Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
DoctorWantTime
•
ติดตาม
17 มี.ค. เวลา 00:12 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุป!! 3 กองทุนประหยัดภาษี ปี 68 มาอ่านเงื่อนไข RMF, TESG , TESGX
ตั้งแต่ปีนี้ 2568 ไป ไม่มี SSF สำหรับลดหย่อนภาษีแล้วนะ แต่ SSF ที่มีในมือ ก็ต้องถือให้ครบจามเงื่อนไขการถือครอง 10 ปี นะ และปี 68 นี้ใครต้องการลงทุนสินทรัพย์ต่างประเทศ และลดหย่อนภาษีได้ ก็จะเหลือแต่ RMF นะ เพราะ TESG , TESGX ต้องลงทุนในประเทศเท่านั้น
และถ้าใช้ทุกอย่างเต็มเพดาน จะสามารถซื้อได้สูงสุด 1,400,000 บ. (RMF 5 แสน, TESG 3 แสน, TESG ส่วนที่ 1 อีก 3 แสน และ TESGX ส่วนที่ 2 อีก 3 แสน) แต่จะลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ ขึ้นกับฐานอัตราภาษีของเราว่า เงินที่ซื้อเพื่อลดหย่อนไปลดอัตราภาษีที่ฐานไหน
มาอ่านรายละเอียดกัน
เงื่อนไข RMF คือ
- เพดานในการใช้ลดหย่อนภาษี ไม่เกิน 30% ของรายได้ และเพดาน 5 แสนบาทนั้น นอกจากต้องรวมเงินออมเพื่อการเกษียณอื่นแล้ว ต้องนำ SSF มารวมด้วย
- ซื้อปีไหน ก็ลดหย่อนปีไหน สำหรับ RMF ไม่ได้กำหนดไว้ว่าจะใช้ลดหย่อนได้ถึงปีไหนเหมือน SSF
- RMF ไม่จำกัดสินทรัพย์ในการลงทุน แต่ทุกกอง RMF จะไม่มีปันผล
- ไม่มีกำหนดการซื้อขั้นต่ำ แต่ต้องลงทุนทุกปี ขาดได้ไม่เกิน 1 ปีติดต่อกัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องลงกองเดิม ถ้าจะเปลี่ยนไปซื้อ RMF กองอื่น หรือ บลจ. อื่นก็ได้
- เงื่อนไขการถือครอง ต้องถือไม่น้อยกว่า 5 ปี (นับแบบวันชนวัน) และอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ถึงจะขายคืนได้ตามเงื่อนไข และขายคืนได้ทั้งหมดที่ซื้อมา โดยการนับจะเป็นชุด และนับการลงทุนครั้งแรกเป็นสำคัญ
เงื่อนไข TESG เดิม ที่ออกมาปี 66 แต่ตั้งแต่ปี 67- 69 ก็คือลดหย่อนปี 2568 ก็ใช้ตามเกณฑ์ใหม่ที่มีแก้ไขเมื่อปี 2567 นะ การเปลี่ยนแปลงจะเล่าต่อไปนะ
- ซื้อได้ไม่เกิน 30%ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 100,000 บ. เพดานแยกต่างหาก ไม่รวมกับอย่างอื่น
- ลงทุนหุ้น ตราสารหนี้ ในประเทศไทย ของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจตามเกณฑ์ ESG [ESG = Environmental, Social, and Governance ซึ่งหมายถึงหลักเกณฑ์ด้าน สิ่งแวดล้อม (Environmental), สังคม (Social), และ ธรรมาภิบาล (Governance) ที่ใช้ในการประเมินความยั่งยืนและความรับผิดชอบของธุรกิจหรือองค์กรในการดำเนินงาน]
- ไม่ได้ต้องลงทุนทุกปี ซื้อปีไหน ลดหย่อนได้ปีนั้น
- ถือให้ครบ 8 ปี ซึ่งเป็นการนับแบบวันชนวัน ถึงขายคืนได้ตามเงื่อนไข การนับปีการถือครองนับแบบเดียวกับ SSF แต่ระยะเวลาเป็น 8 ปี
- ใช้ลดหย่อนในปี 66 – 75 ซื้อปีไหน ลดหย่อนได้ปีนั้น
เงื่อนไข TESG ใหม่ สำหรับใช้ลดหย่อนสำหรับปี 67-69
- ปรับเพดานลดหย่อนจาก 100,000 บ. เป็น 300,000 บ. เพดานต่างหาก ไม่รวมกับอย่างอื่นเหมือนเดิม
- ระยะเวลาถือครองปรับลงมาเป็น 5 ปี จากเดิม 8 ปี ถึงขายคืนได้ตามเงื่อนไข
เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีใหม่ของ TESG นี้ จะมีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 67 และมีผลถึง 31 ธ.ค. 69 (ระยะเวลา 3 ปี)
- ลงทุนหุ้น ตราสารหนี้ ในประเทศไทย ของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจตามเกณฑ์ ESG เหมือนเดิม และเพิ่ม CG rating ของ IOD ตั้งแต่ 3 ดาวขึ้นไป และมีการเปิดเผยข้อมูลด้านบรรษัทภิบาล (G) (เพื่อให้มีหุ้นที่ลงทุนได้เพิ่มขึ้น) อย่างน้อย 80% ของ NAV
Thai ESGX (Thailand ESG Extra Fund) เป็นกองทุนรวมประหยัดภาษีรูปแบบหนึ่ง สามารถลงทุนใหม่ และสามารถเลือกย้ายจากกองทุน LTF เดิมมาและได้ลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม
Thai ESGX มีลักษณะสำคัญดังนี้
- เป็นกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ภายในประเทศเท่านั้นตามแนวคิด ESG อย่างน้อย 80% ของ NAV โดยต้องเป็นหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV
ข้อสังเกต จะเห็นว่า นโยบายคล้าย LTF เดิม แต่เพิ่มเติมเรื่อง ESG
เงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ทางภาษี
การลงทุนในกองทุน Thai ESGX สามารถลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยแบ่งวงเงินในการลดหย่อนภาษีออกเป็น 2 ส่วนหลัก
ส่วนที่ 1 การลงทุนใหม่ ใช้เงินซื้อเข้าไปใหม่
- ลดหย่อนได้ ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุด 300,000 บาท และต้องถือครอง ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแบบวันชนวัน
- ต้องซื้อในช่วง 1 พ.ค.- 30 มิ.ย. 68 เท่านั้น
ข้อสังเกตส่วนที่ 1 นี้ คือ ลดหย่อนปี 68 ที่เพดานจะแยกมาต่างหากไม่รวมกับ Thai ESG เดิม หรือ RMF หรือ Thai ESGX ในส่วนที่ 2
ส่วนที่ 2 จะเป็นการย้ายจาก LTF เดิม ต้องเป็นการโอนย้าย LTF เดิม (Pay in kind ต้องไม่มีการขายออกมาก่อน) และต้องย้ายเข้า Thai ESGX จาก LTF ที่มีอยู่ในทุกกอง ทุก บลจ. ที่มีอยู่ในมือ และจะต้องไม่ขายตั้งแต่ 11 มี.ค. 68 (วันที่ ครม. มีมติอนุมัติเรื่อง Thai ESGX) เพื่อรอย้ายเข้า Thai ESGX มาช่วง 1 พ.ค. – 30 มิ.ย. 68
เงินลงทุนที่ย้ายจาก LTF ไป Thai ESGX จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม ตามมูลค่าที่ย้ายมา แต่ ไม่เกิน 300,000 บ. ในปี 2568 และได้อีกไม่เกินปีละ 50,000 บ. เป็นเวลาอีก 4 ปี (ปี 2569-2572) รวมสูงสุดไม่เกิน 500,000 บ. ในทั้ง 5 ปี
เมื่อย้ายมาต้องถืออย่างน้อย 5 ปี
ข้อสังเกต
- หากมีการ ขายหน่วยลงทุน LTF นับจากวันที่ ครม. มีมติ คือ 11 มี.ค. 68 จะทำให้ไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในส่วนที่ 2 นี้ได้ ดังนั้นถ้าใครมีแผนจะใช้ลดหย่อนในส่วนนี้ ต้องถือไว้ และรอย้าย ห้ามขายออกมาแม้จะมูลค่า LTF ที่ถืออยู่ทั้งหมดจะเกิน 500,000 บ. ก็ตาม
- เงินลงทุนที่ย้ายจาก LTF ไป Thai ESGX จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม ตามมูลค่าที่ย้ายมา ไม่ใช่จากต้นทุนที่ซื้อ LTF มานะ
– ต้องย้าย LTF ที่มีอยู่ในมือทั้งหมด ถึงแม้ว่าที่ย้ายมารวมกันทั้งหมดจะเกิน 500,000 บ. ก็จะลดหย่อนได้สูงสุดแค่ 500,000 บ. โดยแบ่งตามที่เล่าข้างต้น เพดานลดหย่อนนี้แยกต่างหากไม่รวมกับอย่างอื่น
เช่น มูลค่า LTF ตอนย้ายมา คือ 200,000 บ. ก็จะสามารถใช้ลดหย่อนในปี 2568 ได้ 200,000 บ. ครบที่ลดหย่อนได้
ถ้ามูลค่า LTF ตอนย้ายมา คือ 400,000 บ. ก็จะสามารถใช้ลดหย่อนในปี 2568 ได้ 300,000 บ. ปี 2569 อีก 50,000 บ. และปี 2570 อีก 50,000 บ.
- ที่ย้ายมาทั้งหมด ถึงแม้จะมีบางส่วนเกิน 500,000 บ. ก็ตาม จะต้องถือทั้งหมดอย่างน้อย 5 ปี นับจากวันที่แจ้งย้าย
- ถ้าไม่ย้าย กอง LTF ทั้งหมดที่ยังเหลืออยู่ จะเปลี่ยนเป็นกองทุนรวมหุ้นทั่วไป ที่มีนโยบายลงทุนหุ้นไทย อย่างน้อย 65% ของ NAV ภายในสิ้นปี 68 ซึ่งจะเปิดให้ซื้อขายเหมือนกองทุนปกติ
การลดหย่อนด้วย Thai ESGX สามารถทำทั้งส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 ได้ ซึ่งปี 2568 ถ้าทำทั้งหมดทั้ง 2 ส่วนจะลดหย่อนภาษี ได้ 600,000 บ. (ในแต่ละส่วน 300,000 บ. ในปี 68) เพดานนี้ไม่รวมกับ Thai ESG เดิมที่เคยมี หรือ RMF ถ้าจะใช้สิทธิลดหย่อน Thai ESGX ควรเข้าใจว่าลงทุนหุ้นไทยเป็นหลัก คล้าย LTF เดิม และเข้าใจเงื่อนไขต่างๆ ของการลดหย่อนภาษีด้วยนะ
อ่านเพิ่มเติมเงื่อนไขลดหย่อน Thai ESGX จาก สำนักงาน กลต.
https://www.facebook.com/share/p/1G5zH2rqQX/
#กองทุนลดหย่อนภาษี #หมอยุ่งอยากมีเวลา #หุ้น #ThaiESGX #TESG #กองทุนรวม #RMF #LTF
การเงิน
การลงทุน
ภาษี
บันทึก
4
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย