"ครบรอบ 14 ปี Suck Seed!! ห่วยขั้นเทพ - ความทรงจำที่ยังทุ้มอยู่ในใจ"
"ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ"
ดนตรี มิตรภาพ และความรักอันสดใสของวัยรุ่น
.
.
.
.
.
.
17 มี.ค.54 คือวันที่หนังก้าวขึ้นสู่จอเงิน
จนในวันนี้ที่ครบรอบ 14 ปีของการฉาย
แต่เรื่องราวในหนังยังคงเปี่ยม
ด้วยความทรงจำมากมาย
ในใจของใครหลายคน รวมถึงผมเอง
เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของดนตรี เสียงเพลง
แต่ยังเป็นความรัก มิตรภาพวัยรุ่น
ที่กำลังค้นหาตัวตน บนความฝัน
เคล้าเรื่องราวนับร้อยพัน
อันร้อยเรียงผ่านท่วงทำนอง
ผ่านห้วงเวลาที่สุขสดใสในวัยมัธยม
1. เสียงดนตรีที่ปลุกหัวใจให้มีไฟ! 🎸
- "เป็ด" คือเด็กหนุ่มที่ดูธรรมดาเสียจนเหมือนเป็นอากาศ แต่เมื่อได้พบกับ "คุ้ง" เพื่อนใหม่ผู้มีหัวใจเป็นจังหวะร็อค โลกของเขาก็เปลี่ยนไป คุ้งเป็นเหมือนเปลวไฟที่ลุกโชน จุดประกายเป็ดออกจากความน่าเบื่อและพาเขากระโจนเข้าสู่โลกของเสียงดนตรี นี่มันยุคแห่งเพลงร็อคยังไงล่ะวะ!!
แต่ท่ามกลางจังหวะร็อคที่เร่งเร้า หัวใจของเป็ดก็มีท่วงทำนองที่ไพเราะเสนาะหูเป็นของตัวเอง และชื่อของทำนองนั้นคือ "เอิญ" รักแรกที่อ่อนโยนและไร้เดียงสา
เด็กสาวที่เป็นทั้งแรงบันดาลใจและเสน่ห์ของวัยเยาว์สำหรับเป็ด เธอมีรอยยิ้มที่ทำให้โลกดูสดใส และเป็ดก็มักเผลอมองเธอด้วยแววตาแบบเดียวกับที่วัยรุ่นคนหนึ่งมองคนที่เขาหวั่นไหวให้
ความสัมพันธ์ระหว่างเป็ดและเอิญ คือภาพสะท้อนของความรักในวัยเรียนที่ไม่ต้องการคำจำกัดความมากมาย แค่ได้ใกล้กัน ได้พูดคุย ได้เฝ้ามองกันและกันก็เพียงพอ "ก็เพลงๆ นี้ที่ได้ฟังนั้นฉันไม่ได้แต่ง เธอรู้มั้ยไม่บังอาจหรอกนะคนดี โว้วโว รู้รึเปล่า? ว่าใครที่เขียนเพลงนี้ จำเอาไว้ให้ดีๆ คนนั้นคือเธอ,,,"
2. วัยรุ่นคือความพุ่งพล่านอันเร่าร้อน! 🔥
- อยากจะเบียวก็เบียวให้เต็มที่! อยากจะมีความฝันก็ทำไปสุดแรงกล้า! ชอบใครแล้วอยากจะเข้าหา ก็บอกรักให้ได้รู้ "กูชอบเอิญว่ะ!!"
เพราะวัยรุ่นมีแค่ครั้งเดียว มันคือช่วงเวลาที่เราไม่ต้องสนว่าใครจะมองว่ายังไง อยากลองเล่นดนตรีก็เล่น อยากตะโกนชื่อคนที่แอบชอบกลางฟ้าให้ก้องโลกก็ทำ อยากจะทำอะไรบ้าๆ ที่อีกหน่อยโตขึ้นแล้วอาจไม่กล้าทำ ก็ทำแม่งให้เต็มที่ไปเลย
ไม่ว่าจะสุข เศร้า เหงา อกหัก ดีใจ บ้าบอ ทุกอย่างมันคือเรื่องราวดีๆ ที่จะตรึงใจเราไปอีกนาน ไม่มีวัยไหนที่มีไฟเท่าวัยรุ่น และไม่มีความทรงจำไหนที่จะอยู่กับเราไปตลอดกาลได้เท่าความทรงจำในวันนั้น
3. ชีวิตคือเวทีที่เราเล่นได้เพียงครั้งเดียว 🎵
- สิ่งที่ "ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ" บอกกับเราคือไม่เป็นไรถ้าเราเคยห่วย ไม่เป็นไรถ้าเราเคยล้ม ไม่เป็นไรถ้าครั้งหนึ่งเราเคยพยายามทำอะไรสักอย่างแล้วมันไม่สำเร็จ เพราะสิ่งเหล่านั้นคือบทเรียนอันงดงาม แค่ได้พยายามทำจนสุด นั่นก็เพียงพอที่จะเรียกว่าความสำเร็จแล้วล่ะ
เพราะทั้งเสียงดนตรี เสียงหัวเราะ และน้ำตาที่ร่วงหล่นในวันวาน ล้วนเป็นเสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่ทำให้เรากลายเป็นเราในวันนี้
หากคุณเคยมีวงดนตรีกับเพื่อนๆ เคยแอบชอบใครสักคนแล้วไม่กล้าบอก เคยล้มลุกคลุกคลานกับความฝัน หรือเคยกลัวว่าตัวเองจะไม่ดีพอ "ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ" คือกระจกที่สะท้อนช่วงเวลานั้นของเราออกมาได้ดีจริงๆ
ซึ่งหนังไม่ได้ให้คำตอบที่ตายตัวว่าความรักและความฝันจะต้องจบลงเช่นไร แต่มันบอกเราว่า "อย่ากลัวที่จะลองเล่นเพลงของตัวเอง"
ในมุมรักอาจจะสมหวัง หรืออาจจะเป็นเพียงความทรงจำที่เราเก็บไว้ในกล่องแห่งวันวาน แต่มันก็ยังเป็นรักที่งดงามเสมอ หลับตาแล้วปล่อยให้หัวใจย้อนกลับไปเจอห้วงเวลาที่เราเคยรักใครสักคน และเคยทุ่มเททำตามฝันอย่างเต็มกำลังซักซี้ดนึง! มีเท่าไหร่ใส่ให้สุดแบบไม่ต้องคิดอะไร เชื่อเถอะว่าแม้เวลาจะผ่านไป แต่ความรู้สึกเหล่านั้นยังคงงดงามและทุ้มอยู่ในใจไม่เปลี่ยนแปลง
เพราะวัยรุ่นคือเรื่องราว
ที่จะไม่มีวันลบเลือน
ขอเพียงเราไม่ลืมที่จะร้องตาม
อาจเหมือนใจความ
ที่เคยได้ยินผ่านบทเพลง,,,
.
.
.
"ยังคงมีแต่เธอเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
มีแต่เธอเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนไป
ยิ่งเวลาอ้างว้างทีไร ในใจก็ยิ่งโหยหา
.
.
ยังคงมีบทเพลงของเราเมื่อวันวาน
ได้ยินเมื่อไหร่หัวใจยังเป็นอย่างนี้
ให้เวลามันหมุนไปนานเป็นปี
แต่เพลงนี้ยังทุ้มในใจ
.
.
.
ต่อให้เราไม่พบ ไม่เจอเป็นปี
เพลงนี้ยังทุ้ม...ในใจ,,,"
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
