17 เม.ย. เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์
Rimping Supermarket NimCity Branch

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ “Crème de Cassis ” ลิเคียวร์แบล็คเคอแรนท์ที่มีต้นกำเนิดในประเทศฝรั่งเศส

Crème de Cassis (แครม เดอ กาซิส) เป็นลิเคียวร์สีแดงเข้มที่ทำจากแบล็คเคอแรนท์ มีแอลกอฮอล์ประมาณ 15 - 25% นิยมใช้ผสมค็อกเทล เช่น Kir (เคียร์) ค็อกเทลไวน์ขาวผสม Crème de Cassis รวมถึงใช้เป็นส่วนผสมในของหวานได้อีกด้วย
.
ต้นกำเนิดของ Crème de Cassis มีประวัติย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 16 ที่แคว้นเบอร์กันดี ประเทศฝรั่งเศสภูมิภาคที่ขึ้นชื่อเรื่องไวน์ชั้นเลิศ และสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยเหมาะสมต่อการปลูกแบล็คเคอแรนท์
.
ในตอนแรกแบล็คเคอแรนท์มักจะถูกปลูกเพื่อใช้เป็นยารักษาโรคต่าง ๆ แต่ในช่วงศตวรรษที่ 16 การผลิตสุราเริ่มเฟื่องฟูเป็นอย่างมากในฝรั่งเศส ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มมีการนำแบล็คเคอแรนท์มาสกัดทำลิเคียวร์
.
สูตรลิเคียวร์แบล็กเคอแรนต์ในช่วงแรกยังไม่มีความสม่ำเสมอ จนกระทั่งในปี 1841 Auguste Denis Lagoute ผู้ผลิตเหล้าลิเคียวร์รายแรกของเมือง Dijon ได้พัฒนาสูตรลิเคียวร์แบล็คเคอแรนท์ขึ้นมาให้มีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม และรสชาติสม่ำเสมอ
.
Auguste ตั้งชื่อลิเคียวร์ชนิดนี้ว่า “Crème de Cassis ” (แปลตรงตัวว่า ครีมแบล็คเคอแรนท์) หลังจากเปิดตัวสูตรของเขาก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้ผลิตรายอื่น ๆ ในท้องถิ่นเริ่มหันมาผลิตลิเคียวร์แบล็คเคอแรนท์เป็นของตัวเองกันมากขึ้น
.
หลายคนคิดว่าลิเคียวร์แบล็คเคอแรนท์มีส่วนผสมของนมอยู่ด้วยเนื่องจากชื่อมีคำว่า “Crème” ที่แปลว่าครีมในภาษาฝรั่งเศส แต่ทั้งนี้คำว่า “Crème” ใน Crème de Cassis นั้นหมายถึงเนื้อสัมผัสที่เป็นครีมข้น ๆ ไม่ได้หมายถึงส่วนผสมของครีม เพราะลิเคียวร์แบล็คเคอแรนท์ไม่มีส่วนผสมของครีมอยู่ในนั้นเลย
.
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 Crème de Cassis ได้รับความนิยมไปทั่วฝรั่งเศสไม่เพียงแต่ในแคว้นเบอร์กันดีเท่านั้น แต่ยังแพร่กระจายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ด้วย ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มชนชั้นสูง มักถูกเสิร์ฟเป็นเครื่องดื่มย่อยหลังอาหาร และผสมกับไวน์ขาวทำเป็นค็อกเทลยอดนิยมอย่าง “Kir” (เคียร์)
.
การเปิดตัวค็อกเทล Kir ช่วยส่งเสริมชื่อเสียงของลิเคียวร์ชนิดนี้ได้เป็นอย่างมาก โดยค็อกเทล Kir ตั้งชื่อตาม Félix Kir นายกเทศมนตรีของเมือง Dijon ซึ่งเขาเป็นคนแรกที่ผสมไวน์ขาว Aligoté ของเบอร์กันดี กับ Crème de Cassis เข้าด้วยกัน
.
นอกจากนี้ในช่วงที่โรคระบาด Phylloxera ทำลายไร่องุ่นในฝรั่งเศส Crème de Cassis ยังกลายมาเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมอีกด้วย เนื่องจากไวน์หาซื้อได้ยากขึ้น และผู้ผลิตไวน์รายอื่น ๆ ก็เริ่มหันไปผลิตลิเคียวร์แบล็คเคอแรนท์กันมากขึ้น
.
ในศตวรรษที่ 20 Crème de Cassis ได้รับสถานะ Appellation d'origine contrôlée (AOC) การคุ้มครองภายใต้กฎหมายฝรั่งเศส ซึ่งกำหนดไว้ว่าเฉพาะลิเคียวร์แบล็คเคอแรนท์ที่ผลิตในภูมิภาคบางแห่ง และปฏิบัติตามวิธีการผลิตเฉพาะเท่านั้น จึงจะสามารถติดฉลากว่าเป็น Crème de Cassis ได้
.
การคุ้มครองทางกฎหมายนี้ช่วยรักษาคุณภาพ และความถูกต้องของ Crème de Cassis ไว้ได้ เช่นเดียวกับการคุ้มครองที่มอบให้กับแชมเปญ และผลิตภัณฑ์พิเศษในภูมิภาคอื่น ๆ
.
ปัจจุบัน Crème de Cassis ได้รับความนิยมไปทั่วโลก บาร์เทนเดอร์ยังคงทดลองใช้ Crème de Cassis เพื่อสร้างสรรค์เครื่องดื่มที่แปลกใหม่ เช่น Kir Royale ที่ผสม Crème de Cassis กับแชมเปญเข้าด้วยกัน และ El Diablo ที่ผสม Crème de Cassis กับเตกีลา และ Ginger Beer
โฆษณา