2] และทำให้อยู่ในรูปแบบของธุรกิจที่มีการคำนวณต้นทุน กำไร ขาดทุน โดยปกติ[2]
การเข้าถึงผู้คนได้ในวงกว้างเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยให้นวัตกรรมประสบความสำเร็จ ซึ่งวิธีที่ได้ผลดีที่สุดคือการทำให้บริการเป็นดิจิทัลทั้งหมด (Digitalization) ซึ่งจะทำให้นวัตกรรมขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว เข้าถึงผู้คนได้ง่าย โดยที่ค่าใช้จ่ายไม่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว[4]
เทคนิคการสร้างนวัตกรรมอย่างสร้างสรรค์
นอกจากขั้นตอนหลักในการเป็นนวัตกรแล้ว ยังมีเทคนิคเฉพาะที่ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนานวัตกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่ามีเทคนิคอะไรบ้างที่จะช่วยให้คุณสร้างนวัตกรรมได้ง่ายขึ้น
การใช้เทคนิค SCAMPER เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์
SCAMPER เป็นเทคนิคที่ช่วยในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ประกอบด้วย Substitute (การทดแทน), Combine (การผสมผสาน), Adapt (การปรับตัว), Modify/Magnify/Minify (การปรับเปลี่ยน/เพิ่ม/ลดขนาด), Put to another use (การนำไปใช้ในเป้าหมายอื่น), Eliminate/Reduce (การตัดทิ้ง/ลดทอน), และ Reverse/Rearrange (การกลับด้าน/จัดเรียงใหม่)[9] เทคนิคนี้ช่วยให้นวัตกรสามารถมองเห็นมุมมองที่แตกต่างและพัฒนาไอเดียให้มีความสร้างสรรค์มากขึ้น
การคิดอย่างรอบด้านด้วย 6 ประเด็นหลัก
การคิดนวัตกรรมให้รอบด้านอาจใช้ 6 ประเด็นหลักเป็นกรอบความคิด ได้แก่ ระดับชั้นของเด็ก (Level), เนื้อหาวิชา (Subject), รูปแบบสื่อ (Format), เทคนิค (Technique), วิธีการใช้ (Method), และจุดขาย (USP)[9] การคิดอย่างรอบด้านจะช่วยให้นวัตกรรมที่สร้างขึ้นมีความสมบูรณ์และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างครบถ้วน
เทคนิคการรวมความคิด
การรวมความคิดหลากหลายรูปแบบสามารถนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมได้ เช่น การผสมผสาน (Combination), การทำซ้ำ (Duplicate), การลดทอน (Reduce), การประดิษฐ์ใหม่ (Re-Invention), การปรับตัว (Adaptability), การทดแทน (Substitute), การตัดทิ้ง (Eliminate), การบูรณาการ (Integration), การทำให้เป็นเกม (Gamification), และการเล่าเรื่อง (Storytelling)[9] เทคนิคเหล่านี้ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมที่แปลกใหม่และมีคุณค่า
การสร้างวัฒนธรรมนวัตกรรมในองค์กร
การเป็นนวัตกรไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ระดับบุคคล แต่ยังสามารถขยายไปสู่การสร้างวัฒนธรรมนวัตกรรมในองค์กรได้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้องค์กรมีความคิดสร้างสรรค์และสามารถพัฒนานวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่อง
การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อนวัตกรรม
การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อนวัตกรรมเริ่มต้นจากการปรับความเข้าใจใหม่เรื่องการเรียนรู้เป็นรายบุคคล ใส่ใจบุคลากรเป็นรายบุคคลในด้านของการเรียนรู้และการบริหารเพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเขา[8] นอกจากนี้ ยังต้องยกระดับการรับฟังเสียงของทุกคนในองค์กร ซึ่งเป็นทักษะสำคัญของผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงนวัตกรรม เพราะรากฐานของนวัตกรรมเกิดมาจากการรับฟัง รับฟังอย่างกระตือรือร้นและเห็นอกเห็นใจอย่างแท้จริง[8]
การสร้างเครือข่ายและความร่วมมือ
การสร้างการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย ('All for education' Partnership) เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการพัฒนานวัตกรรม[3] นวัตกรไม่ควรคิดว่าตนเองจะสร้างความสำเร็จสมบูรณ์ที่จะแก้ปัญหาสังคมได้เพียงลำพัง เพราะเจ้าของปัญหาตัวจริงคือ 'พื้นที่' หน้าที่ของนวัตกรคือกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และสามารถส่งต่อการแก้ปัญหา[3] การท้าทายผู้ออกแบบหลักสูตรและการใช้เทคโนโลยีให้มีเป้าหมายร่วมกับองค์กรก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนานวัตกรรม[8]
การประยุกต์นวัตกรรมในบริบทต่างๆ
นวัตกรรมสามารถถูกนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลากหลายบริบท ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา ธุรกิจ หรือสังคม ซึ่งแต่ละบริบทก็มีลักษณะเฉพาะที่ต้องคำนึงถึงในการพัฒนานวัตกรรม
นวัตกรรมในการศึกษา
ในบริบทการศึกษา นวัตกรรมอาจอยู่ในรูปแบบต่างๆ เช่น การเรียนรู้ออนไลน์ (Online learning), แบบฝึกหัด (Worksheet), สื่อการสอนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI), เกมไพ่ (Card Game), ของเล่น (Toy), หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book),
เกมกระดาน (Board game), แบบจำลอง (Model), งานประดิษฐ์ (Craft), วงล้อ (Wheel), วิดีโอ (VDO), ชุดกล่อง (Boxset), สไลด์ (Slide), ความจริงเสมือน/ความจริงเสริม (AR/VR), ปริศนา (Puzzle), เว็บไซต์ (Website), และแอปพลิเคชัน (Application)[9] รูปแบบที่หลากหลายนี้ช่วยให้นวัตกรสามารถเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับบริบทและความต้องการของผู้เรียนได้
นวัตกรรมเพื่อสังคม
ในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคม สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย ทำความเข้าใจปัญหา และร่วมเลือกเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน การสำรวจก่อนเริ่มทำงานจะช่วยทำให้เราเห็นเส้นทางการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคมและสนุกไปกับการแก้ปัญหาสังคมที่เราสนใจได้มากยิ่งขึ้น[5] กระบวนการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคมประกอบด้วย 6 ขั้นตอนหลัก คือ การทำความเข้าใจ (Empathize), การหาความจริง (Define), การเสนอความคิด (Ideate), การทำต้นแบบ (Prototype), การทดสอบไอเดีย (Test), และการขยายผลการทำงาน (Scale up)[5]
บทสรุป
การเริ่มต้นเป็นนวัตกรไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลายคนคิด เพียงแค่มีกรอบความคิดที่เหมาะสม พัฒนาทักษะที่จำเป็น และมีกระบวนการที่เป็นระบบ ทุกคนก็สามารถเป็นนวัตกรได้ ไม่ว่าจะเป็นในระดับบุคคล ทีมงาน หรือองค์กร การสร้างนวัตกรรมเริ่มจากการทำความเข้าใจปัญหาและความต้องการอย่างลึกซึ้ง ระดมความคิดอย่างสร้างสรรค์ พัฒนาต้นแบบ ทดสอบไอเดีย และนำไปขยายผล ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือต้องมีความมุ่งมั่น ไม่ท้อถอยง่ายๆ และพร้อมที่จะลองผิดลองถูก
เมื่อคุณเริ่มต้นเดินทางสู่การเป็นนวัตกร จงจำไว้ว่านวัตกรรมเริ่มต้นที่ "คุณ" นวัตกรที่ประสบความสำเร็จล้วนเริ่มต้นจากการเป็นผู้สังเกตที่ดี ตั้งคำถามที่ท้าทาย และกล้าลงมือทำในสิ่งที่แตกต่าง แม้อาจต้องเผชิญกับความล้มเหลวหลายครั้ง แต่ทุกความล้มเหลวล้วนเป็นบทเรียนที่มีค่าในการพัฒนานวัตกรรมที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต จงมุ่งมั่น อดทน และสนุกไปกับการเป็นนวัตกร เพราะโลกของเรายังต้องการนวัตกรรมใหม่ๆ อีกมากมายเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
Citations:
[1] 39 หกขั้นตอนสู่การเป็นนวัตกร - The KOMMON https://www.thekommon.co/39-be-an-innovator-in-six-steps/
[2] 8 ขั้นตอนสร้างสรรค์นวัตกรรมได้ง่ายๆ - SME Thailand https://www.smethailandclub.com/marketing/3298.html
[3] 5 Steps สำคัญ 'นวัตกร' เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา | กสศ. https://www.eef.or.th/infographic-10-06-20/
[4] 9 เคล็ดลับสร้างนวัตกรรมให้ประสบความสำเร็จ - GRID Mag https://www.gridmag.co/9-cooperate-innovation/
[5] [PDF] 6 ขั้นตอนพัฒนาไอเดีย สู่นวัตกรรมสังคม - Unicef https://www.unicef.org/thailand/media/9211/file/Social%20Innovation%20Toolkit%20-%20Manual.pdf
[6] นวัตกร (Innovator) | ร่วมสร้างสรรค์แบ่งปันความรู้เพื่อสังคมแห่งการเรียนรู้ https://www.thailibrary.in.th/2021/04/07/innovator/
[7] อยากสร้างสรรค์นวัตกรรมให้สำเร็จ เคล็ดลับอยู่ที่ 4 คำนี้ Mindset Skills ... https://www.ftpi.or.th/2022/105271
[8] 4 วิธี เริ่มต้นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของโรงเรียน - Starfish Labz https://www.starfishlabz.com/blog/14
[9] สร้างนวัตกรรมการศึกษาได้ไม่ยากอย่างที่คิด - Starfish Labz https://www.starfishlabz.com/blog/1468-%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%%8%94
[10] “น วัต กร” คือ อะไร ? อาชีพ นี้ มี จริง ไหม ? แล้ว เขา ทำ อะไร กัน - CMU STeP https://www.step.cmu.ac.th/view_content.php?ct_id=TVRZeQ%3D%3D
[11] Creating Innovators: คู่มือสร้างนักนวัตกรรมเปลี่ยนโลก (ฉบับย่อ) https://bookscape.co/summary-creating-innovators
[12] Wishing เทคนิคการคิดสร้างสรรค์พัฒนานวัตกรรม โดย อ.ศศิมา สุขสว่าง-เก๋ https://www.sasimasuk.com/17377016/wishing-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%
[13] ไม่ใช่พรสวรรค์! เรียนรู้ทักษะสร้างสรรค์ บ่มเพาะนวัตกรน้อย - The KOMMON https://www.thekommon.co/creating-innovators/
[14] ทุกคนเป็นนวัตกร ที่สามารถลุกขึ้นมาสร้างสรรค์นวัตกรรมได้ I TRIBE ไทย ... https://www.youtube.com/watch?v=Y6X1OMk0-Ac
[15] ทดลองอย่างไร ให้เกิดนวัตกรรมในธุรกิจ - LiVE Platform https://www.live-platforms.com/th/education/article/317-how-to-experiment-to-create-innovation-in-business/
[16] 3 ขั้นตอนเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเชิงนวัตกรรม (Innovative Thinking) https://www.sasimasuk.com/16805006/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%%A
[17] 7 วิธีสร้าง Innovation ในองค์กรที่ผู้บริหารเริ่มทำได้ง่ายๆ คำแนะนำจาก จอร์จ ... https://www.marketingoops.com/exclusive/business-case/innovation-business-george-hartel-gq/
[18] มาฝึกฝนทักษะ 5I เพื่อเป็นนวัตกรในศตวรรษที่ 21 - NIA https://www.nia.or.th/5I
[20] 3 สิ่งที่ต้องคิดก่อนพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยศศิมา สุขสว่าง https://www.sasimasuk.com/16787983/3-%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%%
[21] 101 บทเรียนสำหรับนวัตกร - The KOMMON https://www.thekommon.co/101-lessons-for-innovators/
[22] EP2/5 เคล็ดลับการสร้างนวัตกรรมให้ธุรกิจเติบโต Top Strategies to Drive ... https://www.youtube.com/watch?v=R6T1UNxsgFQ
[23] INNOVATOR T.R.I.B.E. มาทำความรู้จักนวัตกรทั้ง 5 คุณลักษณะ จาก NIA ... https://www.youtube.com/watch?v=VCoLAIwwpa0
[24] มัดรวม! 15 นวัตกรรมสุดเจ๋งใหม่ๆ ที่จะมาปฏิวัติการทำงานในอนาคต - Jobsdb https://th.jobsdb.com/th/career-advice/article/new-trend-innovation
[25] ทุกคนเกิดมาพร้อมกับความเป็น 'นวัตกร' ในตัวเอง - NIA https://www.nia.or.th/QuoteTRIBE-EP1
[27] การสร้างนวัตกรสู่องค์กรแห่งนวัตกรรม แก้ปัญหาภาวะการเรียนรู้ที่ถดถอย ... https://www.starfishlabz.com/blog/946-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%A7
โฆษณา