Blockdit Logo (Mobile)
GoodMusic
•
17 มี.ค. เวลา 10:08 • ดนตรี เพลง

จากความเรียบง่ายสู่ความซับซ้อนอันลึกซึ้ง ผ่านเสน่ห์อันงดงามของเสียงเปียโนใน "Scenery"

"Scenery" ที่ออกมาในปี 1976 ของ Ryo Fukui เป็นอัลบั้มที่เหมือนภาพวาดที่ถูกแต่งเติมด้วยแสงเงาอย่างประณีต มันไม่ได้พยายามสร้างความหวือหวาหรือพลิกโฉมวงการแจ๊ส แต่มันเป็นอัลบั้มที่ถ่ายทอดบรรยากาศ ความรู้สึก และเสน่ห์ของดนตรีแจ๊สในแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ด้วยองค์ประกอบเพียงสามชิ้น: เปียโน – Ryo Fukui, กลอง – Yoshinori Fukui และ เบส – Satoshi Denpo – Fukui และวงของเขาได้สร้างงานที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ความลุ่มลึก และความงดงามที่ไร้กาลเวลา แม้ว่าอัลบั้มนี้จะถูกมองข้ามในยุคที่มันถือกำเนิด แต่หลายสิบปีต่อมา มันกลับถูกค้นพบอีกครั้งและกลายเป็นหนึ่งในอัลบั้มแจ๊สที่ได้รับการยกย่องที่สุดจากญี่ปุ่น
ความเรียบง่ายของ "Scenery" คือหัวใจสำคัญของมัน ไม่มีการใช้เทคนิคแพรวพราวหรือความซับซ้อนทางโครงสร้างมากมาย แต่นั่นไม่ได้ทำให้มันเป็นอัลบั้มที่ขาดเสน่ห์ ตรงกันข้าม Fukui ใช้เปียโนเป็นเครื่องมือในการบอกเล่าเรื่องราวด้วยวิธีที่ลึกซึ้งและตรงไปตรงมา
“It Could Happen to You” ที่เปิดอัลบั้มมา เป็นการตีความที่เต็มไปด้วยอารมณ์แห่งความเบิกบาน มันเป็นเวอร์ชันที่ไม่ได้ยึดติดอยู่กับรูปแบบเดิม ๆ แต่กลับให้ความรู้สึกโปร่งโล่งและเต็มไปด้วยจินตนาการ ราวกับว่า Fukui กำลังวาดภาพของความเป็นไปได้อันไม่มีที่สิ้นสุดของชีวิต ผ่านเสียงเพลงที่เป็นดั่งปฐมบทของการเดินทางที่เพลิดเพลินให้กับอัลบั้มนี้
อีกหนึ่งเพลงที่สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการเล่าเรื่องผ่านเปียโนของ Fukui คือ “I Want to Talk About You” นี่คือเพลงที่เดิมทีถูกทำให้เป็นที่รู้จักโดย John Coltrane แต่ Fukui กลับทำให้มันมีชีวิตในอีกแบบหนึ่งด้วยสำเนียงของเขาเอง เปียโนของเขาในเพลงนี้อบอุ่น ละเมียดละไม และเต็มไปด้วยความรู้สึกที่แทบจะจับต้องได้ ทุกโน้ตที่เขาเล่นเปรียบเสมือนคำพูดที่ไม่ได้เอื้อนเอ่ยออกมาโดยตรง แต่กลับสื่อความหมายได้อย่างลึกซึ้ง ราวกับเป็นบทสนทนาที่เงียบงันแต่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึก
“Early Summer” เป็นช่วงเวลาที่อัลบั้มนี้เผยให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของ Fukui และวงของเขา เพลงนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่บทประพันธ์ธรรมดา ๆ แต่มันเป็นการเดินทางทางดนตรีที่มีพลังและความตื่นเต้น Fukui เริ่มต้นเพลงด้วยท่วงทำนองที่สงบ ก่อนจะไต่ระดับไปสู่การเล่นที่ซับซ้อนและมีพลังมากขึ้น ในขณะที่กลองและเบสสร้างพื้นหลังที่มั่นคงเพื่อให้เปียโนสามารถโลดแล่นได้อย่างอิสระ นี่เป็นช่วงเวลาที่ Fukui แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่นักตีความเพลงของผู้อื่น แต่ยังเป็นนักแต่งเพลงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
อีกหนึ่งช่วงเวลาที่อัลบั้มนี้โดดเด่นคือ “Willow Weep for Me” เพลงที่ให้บรรยากาศของไนต์คลับที่อบอวลไปด้วยกลิ่นซิการ์และเครื่องดื่มราคาแพง Fukui เล่นเพลงนี้ด้วยความลุ่มลึกและอารมณ์ที่ชัดเจน มันเป็นเพลงที่เต็มไปด้วยความโหยหาและความเศร้าสร้อย แต่ก็มีความลึกลับและเสน่ห์ในแบบของมันเอง การเล่นเปียโนของเขาในเพลงนี้มีความเป็นธรรมชาติ ราวกับเป็นบทสนทนาระหว่างคนสองคนที่กำลังรำลึกถึงอดีตที่ไม่มีวันหวนคืนภายใต้บรรยากาศอันอบอวลไปด้วยความหลังนี้
ถัดมากับ “Autumn Leaves” หนึ่งในเพลงแจ๊สมาตรฐานที่ถูกเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยนักดนตรีทั่วโลก แต่เวอร์ชันของ Fukui นั้นเต็มไปด้วยความสดใหม่และมีเอกลักษณ์ เขาไม่ได้พยายามเปลี่ยนแปลงเพลงนี้อย่างรุนแรง แต่กลับใช้เทคนิคการเล่นที่ละเอียดอ่อนและจังหวะที่มีชีวิตชีวาเพื่อทำให้มันมีมิติที่แตกต่าง เบสและกลองยังคงทำหน้าที่เป็นฐานที่มั่นคงให้กับเปียโนของ Fukui ที่สามารถโลดแล่นไปในทิศทางที่เป็นธรรมชาติและลื่นไหลได้อย่างสง่างามและเป็นอิสระ
และสุดท้าย อัลบั้มจบลงด้วย “Scenery” ซึ่งเป็นบทสรุปที่สมบูรณ์แบบของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้า เพลงนี้เป็นเหมือนบทกวีที่สงบและเต็มไปด้วยอารมณ์ มันไม่ใช่เพลงที่พยายามจะทำให้ผู้ฟังตื่นเต้นหรือประทับใจด้วยเทคนิคแพรวพราว แต่มันเป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกของการเดินทางที่กำลังจะจบลง Fukui เล่นเพลงนี้ด้วยความอ่อนโยนและความเข้าใจในดนตรีแจ๊สอย่างลึกซึ้ง มันเป็นเพลงที่สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณของอัลบั้มนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
"Scenery" ไม่ใช่อัลบั้มที่เต็มไปด้วยเทคนิคอันซับซ้อนหรือการเรียบเรียงที่พลิกวงการ แต่มันมีเสน่ห์ในแบบของมันเอง สิ่งที่ทำให้ผลงานของ Ryo Fukui น่าจดจำคือความสามารถในการสร้างบรรยากาศและสื่ออารมณ์ผ่านเสียงเปียโนที่เรียบง่ายแต่งดงาม ทุกโน้ตที่เขาเล่นเหมือนมีชีวิต และแม้ว่าอัลบั้มนี้จะเป็นการบันทึกเสียงในปี 1976 แต่พลังของมันยังคงก้องกังวานข้ามกาลเวลา เสียงดนตรีของ Fukui ไม่ได้พยายามจะสร้างความตื่นเต้นหรือท้าทายขอบเขตของแจ๊ส แต่มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบทสนทนาที่ลึกซึ้ง ระหว่างศิลปินกับผู้ฟัง
มากกว่าการเป็นเพียงอัลบั้มแจ๊ส "Scenery" เป็นดนตรีที่สามารถพาคุณออกจากโลกแห่งความวุ่นวาย ไปสู่สถานที่ที่เงียบสงบและงดงาม มันมีความสงบที่ไม่ใช่เพียงแค่ความเงียบ แต่เป็นความสงบที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เปียโนของ Fukui ลื่นไหลราวกับกระแสน้ำ เสียงเบสและกลองที่ร่วมบรรเลงเสริมสร้างความกลมกลืนให้กับดนตรี
ทุกเพลงในอัลบั้มนี้ฟังแล้วให้ความรู้สึกเหมือนการเดินทางผ่านฤดูกาลที่เปลี่ยนผัน บางช่วงเวลาฟังแล้วเหมือนสายลมเย็นในฤดูใบไม้ผลิ บางช่วงก็เหมือนบ่ายอันเงียบสงบแต่ร้อนแรงของฤดูร้อน หรือจะเป็นใบไม้ที่ปลิวไปตามสายลมหนาวของฤดูใบไม้ร่วงที่ค่อย ๆ เปลี่ยนเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างช้าๆ
เสน่ห์ของอัลบั้มนี้ จึงอยู่ที่ความสามารถในการโอบกอดอารมณ์ของผู้ฟัง มันสามารถเป็นเพื่อนในคืนที่เงียบเหงา เป็นแรงบันดาลใจในวันที่อ่อนล้า หรือเป็นฉากหลังของช่วงเวลาที่ต้องการความสงบ Fukui ไม่ได้พยายามสร้างดนตรีที่หวือหวาหรือเต็มไปด้วยเทคนิคมากมาย แต่กลับเลือกที่จะถ่ายทอดอารมณ์ผ่านเสียงเพลงที่เรียบง่ายและจริงใจ ทำให้ทุกครั้งที่กลับมาฟัง คุณจะพบว่ามันยังคงอบอุ่นและเต็มไปด้วยความหมาย
ในโลกที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและเสียงรบกวน "Scenery" เป็นเหมือนสถานที่หลบภัยทางดนตรี ที่เปิดโอกาสให้ผู้ฟังได้หยุดพักและสัมผัสกับความงามของเสียงเพลงที่ไร้กาลเวลา มันไม่ใช่เพียงอัลบั้มแจ๊ส แต่มันเป็นประสบการณ์ที่สามารถหลอมรวมเข้ากับชีวิตของผู้ฟังได้อย่างลึกซึ้ง และไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มันก็ยังคงเป็นอัลบั้มที่เราสามารถกลับมาฟังและรำลึกความหลังอันแสนงดงามและอ่อนโยนนี้ได้เสมอ
Cr. Wikipedia / EverythingIsNoise
---
โฆษณา