เมื่อวาน เวลา 14:32 • หุ้น & เศรษฐกิจ

งานหด คนเจ็บพุ่ง! รัฐนำร่องช่วยคนกลับสู่ตลาดงาน อังกฤษรอลุ้นแผนใหม่ก่อนถังแตก💸

วิกฤติ “งานหาย” แดนผู้ดี รัฐบาลอังกฤษจะช่วยคนให้กลับมาทำงานได้ยังไง โดยไม่ทิ้งคนอ่อนแอไว้ข้างหลัง?!? 🤔
เหมือนเสียงสัญญาณเตือนดังกังวาลทั่วเกาะอังกฤษ เมื่อ “ซาราห์” โดนกระหน่ำซ้ำด้วยอาการปวดหลัง หลังเคยทำงานแบกกล่องในคลังสินค้ามาหลายปี พอเธอเจ็บสาหัสจนหมอสั่งให้พักยาว งานที่เคยมีเลยเหมือนค่อยๆ เลือนหาย แถมวัยก็ไม่เอื้อให้วิ่งหางานใช้แรงแบบเดิมได้อีก
ไม่ต่างจาก “แมนดี้” ที่โดนเลิกจ้างแล้วเกิดภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล พอไม่มีงานก็ไม่มีชีวิต ทำให้เธอแทบไม่อยากขยับไปไหน ส่วน “ไมเคิล” ซึ่งปวดหลังตั้งแต่ปี 2022 ก็ยังรอคิวผ่าตัดไม่เสร็จสักที ระหว่างนี้มีแค่รับจ้างช่วงคริสต์มาสเป็นครั้งคราวเท่านั้น
คนทั้งสามอยู่ในเมืองบาร์นสลีย์ ทางตอนเหนือของอังกฤษ สุขภาพที่ทรุดโทรมทำให้พวกเขากลายเป็นกลุ่มที่สถิติบอกว่าเป็น “กลุ่มคนวัยทำงานที่ไร้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ” (หรือพูดง่ายๆ คือไม่มีงานและไม่มองหางานแล้ว) จำนวนนั้นเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 3 ล้านคน (อายุ 16-64 ปี) จากเดิมแค่ราว 2 ล้านคนในปี 2019 ซึ่งไม่เคยเกิดกับประเทศร่ำรวยอื่นใดในช่วงเวลาเดียวกันเลย นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาที่กดดันตัวคนเจ็บ แต่ยังกดดันรัฐบาลให้ปวดหัวหนักอีกด้วย
✅ ค่าใช้จ่ายสวัสดิการพุ่งพรวด
รัฐบาลต้องจ่ายสวัสดิการเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพให้คนวัยทำงานเพิ่มขึ้นราว 19 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 830 พันล้านบาท) หรือ 25 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท) เมื่อปรับตามอัตราเงินเฟ้อ (คิดเป็น 0.7% ของ GDP) นับตั้งแต่ปี 2019 แล้วคาดว่าจะมีเพิ่มอีก 13 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 570 พันล้านบาท) ภายในปี 2029
ทั้งหมดนี้รวมไปถึงสวัสดิการคนพิการ (Personal Independence Payment หรือ PIP) ที่ไม่ว่าจะทำงานได้หรือไม่ก็มีสิทธิ์รับอยู่ดี ปัจจุบันในอังกฤษกับเวลส์ มีถึง 4 ล้านคน (1 ใน 10 ของผู้ใหญ่ช่วงวัยทำงาน) ที่รับสวัสดิการอย่างน้อยหนึ่งประเภท เทียบกับปี 2019 ที่มี 2.8 ล้านคนเท่านั้น
ประเด็นคือ พอคนหลุดออกจากตลาดแรงงานมากๆ ก็ยิ่งหักศักยภาพการเติบโตและกระตุ้นเงินเฟ้อ เพราะแรงงานหาย รายได้โดยรวมของประเทศก็ยุบ แถมรัฐบาลก็ต้องจ่ายเงินสวัสดิการมากขึ้น…กลายเป็น “หลุมดำงบประมาณ” กันไป
✅ ป่วยจริง? หรือสวัสดิการเย้ายวน?
ข้อมูลความเจ็บป่วยดูออกจะสับสน บางสถิติบอกว่าคนหนุ่มสาวมีปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้น ส่วนวัยกลางคนก็ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ข้อกระดูกต่างๆ แต่ที่แน่ๆ คือมีแนวโน้มว่าคนอังกฤษรายงานปัญหาสุขภาพจิตถี่ขึ้นหลังโควิด ขณะเดียวกัน “คิวรอผ่าตัด” ที่ยาวเหยียดก็ถูกมองเป็นตัวปัญหา แต่หน่วยงานเฝ้าระวังการคลัง (Office for Budget Responsibility หรือ OBR) บอกว่า ถ้าลดเวลารอคิวได้ครึ่งนึง ก็จะมีคนกลับเข้าตลาดแรงงานแค่ 25,000 คน ซึ่งไม่ได้มากมายเท่าใดนัก
ด้วยความที่รัฐสวัสดิการเกี่ยวกับสุขภาพและความพิการ รวมถึงเคยมีคำสั่งศาลให้เปิดโอกาสคนมีปัญหาสุขภาพจิตเข้าถึงสวัสดิการเพิ่มขึ้น ทำให้บานปลายไปอีก ยิ่งช่วงโควิด มีกระบวนการ “สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์และวิดีโอ” แทนแบบตัวต่อตัว จนหลายคนแนะนำเคล็ดลับการตอบคำถามใน TikTok (ประมาณว่า “ถ้าทำอาหารเองไม่ไหว…ให้บอกละเอียดๆ” ฯลฯ) ก็อาจทำให้คนเข้าข่ายรับสวัสดิการได้ง่ายขึ้น
✅ พอได้ป้าย ‘เจ็บป่วย’ ก็มักติดยาว
ใครที่เข้าสู่ระบบสวัสดิการเพราะสุขภาพ มักกังวลว่าถ้าออกไปทำงานแล้วงานไม่เวิร์ก กลับมาขอรับใหม่จะยุ่งยากอีก เลยเป็นวงจรลูปอยู่ในระบบนานขึ้น สถาบันวิจัย Resolution Foundation พบว่าคนที่เพิ่งได้ PIP รุ่นใหม่ๆ มีโอกาสออกจากระบบมากกว่าเดิม อย่างกับมันเป็น “หล่มดูด” ที่ลงไปแล้วไม่ได้ขึ้นง่ายๆ
✅ เกมอันหนักใจของรัฐบาล
ค่าใช้จ่ายสวัสดิการคนพิการ-สุขภาพบวมขึ้นมหาศาล จนรัฐบาลต้องพยายาม “ตัด” บางส่วน เพราะงบจะไม่พอเลี้ยงระบบอื่น เช่น งบทหารหรืองบลงทุนในช่วงเศรษฐกิจที่เติบโตเชื่องช้านี้ ล่าสุดก็มีข่าวว่ารัฐบาลเล็งตัดงบสวัสดิการลงปีละราว 6 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 260 พันล้านบาท) ซึ่งก็จะเป็นประเด็นร้อนมาก โดยเฉพาะกับกลุ่มคนพิการที่กังวลจะโดนผลกระทบ ใครจำได้ว่าโครงการ PIP ตอนเปิดตัวใหม่ๆ ก็หวังจะเซฟงบได้ 1.4 พันล้านปอนด์ แต่ปรากฏว่าล่าสุดเหมือนลดได้ไม่ถึง 100 ล้านปอนด์เท่านั้น
รัฐบาลรู้ว่าต้อง “รื้อใหญ่” ระบบสวัสดิการ เพื่อไม่ให้คนกลัวหลุดระบบตอนเสี่ยงกลับไปทำงาน แต่ก็ต้องไม่ละเลยคนที่ป่วยจริงๆ…นี่แหละงานช้างของอังกฤษที่ต้องจัดสมดุลให้ได้!!!
✅ Barnsley Pilot…แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์?
ที่บาร์นสลีย์มีโครงการนำร่อง จะเริ่มเมษายนนี้ เน้นเชื่อมโยงโปรแกรมฝึกอาชีพกว่า 70 ชุดเข้าเป็นแพ็กเดียวกัน แล้วร่วมมือกับนายจ้างเพื่อวางคนให้ตรงงาน ถ้าเวิร์ก (คาดว่าผลตอบแทนคุ้ม 4 ต่อ 1) กระทรวงการคลังก็อาจเอาไปใช้ทั่วประเทศ
❌ ปัญหาอีกด้าน: ต้นทุนการจ้างที่แพงขึ้น
ในเมื่อรัฐบาลขึ้นอัตรา National Insurance (ประกันสังคมนายจ้าง) และค่าแรงขั้นต่ำ ค่าใช้จ่ายด้านแรงงานก็ยิ่งสูงขึ้น นายจ้างเลยลังเลจะจ้างใครที่ประวัติไม่แน่นหรือสุขภาพไม่สมบูรณ์ 100% การปฏิรูปกฎหมายแรงงานใหม่ (Employment Rights Bill) ก็อาจทำให้ตลาดจ้างงานติดขัดมากขึ้นไปอีก
👀 บทสรุป: รอดูชะตากรรม
นาทีนี้ อังกฤษดูคล้ายสนามประลองที่รัฐบาลต้องเร่ง “กู้เกมแรงงาน” ให้คนในวัยทำงานได้กลับมาลุยต่อ โดยไม่ทำให้รัฐล้มละลายเพราะทุ่มเงินสวัสดิการจนเกินตัว แต่ก็ต้องเคารพสิทธิคนป่วย คนพิการ ส่วนผสมเหล่านี้เปราะบางมาก เหมือนเดินบนเส้นเชือกที่พร้อมขาดได้ทุกเมื่อ หากไม่คุมสมดุลดีๆ
ในระหว่างที่งบประมาณรั่วไหลเหมือนน้ำซึมผ่านหลังคา…ทุกสายตากำลังจับจ้องว่า รัฐบาล (ที่เพิ่งเจอคำตัดสินแพ้คดีความเรื่องร่นเวลาปรึกษาประชาชน) จะมีไพ่เด็ดอะไรมาหยุด “วิกฤติงานหาย” ครั้งนี้ หรือสุดท้าย คนอังกฤษจะมี “คำตอบ” ในการเลือกตั้งครั้งหน้า!!!
โฆษณา