Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นครเชียงรายนิวส์ - Nakorn Chiang Rai News
•
ติดตาม
13 มี.ค. เวลา 20:35 • ข่าว
รัฐบาลยืนยันนโยบายปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าเด็ดขาดภายใน 30 วัน
ด้านแพทย์เตรียมเผยข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับรู้
“สมศักดิ์” หนุนแนวทางรัฐบาล “แพทองธาร” จัดการบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง
ประเทศไทย, 14 มีนาคม 2568 – นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แสดงความพอใจต่อ นโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า โดยสั่งการให้ ดำเนินมาตรการกวาดล้างภายใน 30 วัน เพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรม
ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 นายสมศักดิ์ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยการบูรณาการของหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะในด้านกฎหมายที่กระทรวงสาธารณสุขไม่มีอำนาจครอบคลุมทั้งหมด อย่างไรก็ตาม กระทรวงยืนยันว่าจะดำเนินมาตรการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าให้เต็มที่ตามกรอบกฎหมายที่มีอยู่
“บุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษที่อันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะ กลีเซอรีนและโพรไพลีนไกลคอล ที่เกิดปฏิกิริยากลายเป็นฟอร์มาลีน หรือสารดองศพ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน” นายสมศักดิ์กล่าว
เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า การที่รัฐบาลให้ความสำคัญและมีแนวทางที่ชัดเจน ย่อมทำให้การบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้นและนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
นายกรัฐมนตรีสั่งเดินหน้าปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า เข้มงวดห้ามขายใกล้สถานศึกษา
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพการประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง โดยเน้นเป้าหมายไปที่เยาวชนและสถานศึกษา
นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบและกวาดล้างการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง โดยเฉพาะบริเวณใกล้สถานศึกษา พร้อมย้ำว่าหากพบเจ้าหน้าที่รัฐหรือข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง จะต้องได้รับโทษทางวินัยและอาญา
“ดิฉันมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และกรมศุลกากร ปราบปรามการนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาดภายใน 30 วัน โดยเริ่มจากการสกัดกั้นการนำเข้าที่ด่านศุลกากร ปิดช่องทางการลักลอบนำเข้า และจับกุมผู้ค้าที่ลักลอบจำหน่าย” นายกรัฐมนตรีระบุ
เธอยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในการบังคับใช้กฎหมาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็น หน้าที่ของทุกภาคส่วนในการร่วมกันปกป้องเด็กและเยาวชน หากพบเห็นการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเยาวชน ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีต่อไป”
ราชวิทยาลัยวิชาชีพแพทย์ เตรียมแถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า
วันที่ 11 มีนาคม 2568 ราชวิทยาลัยวิชาชีพแพทย์แห่งประเทศไทย จะจัดเสวนา “หมอไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า: ข้อเท็จจริงที่ประชาชนต้องรู้” ณ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ จังหวัดนนทบุรี ภายในงานจะมีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ อันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าต่อสมองเด็ก, บุหรี่มือหนึ่ง มือสอง และมือสาม, สารเสพติดที่อยู่ในบุหรี่ไฟฟ้า และความเสี่ยงที่นำไปสู่การเสพติดสารเสพติดชนิดอื่น
สถิติที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย
• สำนักงานสถิติแห่งชาติ (2567) รายงานว่าประเทศไทยมีผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 2.6% เป็น 4.8% ของประชากรกลุ่มวัยรุ่นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
• กรมควบคุมโรค (2567) เปิดเผยว่า 80% ของเยาวชนที่เริ่มใช้บุหรี่ไฟฟ้า มีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปสู่การสูบบุหรี่แบบมวนในอนาคต
• องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าบุหรี่ไฟฟ้าอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและปอด มากกว่าบุหรี่ทั่วไปถึง 30% หากใช้ในระยะยาว
สรุป
รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้สั่งการให้ปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาดภายใน 30 วัน โดยเน้นเป้าหมายไปที่ กลุ่มเยาวชนและพื้นที่สถานศึกษา ด้านกระทรวงสาธารณสุขยืนยันดำเนินมาตรการตามกรอบกฎหมายอย่างเข้มงวด ขณะที่ราชวิทยาลัยวิชาชีพแพทย์เตรียมเปิดเผยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชน
ฝ่ายที่สนับสนุนมาตรการแบนบุหรี่ไฟฟ้ามองว่า เป็นแนวทางที่ถูกต้องเพื่อปกป้องสุขภาพของเยาวชนและประชาชนทั่วไป ในขณะที่ฝ่ายคัดค้านชี้ว่าการแบนอาจ ทำให้เกิดตลาดมืดและการลักลอบนำเข้า ซึ่งอาจเป็นอันตรายมากขึ้นจากการขาดมาตรฐานในการควบคุม
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย