Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ไม่ใช่ข่าวซินหัว - Not Xinhua News
•
ติดตาม
19 มี.ค. เวลา 09:21 • ข่าวรอบโลก
เคียฟ
ปูตินรับโทรศัพท์สายตึงเครียดจากทรัมป์ ตอบตกลงหยุดโจมตียูเครน 30 วันบางส่วน แต่ยังไม่ให้สัญญาณสงบศึก
การหารือทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกินเวลากว่าสองชั่วโมงครึ่ง กลายเป็นจุดสนใจครั้งใหม่ของวิกฤติในยูเครน เนื่องจากรัสเซียประกาศผ่านเครมลินว่ายอม “ระงับการโจมตี” โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนในทันที อย่างไรก็ตาม ผู้นำรัสเซียยังไม่ได้ให้คำมั่นอย่างเต็มตัวว่าจะหยุดยิงนาน 30 วันตามที่ทรัมป์เสนอไว้ก่อนหน้านี้ โดยทางรัสเซียยังคงตั้งเงื่อนไขหลายประการที่สร้างความหนักใจให้ฝ่ายตะวันตกและยูเครน ⚡
ทรัมป์ชูแนวคิด “สงบศึกเต็มเดือน” มาตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งยูเครนเองประกาศพร้อมยอมรับแนวทางนี้ แต่ดูเหมือนฝ่ายเครมลินยังไม่เห็นชอบร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อปูตินเรียกร้องให้ตะวันตกหยุดส่งอาวุธและข่าวกรองแก่กองทัพยูเครนเสียก่อน จึงจะพิจารณาเข้าสู่การพักรบอย่างเต็มรูปแบบได้ ข้อเรียกร้องนี้ถือเป็นเงื่อนไขที่ค่อนข้างยากสำหรับสหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรป เพราะที่ผ่านมาอุปกรณ์และการสนับสนุนทางทหารจากชาติตะวันตกเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยูเครนยืนหยัดต้านกองทัพรัสเซียมาได้ต่อเนื่อง
หลังการสนทนา ทรัมป์ออกมาโพสต์บน Truth Social (แพลตฟอร์มที่เขาตั้งขึ้นเอง) ว่าบทสนทนากับปูติน “เป็นไปในทางที่ดีและเกิดผลลัพธ์เชิงบวก” พร้อมย้ำว่าผู้นำรัสเซียยอมรับแนวทางหยุดโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทันที ซึ่งหากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างรวดเร็ว ก็อาจนำไปสู่การหยุดยิงอย่างครบวงจรในอนาคตอันใกล้ ทรัมป์ยังใช้ถ้อยคำที่แสดงความหวังว่าแนวคิด “ยุติสงครามที่เลวร้ายระหว่างรัสเซียกับยูเครน” กำลังก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก ✨
1
อย่างไรก็ดี แถลงการณ์จากเครมลินเน้นย้ำในเวลาต่อมาว่า ปูตินได้สั่งการให้กองทัพรัสเซียชะลอหรือหยุดการโจมตีเป้าหมายด้านพลังงานในดินแดนยูเครนเท่านั้น แต่ยังไม่รับปากว่าจะ “พักรบ 30 วัน” อย่างเต็มรูปแบบทันที (ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์เสนอ)
โดยในช่วงไม่กี่ชั่วโมงหลังโทรศัพท์วางสาย เสียงไซเรนเตือนภัยการโจมตีทางอากาศได้ดังกระหึ่มในกรุงเคียฟอีกครั้ง และกองทัพยูเครนอ้างว่าตรวจพบโดรนรัสเซียพุ่งเข้ามาในพื้นที่ ทำให้ต้องยิงสกัดเกิดเป็นเสียงระเบิดต่อเนื่อง นั่นหมายความว่าเงื่อนไข “หยุดโจมตีด้านพลังงาน” ที่เพิ่งประกาศอาจยังไม่ถูกสื่อสารหรือปฏิบัติอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ต่อมา ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวผ่านช่องทาง Telegram ว่ารัสเซียเปิดฉากส่งโดรนโจมตีพลเรือนกว่า 40 ลำและสร้างความเสียหายในหลายจุด รวมถึงโรงพยาบาลในเมืองซูมี ข้อความจากผู้นำยูเครนบ่งชี้ว่า “ในหลายภูมิภาคยังได้ยินเสียงที่แสดงให้เห็นว่ารัสเซียต้องการอะไร” ซึ่งสะท้อนว่ายูเครนยังสงสัยอย่างมากว่าเครมลินจะหยุดยิงโครงสร้างด้านพลังงานจริงหรือไม่ รวมถึงเฝ้ารอรายละเอียดเงื่อนไขการตกลงอย่างเป็นทางการจากทั้งรัสเซียและสหรัฐฯ
เซเลนสกียังบอกกับผู้สื่อข่าวว่าต้องการฟังข้อมูลเชิงลึกจากทรัมป์เพิ่มเติม เพื่อให้เข้าใจว่า “ข้อเสนอฝั่งสหรัฐฯ” ที่ประสานกับ “ข้อเสนอของรัสเซีย” มีอะไรบ้าง และยูเครนจะสามารถปรับตัวหรือแสดงความคิดเห็นร่วมได้อย่างไร ก่อนจะประกาศท่าทีใดๆ ออกมาอีกครั้ง
หากมองในแง่บวก ข้อตกลง “ยุติโจมตีเป้าหมายพลังงาน” ถ้าเกิดขึ้นจริงระหว่างทั้งสองฝ่าย จะถือเป็น “การพักรบบางส่วน” ครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 เนื่องจากที่ผ่านมา รัสเซียมุ่งโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจุบันยูเครนเองก็มีศักยภาพโจมตีเป้าหมายภายในรัสเซียมากขึ้นด้วยเทคโนโลยีโดรนระยะไกล
ด้านทรัมป์ให้สัมภาษณ์ภายหลังผ่านรายการ Fox News กับพิธีกรลอร่า อิงเกรอัม โดยชี้ให้เห็นว่าตอนนี้มีอาวุธปริมาณมากจ่อพร้อมยิงเข้าหากัน การจะให้หยุดยิง “ทันที” โดยไม่มีเงื่อนไขอื่นเลยเป็นเรื่องยาก เนื่องจากรัสเซียได้เปรียบในบางสมรภูมิ อาทิ การล้อมทหารยูเครนจำนวนหลายพันนายไว้อย่างแยบยล ทรัมป์ยังตอบโต้ข่าวที่ระบุว่าปูตินต้องการให้หยุดส่งความช่วยเหลือแก่ยูเครนทันที โดยระบุว่า “ไม่ได้พูดถึงความช่วยเหลือเลยแม้แต่น้อย มีเรื่องอื่นๆ ถูกพูดถึงเยอะ แต่ไม่ใช่เรื่องหยุดส่งอาวุธ”
ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์เสริมว่า สหรัฐฯ กับรัสเซียเห็นพ้องที่จะเริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับ “การหยุดยิงทางทะเลในทะเลดำ” และหาแนวทางไปสู่ “ข้อตกลงสันติภาพถาวร” ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะเริ่มต้น “ทันที” ในพื้นที่ตะวันออกกลาง การเปิดเจรจาข้ามภูมิภาคในลักษณะนี้สะท้อนความพยายามเดินหน้าต่อจากทั้งสองฝ่าย แม้จะมีเงื่อนไขซับซ้อน
เครมลินออกมาย้ำด้วยว่าปูตินมีข้อกังวลหลักจำนวนมากที่อยากให้แก้ไขก่อนจะเดินหน้าสู่การหยุดยิงในวงกว้างจริงๆ ตั้งแต่ “กลไกการบังคับใช้ข้อตกลง” ไปจนถึง “โอกาสที่ยูเครนอาจฉวยจังหวะระหว่างพักรบเพื่อเสริมกำลังและรับความช่วยเหลือทางทหารจากตะวันตก” ซึ่งเป็นเหตุให้รัสเซียยังไม่พร้อมลงนามในข้อตกลงพักรบ 30 วันแบบเบ็ดเสร็จ
ในคำแถลงฉบับเดียวกัน รัสเซียยังย้ำเงื่อนไขใหญ่ๆ เช่น การระงับส่งอาวุธและข่าวกรองจากภายนอกทั้งหมด รวมถึงให้ยูเครนหยุดเรียกระดมพลเพิ่มเติม หากต้องการให้การพักรบขยายวงกว้างขึ้น แม้จะไม่ได้พูดถึงการ “ยกเลิกความช่วยเหลือ” แบบสิ้นเชิง แต่ก็ใกล้เคียงกับสิ่งที่สายข่าวบางแห่งรายงานก่อนหน้านี้
สำหรับท่าทีของปูตินต่อโอกาสยุติสงครามอย่างถาวร ยังไม่มีสัญญาณว่าเขาจะลดระดับความต้องการหลักที่รัสเซียถือมาตลอด เช่น ประเด็นความมั่นคงตามกฎหมายที่รัสเซียอ้างว่า “จำเป็นต้องแก้ไขตั้งแต่ต้นเหตุของวิกฤติ” ซึ่งรวมถึงการให้คำมั่นว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วมองค์การนาโต การลดศักยภาพทางทหารของยูเครน หรือแม้กระทั่งการยึดสี่แคว้นที่รัสเซียประกาศผนวกเมื่อปี 2022 ให้เป็นของรัสเซียโดยสมบูรณ์ สิ่งเหล่านี้ล้วนขัดแย้งโดยตรงกับแนวทางของยูเครนและพันธมิตรตะวันตก
หลังการเจรจา นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่าทรัมป์อาจพยายามเร่งสร้างผลงานด้านนโยบายต่างประเทศด้วยการผลักดัน “สันติภาพ” ให้เกิดขึ้น แม้จะเสี่ยงมีความขัดแย้งกับจุดยืนของยุโรปก็ตาม ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่าทรัมป์เคยเอ่ยในโซเชียลฯ ว่าบางส่วนของข้อตกลงสันติภาพขั้นสุดท้าย “ตกลงกันได้แล้ว” เหลืออีกหลายประเด็นที่ต้องคุยกันต่อ จึงทำให้บางประเทศในยุโรปเริ่มวิตกว่า สหรัฐฯ อาจมุ่งเน้นการปิดดีลมากกว่าปกป้องผลประโยชน์ของยูเครนอย่างเต็มที่
ในฝั่งยุโรป มีทั้งเสียงยินดีและกังวลปนกันไป สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปต่างเตรียมเร่งจัดหาอาวุธและความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้ยูเครน ซึ่งก็อาจขัดกับเงื่อนไขที่รัสเซียต้องการหยุดการสนับสนุนอย่างสิ้นเชิง ด้านออลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี (ซึ่งกำลังจะพ้นวาระ) ร่วมแถลงกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสว่า “การหยุดโจมตีโครงสร้างพื้นฐานเป็นสัญญาณที่ดี แต่สิ่งสำคัญคือต้องให้ยูเครนอยู่ในข้อตกลงอย่างเท่าเทียม” และเรียกร้องให้รัสเซียยุติการโจมตีให้ครบถ้วนโดยเร็วที่สุด
ขณะที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรระบุเช่นกันว่า “เป็นสัญญาณบวกที่ทรัมป์เจรจาให้เกิดการหยุดโจมตี” แต่ยังเน้นว่าผลลัพธ์ปลายทางต้องเป็นข้อตกลงที่ “เป็นธรรมและยั่งยืน” สำหรับยูเครนทั้งหมด
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนการโทรศัพท์ครั้งนี้ ทรัมป์เคยพูดถึงความเป็นไปได้ในการ “แบ่งทรัพยากรบางส่วน” ระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งดูจะเป็นประเด็นอ่อนไหวมาก เพราะอาจหมายถึงการยอมให้รัสเซียควบคุมดินแดนบางส่วนอย่างถาวร โดยเฉพาะไครเมียที่ถูกผนวกตั้งแต่ปี 2014 สื่อในสหรัฐฯ บางแห่งรายงานว่า ทีมงานของทรัมป์กำลังพิจารณาให้สหรัฐฯ ยอมรับไครเมียเป็นของรัสเซียอย่างเป็นทางการ และอาจกดดันสหประชาชาติให้เดินตามแนวทางนี้
สำหรับทางรัสเซีย หลังการคุยจบลง บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงในเครมลินดูพอใจกับผลการเจรจา มีการโพสต์ข้อความในโซเชียลฯ ว่า “สายนี้ยอดเยี่ยมมาก” หรือ “PERFECT call” ซึ่งคล้ายกับถ้อยคำที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเมื่อเกิดการสนทนาสำคัญระหว่างปูตินกับผู้นำสหรัฐฯ คนก่อน
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าความคาดหวังเรื่องการหยุดยิงอาจเดินหน้าไปได้บ้าง อย่างน้อยก็ในประเด็นโครงสร้างพลังงานที่เป็นเป้าหมายการโจมตีหนักในช่วงหลัง ถึงอย่างนั้น ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ซับซ้อนและเป็นเงื่อนไขฝั่งรัสเซียที่ยูเครนและตะวันตกยากจะยอมรับได้ ความขัดแย้งในสนามรบจึงยังไม่อาจนับถอยหลังยุติได้ทันที สิ่งที่เกิดขึ้นคงเป็นเพียง “หมุดหมายใหม่” ที่อาจนำไปสู่สันติภาพ หากการเจรจาสามารถยกระดับต่อไปได้ และหากไม่มีฝ่ายใด “ฉวยโอกาส” ใช้เวลาพักรบไปสะสมกำลังเพื่อเปิดฉากโจมตีในรูปแบบอื่นอีก
ในที่สุดแล้ว ผู้สังเกตการณ์หลายฝ่ายหวังว่าการหยุดโจมตี (อย่างน้อยก็ในส่วนของโครงสร้างพลังงาน) จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพลเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ยังคงอาศัยในพื้นที่ที่ถูกไฟสงครามครอบงำมาเป็นเวลานาน การที่ปูตินยอมตอบรับข้อเสนอของทรัมป์ในระดับหนึ่งก็สะท้อนว่ายังพอมีพื้นที่เล็กๆ ให้การทูตเข้าไปเจรจาได้ แม้ว่าจะยังอีกยาวไกลกว่าจะถึงจุดที่เรียกว่าสงบศึกอย่างถาวร
ส่วนท่าทีของทรัมป์ที่ต้องการประกาศ “ความสำเร็จ” ในระดับโลก อาจเป็นตัวเร่งสำคัญให้ฝ่ายสหรัฐฯ พยายามผลักดันการยุติสงครามเร็วขึ้น แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ายังมีภาคีหลักในยุโรปที่ต้องตัดสินใจร่วมกัน และหากสหรัฐฯ เลือกใช้แนวทางแบ่งส่วนดินแดนให้รัสเซียจริงๆ ก็มีสิทธิ์สร้างรอยร้าวครั้งใหญ่ระหว่างพันธมิตร อนาคตของยูเครนในแง่อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนก็ยังคงไม่แน่นอน
ท้ายที่สุด สงครามในยูเครนยังเดินหน้าต่อด้วยสถานการณ์ที่หลากหลายและแปรผันได้ตลอดเวลา กระนั้น หลายคนเลือกที่จะมองแง่ดีว่าการหยุดโจมตีโครงสร้างด้านพลังงานอาจเป็นก้าวแรกของ “การพักรบที่เป็นรูปธรรม” และอาจช่วยเปิดประตูสู่กระบวนการสันติภาพอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้ในสักวันหนึ่ง ❤️🔥
ขอบคุณภาพจาก Reuters
ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา
ยูเครนรัสเซีย
บันทึก
4
1
1
4
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย