Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ไม่ใช่ข่าวซินหัว - Not Xinhua News
•
ติดตาม
16 มี.ค. เวลา 12:46 • ข่าวรอบโลก
ฮานอย
เวียดนามเดินเครื่องดันอังกฤษเป็นภาษาที่สองครบทุกโรงเรียนในปี 2035 เกิดอะไรขึ้น‼️🔥
เกิดการเคลื่อนไหวใหญ่ในวงการการศึกษาเวียดนามอีกแล้ว หรือว่านี่คือสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬารกันแน่🤔
เมื่อกระทรวงศึกษาธิการและการฝึกอบรม (MoET) ประกาศเป้าหมายสุดทะเยอทะยาน ว่าภายในปี 2035 เด็กนักเรียนทุกคนจะต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองกันให้ได้ โดยวางแผนยาวเหยียดไปจนถึงปี 2045 ว่าทุกระดับจะต้องปรับหลักสูตร ส่งเสริมการสอน และใช้ภาษาอังกฤษอย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น เห็นแบบนี้แล้วต้องถามว่า เวียดนามพร้อมขนาดไหน ทำไมถึงเร่งเครื่องแรงเช่นนี้ หรือเพราะยุคโลกาภิวัตน์กำลังสั่นสะเทือน จึงต้องตื่นตัวตั้งแต่วันนี้❓💥
การวางแผนจากปี 2025 ถึง 2035 นั้น ไม่ใช่เพียงแค่ “สอนวิชาอังกฤษ” ธรรมดา แต่ตั้งใจให้กลายเป็นเครื่องมือสื่อสาร และใช้เรียนรู้ในโรงเรียนเหมือนเป็นภาษาที่สองจริงๆ นักเรียนจะได้ใช้พูดคุย ใช้ทำกิจกรรม หรือแม้แต่เรียนวิชาอื่นในบางกรณีเป็นภาษาอังกฤษ เหมือนจะเปลี่ยนสภาพห้องเรียนให้กลายเป็นสนามฝึกภาษาไปโดยปริยาย นี่แหละที่หลายคนบอกว่าไม่ธรรมดาแน่นอน 🤯
MoET ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า เป้าหมายแรกคือให้ทุกโรงเรียนตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยมใช้ภาษาอังกฤษในระดับที่กำหนดภายในปี 2035 จากนั้นจะก้าวไปสู่การขยับระดับภายในปี 2045 เพื่อให้ภาษาอังกฤษกินวงกว้างขึ้นจนเรียกได้ว่าทุกหนแห่งต้องใช้เป็นภาษาที่สอง ⁉️
นอกจากระดับโรงเรียน ยังลากยาวไปถึงมหาวิทยาลัย สถาบันอาชีวศึกษา รวมถึงการศึกษาต่อเนื่องสำหรับผู้ที่พ้นวัยเรียน แต่ยังอยากจะลับคมทักษะภาษาอังกฤษ สารพัดแผนกองเรียงอยู่ตรงหน้า ฟังดูอลังการจนหลายคนอดคิดไม่ได้ว่า นี่จะเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะทำให้เวียดนามก้าวกระโดดทั้งด้านเศรษฐกิจและการแข่งขันในเวทีโลกหรือไม่‼️
ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ ยังเน้นย้ำเรื่องการอบรมครูให้เชี่ยวชาญมากขึ้น เรียกได้ว่าอัพเลเวลทั้งคนสอนและคนเรียน สร้างระบบหลักสูตร หนังสือ และสื่อแบบใหม่ แถมเปิดกว้างให้ใช้เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ มาช่วยยกระดับการสอนภาษาอังกฤษอีกด้วย ใครจะคิดว่าเรากำลังเห็นการปฏิวัติรูปแบบการศึกษากันเลยทีเดียว🔥
“การพูดและเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมโลกที่ลึกซึ้งขึ้น” นี่คือคำพูดของผู้แทน MoET ที่บอกเป็นนัยว่าต่อไปเด็กเวียดนามจะสามารถเชื่อมโยงกับโลกได้กว้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการค้นคว้าวิจัย การสื่อสารกับต่างประเทศ หรือการก้าวเข้าสู่การจ้างงานระดับสากล
ด้านผู้เชี่ยวชาญการศึกษาของเวียดนามก็บอกว่า ถ้าจัดการเรื่องครู เรื่องทรัพยากร และความเสมอภาคทางการศึกษาได้ จะเพิ่มขีดความสามารถให้คนรุ่นใหม่อย่างมหาศาล โดยเฉพาะคนในพื้นที่ห่างไกลที่อาจขาดโอกาส เรื่องนี้ก็ต้องอาศัยทั้งงบประมาณและแรงสนับสนุนจากหลายภาคส่วน เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าแบบไม่สะดุด 🚀
คำถามที่ดังขึ้นมาทันทีคือ เวียดนามจะทำได้จริงตามไทม์ไลน์ที่วางไว้หรือไม่ จะเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ยังไง แล้วประชาคมอาเซียนหรือโลกจะมองเห็นเวียดนามในมุมใหม่แห่งการศึกษาไปพร้อมๆ กันหรือเปล่า นี่แหละที่ใครต่อใครก็กำลังจับตามอง พร้อมดึงดูดความสนใจจากหลายประเทศที่อาจแอบเอาแนวคิดนี้ไปต่อยอดบ้างก็เป็นได้ ใครจะรู้‼️
สรุปแล้ว แผนปั้นภาษาอังกฤษให้เป็นภาษาที่สองของเวียดนาม ดูเหมือนจะไม่ได้มาเล่นๆ เพราะกลยุทธ์จัดเต็มทุกด้านทั้งครู นักเรียน มหาวิทยาลัย อาชีวะ และการศึกษาต่อเนื่อง แต่ผลลัพธ์ที่แท้จริงจะปังแค่ไหน ต้องรอดูจังหวะต่อไปกันยาวๆ บอกเลยว่าโปรเจกต์นี้ อาจเป็นตัวพลิกโฉมภาพรวมการศึกษาและอนาคตของเวียดนามอย่างแท้จริง… แล้วเราจะได้เห็นอะไรที่ยิ่งใหญ่จากพัฒนาการครั้งนี้หรือไม่ เกาะติดกันไว้ให้ดี‼️✨
(แอบกระซิบปิดท้าย ใครพร้อมก็เตรียมลับทักษะภาษาอังกฤษไว้รอเลย เพราะอนาคตเราอาจต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษจากเวียดนามแบบไม่ทันตั้งตัวก็เป็นได้)
🇻🇳🇬🇧 ก้าวใหม่แห่งภาษา… เปิดโลกแห่งโอกาสอย่างแท้จริง 🔥
ข่าวรอบโลก
เศรษฐกิจ
เวียดนาม
บันทึก
3
2
6
3
2
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย