9 ชั่วโมงที่แล้ว • ข่าวรอบโลก

ทรัมป์ชู “เสรีภาพ(ของใคร?)” ตั้งกำแพงวาทกรรม จ่อไล่บี้คู่ตรงข้ามจนมุม!!! 🤔🔥

อย่างที่เคยเตือนไว้แต่แรก… “เสรีภาพในการพูด” นี่แหละ จะกลายเป็นสนามรบอันดุเด็ดเผ็ดร้อน เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศลั่นในสภาคองเกรสว่าเขาคือผู้หยุด “การเซ็นเซอร์ของรัฐบาล” แล้วคืนอิสรภาพในการวิจารณ์กลับสู่อเมริกา แต่ก็มีลูกเล่นสารพัด ที่เหมือนจะบอกว่า “เอ๊ะ… หรืออิสรภาพนั้นจะได้ใช้เฉพาะบางคนเท่านั้น?”
✅ เริ่มจากการที่รองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ ปรากฏตัวในยุโรป พร้อมสุนทรพจน์ขึงขัง พูดเหมือนจะย้ำว่าชาวยุโรปนั้น “เปราะบาง” เกินไป เกรงกลัว “คำพูดเฮทสปีช” จนทนรับความเห็นต่างไม่ได้
✅ ด้านอีลอน มัสก์ ก็ขยี้จุดเดือดด้วยมุกล้อเลียนนาซี แถมทำท่าตรงแขนเหมือนจะ “โบกไม้โบกมือ” แนวชวนให้ผวา… บอกตรงๆ คนพากันงงว่ามันฮาตรงไหน?
✅ และที่สะเทือนใจสุดคือ ทรัมป์เคลมตัวเองว่าได้ “ลบล้างความอยุติธรรมระดับชาติ” ด้วยการอภัยโทษคนกลุ่มหนึ่งที่บุกยึดอาคารรัฐสภาเมื่อต้นปี 2021 พ่วงข้อหาเหยียดผิวและเรียกร้องให้ “แขวนคอไมค์ เพนซ์” รองประธานาธิบดีในขณะนั้นอีกต่างหาก!!!
ฟังดูแล้วสะพรึงสุดๆ แต่เท่านั้นยังไม่จบ จุดพีคกว่านั้นคือ เหตุเนรเทศ “มาห์มูด คาลิล” นักศึกษาปริญญาโทจากโคลัมเบีย ผู้ไปปรากฏตัวในม็อบต่อต้านอิสราเอลและสงครามในกาซา ซึ่งจู่ๆ โดนเพิกถอนกรีนการ์ด ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า แล้วยังถูกจับใส่กุญแจมือนำตัวส่งเรือนจำในหลุยเซียนาอีกต่างหาก!!! 🚨
❌ ถามว่าเขาผิดกฎหมายอะไรหนักหนา? คดียังไม่ฟ้องก็ถูกขังแล้ว ดูเหมือนจะอ้างเรื่อง “ความปลอดภัยแห่งชาติ” แต่ไม่มีใครรู้ขอบเขตแน่นอน… เพราะรัฐบาลทรัมป์ก็ไม่ได้บอกละเอียดว่าต้อง “ข้ามเส้น” แบบไหนถึงโดนจัดหนัก
❌ แถมคำพูดจากทรัมป์ในโซเชียล (Truth Social) ยังตามน้ำต่อว่า “คาลิลคือหัวรุนแรงโปรฮามาส” และ “นี่แค่จุดเริ่มต้น” โดยขู่จะลุยกวาดจับนักศึกษา “บ่อนทำลายอเมริกา” อีกเพียบ!!!
งานนี้หลายคนชักใจคอไม่ดี ว่า “อเมริกาเฟิร์ส” จะกลายเป็น “ทรัมป์เฟิร์ส” หรือไม่? เพราะนอกจากเรื่องนักศึกษาแล้ว รัฐบาลทรัมป์ยังพุ่งเป้า:
✅ ตัดงบมหาวิทยาลัยโคลัมเบียกว่า 400 ล้านดอลลาร์ โทษฐานไม่ปกป้องนักศึกษาชาวยิวจากการเหยียด (ทั้งที่อีกฟากก็บอกว่า ถูกล็อกเป้ามากเกินไป)
✅ เตรียมตรวจสอบมหาวิทยาลัยอื่นอีก 9 แห่ง แต่ยังไม่เผยว่าใช้เกณฑ์ไหนตัดสิน
✅ ลงนามคำสั่งยกเลิกสัญญาและเพิกถอน “สิทธิความมั่นคง” ของสำนักงานกฎหมายบางแห่ง ที่เคยทำงานให้ฝ่ายตรงข้ามพรรครีพับลิกัน
✅ ออกข้อบังคับใหม่ ตัดสิทธิ์การปลดหนี้กู้ยืมเพื่อ “งานบริการสาธารณะ” หากองค์กรนั้นทำงานแนวสนับสนุน “ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการผนวกรวม” (DEI) ซึ่งทรัมป์เหมาว่าเป็น “กิจกรรมอันเสี่ยงต่อการเลือกปฏิบัติ”
สรุปแล้ว… การวางกรอบ “เสรีภาพคำพูด” แบบทรัมป์ กำลังจะพาอเมริกาไปสู่โหมด “พูดได้ ถ้าฉันอนุญาต” หรือไม่? 🤔 ล่าสุด มีผลสำรวจจาก The Future of Free Speech องค์กรวิชาการอิสระ ชี้ชัดว่าการสนับสนุนเสรีภาพคำพูดในอเมริกา “ถดถอยลง” อย่างน่าตกใจ เป็นอันดับ 3 ใน 33 ประเทศ รองแค่ญี่ปุ่นกับอิสราเอลเท่านั้น ซึ่งนักวิจัยก็กังวลว่าความกลัวจะครอบงำสังคม อาจทำให้คนถอยหนีจากการพูดความเห็นจริงๆ เพียงเพราะกลัวการลงดาบจากผู้มีอำนาจ
ขณะที่อีกฟาก อีลอน มัสก์ ซึ่งรวยล้นฟ้าและคุม X (ชื่อเดิมทวิตเตอร์) แถมมียศใหญ่ในรัฐบาล ดูจะยิ่งลุยเต็มสูบ ล่าสุดโพสต์ชี้หน้าวุฒิสมาชิกมาร์ค เคลลี (อดีตนักบินและนักบินอวกาศกองทัพเรือ) ว่าเป็น “คนทรยศ” โทษฐานไปเยือนยูเครนแล้วกล้าหนุนหลังฝ่ายนั้นอย่างเปิดเผย… บอกเลย ใครจะกล้าทวีตด่ากลับ ถ้า “ฝั่งโน้น” ครองอำนาจเต็มมือแบบนี้?
สรุปสถานการณ์วันนี้… เสรีภาพคำพูดของอเมริกาภายใต้โดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะเหมือนสนามประลองที่บางคนได้ยืดเส้นยืดสายเต็มที่ ในขณะที่อีกหลายคนถูกตีกรอบจนพูดอะไรก็เหมือนเดินลัดริมหน้าผา… ระวังตกได้ทุกเมื่อ!!! ⚠️
โฆษณา