16 มี.ค. เวลา 09:29 • ท่องเที่ยว
อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ

เวียนกลับมาอีกครั้งสำหรับงานฉลองอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ

เป็นทั้งงานฉลองประจำปีและงานกาชาดของจังหวัดหนองคาย ปีนี้จัดตรงกับวันที่ 5-13 มีนาคม
เราไปเดินเล่นในคืนที่ 5 ของงาน ถึงตัวงานในปีนี้จะได้จบลงไปแล้ว แต่เราพึ่งมีเวลามาอัปภาพและบันทึกเรื่องราวเพื่อเล่าสู่กันฟัง
ถึงจะเป็นงานฉลองที่จัดขึ้นในจังหวัดตัวเองทุกเดือนมีนาคมของทุกปี แต่ช่วงหลัง ๆ เราก็ไม่ได้ไปเดินเล่นหลายปีแล้ว เหตุผลก็มีทั้งไม่ว่างหรือไม่รู้ว่าจะไปซื้ออะไร
สไตล์งานก็เหมือนงานออกร้านทั่วไปที่มีทั้งส่วนราชการและเอกชน เต็มไปด้วยของกิน ของใช้ ร้านขายต้นไม้ เฟอร์นิเจอร์ และเหล่าซุ้มกิจกรรม เห็นแวบ ๆ ว่ามีการแข่งขันตะกร้อกับเปตองด้วยแต่ไม่ได้เดินไปดู ดึก ๆ ก็มีการแสดงดนตรีจากศิลปินบนเวทีกลาง
ส่วนที่เป็นเหมือนไฮไลท์ของงานหน่อย ก็คือ "การแสดงประกอบแสง เสียง ตำนานสงครามปราบฮ่อ" ที่จัดกันมาทุกปี และมีการแสดงทุกวันจนกว่างานจะสิ้นสุด
นี่แอบอยากให้เขาเอาการแข่งขันตะกร้อกับเปตองมาแข่งโชว์ใกล้ ๆ กับการแสดงจัง จะได้แวบดูได้ทั้งการแสดงและกีฬา
เดินเข้างานมาก็เจอกับม้าที่จะเข้าร่วมการแสดงปีนี้
ของกินเยอะมาก
ตกค่ำคนก็เริ่มออกมาเดินงานกัน
วันนี้อากาศกำลังดีไม่หนาวและไม่ร้อน ต่างจากเมื่อสองวันที่แล้วที่จู่ ๆ ลมหนาวก็กลับมาอีก ทั้งที่เก็บเสื้อกันหนาวเข้าตู้แล้วก็ต้องได้ดึงเอามาใส่ใหม่ แล้วก็ร้อนภายในชั่วข้ามคืน คนที่มางานช่วงวันสองวันแรกคงสุขกับอากาศหนาว ๆ ที่หลงมากันบ้างล่ะ
หนึ่งสิ่งที่น่าตื่นเต้นของงานปีนี้คือการที่ซุ้มยิงปืนกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง
ก่อนการแสดงจะเริ่มในเวลาทุ่มเศษ ๆ เราก็เดินอ้อมไปเล่นที่ซุ้มยิงปืนที่อยู่หลังโรงยิมซะหน่อย
เดินอ้อมโรงยิม ผ่านโซนเครื่องเล่น
เดินไปถึงก็ได้ยินเสียงดังมาก พยายามบังคับตัวเองไม่ให้ตื่นตระหนกตามเสียง แต่ดวงตากลับกระตุกทุกครั้งที่ได้ยินเสียงปืน
เสียงประกาศเชิญชวนให้เข้าไปทดลองดังแทรกในบรรยากาศ มีเหล่าเด็กชายและผู้ใหญ่ทั้งหญิงชายนั่งรออยู่ในเต๊นท์หลังคาสีน้ำเงิน วันนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไร ขณะที่วันเปิดงานวันแรกได้ยินข่าวว่าซุ้มแทบแตก
การเข้าร่วมกิจกรรมทดสอบความแม่นก็ไม่ได้ยุ่งยาก แค่เดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ เลือกประเภทปืนที่จะลอง ก็มีให้เลือกแค่ 2 อย่าง คือปืนสั้นและปืนยาว จากนั้นก็ซื้อเซตกระสุนที่จะยิง แล้วเดินไปหาเจ้าหน้าที่ที่คุมช่องยิง
ใครไม่เคยยิงปืนมาก่อน หรือเคยแต่ลืมหมดแล้วอย่างเรา พี่เจ้าหน้าที่ก็จะสอนวิธีการจับปืน การเล็งปืนให้ใหม่ตั้งแต่ต้น
ยิงยังไงให้เป้าสะอาด 555
สี่นัดไม่เข้าสักนัด 😅
ข้อมือเราไม่แข็งพอจะคุม 9 มม. ผลก็ออกมาตามที่เห็น ขณะที่ปืนยาว .22 ก็พอไปวัดไปวาได้ ปีหน้าค่อยมาแก้มือใหม่แล้วกัน XD
เอาละใกล้จะทุ่มหนึ่งแล้ว การแสดงกำลังจะเริ่มแล้ว เราเดินกลับไปหน้าศาลากลางหลังเก่ากันเถอะ
บรรยากาศรอบพื้นที่การแสดง
ก่อนเริ่มมีการรำบวงสรวง
ก่อนเริ่มมีการรำบวงสรวง
เรื่องราวของการแสดงจะเกี่ยวข้องกับสงครามฮ่อ โดยจะแบ่งตัวละครดำเนินเรื่องหลักออกเป็นฝั่งตัวแทนทหารชาวบ้านชาวหนองคาย และทัพหลวงที่มาจากบางกอก
มีการกล่าวถึงเรื่องราวของกองทัพฝ่ายใต้ ที่มีกรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคมเป็นแม่ทัพ ที่จะยกทัพไปปราบฮ่อในแคว้นเมืองพวน และได้ตั้งกองบัญชาการกองทัพอยู่ที่เมืองหนองคาย โดยระหว่างเรื่องราวนั้นก็จะมีการเล่าถึงการพบกันครั้งแรก ระหว่างกรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม กับหม่อมทองสุก หรือหม่อมศุข (สกุลเดิม สุริยวงศ์) ที่เมืองหนองคาย
การแสดง
เรื่องราวเริ่มต้นด้วยความลี้ลับ ก่อนเข้าฉากความโกลาหลจากการสู้รบ การพลัดพราก การเสียสละ ความรัก ความกล้าหาญ การต่อสู้ สอดแทรกวิถีชีวิตคนหนองคาย แทรกเกร็ดเรื่องราวประวัติศาสตร์ และจบลงด้วยโศกนาฏกรรม
รวมเวลาการแสดงก็ประมาณชั่วโมงเศษ นั่งดูเพลิน ๆ มองการแสดงที่พัฒนาขึ้นจากปีแรก ๆ ไปมาก ไม่ว่าจะเป็นฉากหลังที่เลื่อนเปลี่ยนไปมาได้ การเพิ่มไฟแสงสีต่าง ๆ ที่ฉายขึ้นเวที ลูกเล่นประกอบการแสดงที่ทำให้รู้สึกอลังการและตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะฉากยิงปืนใหญ่ที่เป็นฉากไคล์แม็กซ์ของเรื่องราว
ช่วงสุดท้ายของการแสดง
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่ายังพัฒนาต่อได้อีกเยอะ โดยเฉพาะการพัฒนาบทละครให้มันตรึงใจผู้ชมมากกว่านี้ ขยี้ในส่วนเรื่องราวตัวละครหลักฝั่งชาวบ้านมากกว่านี้น่าจะทำให้คนดูอินมากขึ้น
หลังการแสดงจบก็เป็นการรำบายศรีสู่ขวัญ นักแสดงออกมารวมตัวกันเพื่อถ่ายรูป มีการจุดพุลปิดท้าย
รำบายศรี และ รวมตัวนักแสดง
พลุปิดท้าย
ภาพมุมกว้าง การแสดงจัดหน้าศาลากลางหลังเก่า หน้าอนุสาวรีย์
เอาละ การแสดงจบแล้ว ได้เวลาแยกย้าย
ระหว่างที่ดูก็รู้สึกว่าคนเดินเข้ามาร่วมชมเยอะอยู่เหมือนกัน
เดินออกมาเห็นพี่กบยืนขายของอยู่..ชุดน่ารัก
ก่อนกลับแวะเข้าซุ้มกาชาดตักรางวัลซะหน่อย
ลงทุน 100 บาท ได้ตั๋วตักมา 5 ใบ คืนนี้คนขึ้นเวทีจับรางวัลพิเศษเยอะจัง คนโชคดีจับได้ทีวี 50 นิ้วพึ่งเดินผ่านเราไป
แต่...ไหงเราตักได้แต่ผงซักฟอกล่ะเนี่ย XD
ซุ้มกาชาดคนเยอะมาก
ถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจเดินงานของปีนี้ ได้ผงซักฟอกกลับบ้าน
ไหน ๆ แล้วก็ซื้อของกินกลับไปด้วยเลย ถือของกินเต็มสองมือ ก่อนออกงานเหลือบไปเห็นว่ามีร้านขายเจลาโต้แถวด้านหน้างาน ถึงกับช็อคที่พลาดของดีเพราะคิวแน่นมาก
อยากกินนะ แต่ดูเวลาแล้วอาจได้กลับบ้านตอนสามทุ่ม เลยได้แต่ตัดใจ ง๊า..อยากกินนน
ภาพ/เรื่องราว 9/3/2568

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา