19 มี.ค. เวลา 12:59 • ข่าวรอบโลก
บูกา

คุยหยุดยิงแต่ยิงไม่หยุด! ทรัมป์-ปูตินสายตรงไม่ช่วย รัสเซีย-ยูเครนซัดโดรนวุ่น 🛸🔥

รัสเซียและยูเครนออกมาโต้กันสนั่นในวันพุธ โดยต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายละเมิดข้อตกลงใหม่ที่ว่าด้วยการไม่โจมตีโครงสร้างพลังงาน ทั้งที่เพิ่งผ่านพ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังผู้นำสหรัฐอเมริกาอย่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โทรศัพท์สายตรงถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียแล้วแท้ ๆ
เนื้อหาสำคัญเริ่มต้นจากการสนทนาระหว่างทรัมป์และปูตินที่เกิดขึ้นในวันอังคาร ซึ่งในครั้งนั้นผู้นำรัสเซียแสดงจุดยืนคัดค้านข้อเสนอหยุดยิง 30 วันเต็ม ๆ ที่ทรัมป์ผลักดันและยูเครนเคยประกาศยอมรับมาก่อนหน้านี้ พอได้ยินแบบนี้หลายคนก็ตั้งคำถามกันทันทีว่ารัสเซียกำลังคิดอะไรอยู่ ถึงอยากหยุดยิงแค่บางจุด แต่ไม่อยากหยุดแบบเต็มรูปแบบ 🤔
ด้านปูตินให้เหตุผลไว้ว่าพร้อมชะลอโจมตีเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนเท่านั้น ข้อเสนอดังกล่าวก็ตามคาด ยูเครนรีบตอบตกลงทันที โดยประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนถึงกับออกมาเน้นย้ำว่าที่มอสโกไม่ยอมรับการหยุดยิงวงกว้างกว่านี้ อาจเป็นสัญญาณว่ารัสเซียไม่ได้ต้องการสันติภาพอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ แม้ว่าการหยุดยิงบางส่วนที่ตกลงกันจะเป็นเพียงข้อตกลงแคบ ๆ แต่หลายฝ่ายก็อยากให้มันเกิดขึ้นจริงอยู่ดี ทว่าความสงสัยก็ผุดขึ้นตามมาอีกระลอก เพราะช่วงเช้าวันพุธ ทั้งสองประเทศต่างรายงานการโจมตีด้วยโดรนและการโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายของกันและกัน โดยฝ่ายมอสโกอ้างว่ายูเครนโจมตีสถานีสูบน้ำมันทางตอนใต้ของรัสเซีย ส่วนยูเครนแถลงว่ารัสเซียยิงถล่มโรงพยาบาลและบ้านเรือน จนไฟดับเป็นบริเวณกว้าง รวมถึงกระทบระบบรถไฟในบางภูมิภาคอีกด้วย
เซเลนสกีเลยออกมาให้ข้อมูลเพิ่มว่า พฤติกรรมเช่นนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าคำพูดของรัสเซียกับการกระทำยังไปกันคนละทาง และรัสเซียยังไม่ได้อยู่ในสภาวะพร้อมคุยสันติภาพจริง ๆ ส่วนใครที่กลัวว่าหากหยุดยิงกันไปแล้วจะมีฝ่ายใดแอบละเมิด ข้อเสนอก็คือควรให้สหรัฐฯ ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการเคารพข้อตกลงหยุดยิง เพราะอเมริกาอยู่ในจุดที่ค่อนข้างมีอิทธิพลต่อทั้งสองฝั่งอยู่ไม่น้อย
ภาพแสดงเหตุการณ์โจมตีโรงพยาบาล ท่ามกลางการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ในเมืองคราสโนปิลเลีย แคว้นซูมี ประเทศยูเครน จากภาพแจกจ่ายที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2025
ขณะเดียวกัน โฆษกทำเนียบเครมลิน ดมิตรี เปสคอฟ เผยว่าฝั่งรัสเซียต้องยกเลิกปฏิบัติการโจมตีโครงสร้างพลังงานยูเครนบางส่วนกันเลยทีเดียว โดยมีการยิงโดรนของรัสเซียตกเองถึง 7 ลำ เพื่อยืนยันว่ารัสเซียพร้อมจะทำตามข้อตกลง แต่กล่าวหายูเครนว่าไม่หยุดโจมตีและอาจจงใจขัดขวางข้อตกลงนี้ ฝั่งเครมลินจึงตำหนิว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือความพยายามสกัดความคืบหน้าใด ๆ ในการลดความตึงเครียด
เปสคอฟยังบอกอีกว่า ผู้นำทั้งสองอย่างปูตินและทรัมป์เข้าใจกันดี มีท่าทีร่วมกันอยากฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับมอสโกให้กลับมาเป็นปกติ เพราะจริง ๆ แล้วต่างก็รู้ว่าสถานการณ์ในยุโรปตอนนี้ถ้าไม่เร่งหาทางออก สงครามครั้งนี้อาจยืดเยื้อเกินเยียวยา
ถึงอย่างนั้น ยุโรปก็ค่อนข้างระแวง ทรัมป์ประกาศมาหลายครั้งว่าอยากจัดการความขัดแย้งที่ร้ายแรงสุดในยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้จบลงให้ได้ ซึ่งฟังแล้วก็เหมือนจะเป็นข่าวดี แต่เหล่าพันธมิตรยุโรปยังหวาดกลัวอยู่ดี เพราะถ้าทรัมป์และปูตินแนบแน่นเกินไป ท่าทีอาจเปลี่ยนยุทธศาสตร์ความมั่นคงที่อเมริกาเคยยึดถือนานกว่า 80 ปีเลยทีเดียว โดยเฉพาะการตั้งรับการขยายอิทธิพลของรัสเซียในยุโรป
รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนีมองว่า การที่ปูตินปัดข้อเสนอหยุดยิง 30 วันแบบเต็ม ๆ เป็นหลักฐานชี้ชัดว่ารัสเซียยังไม่ต้องการสันติภาพจริง ๆ ส่วนการหยุดถล่มเฉพาะโครงสร้างพลังงานเฉพาะกิจนั้นอาจถือว่ามีค่าไม่มาก เซเลนสกีและทรัมป์น่าจะต้องหาวิธีเจรจาเพื่อให้รัสเซียยอมหลีกทางมากกว่านี้ให้ได้ หากยังต้องการการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
“เมื่อคืนหลังโทรศัพท์ที่เขาว่ากันว่าสำคัญนักหนา ก็ยังเกิดการโจมตีโครงสร้างพลเรือนอยู่อีก รัสเซียเหมือนเล่นเกมโยนหินถามทาง และเชื่อว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ คงทนดูเฉย ๆ ไม่ได้นานหรอก” บอริส พิสตอเรียส รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนีให้สัมภาษณ์กับสื่อ ZDF แบบตรงไปตรงมา
อย่างไรก็ตาม ฝั่งอิตาลีมีมุมมองอีกแบบ โดยอันโตนิโอ ทายานี รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลีบอกว่าสายตรงทรัมป์-ปูตินอาจเป็นก้าวแรกที่พอเห็นเค้าลางเชิงบวกได้ แล้วค่อยไปรอลุ้นกันตอนเจรจาเพิ่มเติมในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทุกฝ่ายตกลงจะไปคุยกันรอบถัดไป ทายานีบอกว่ารอบนี้ต้องวัดใจกันอีกทีว่าจะมีจุดลงตัวหรือไม่
เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ถูกโจมตีบริเวณโรงพยาบาล ท่ามกลางการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ในเมืองคราสโนปิลเลีย แคว้นซูมี ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2025
หากพูดถึงการโจมตีโครงสร้างพลังงาน หลายคนอาจรู้กันดีว่ามันกลายเป็นส่วนหนึ่งของยุทธการที่ตีไกลถึงหลังแนวหน้ามานานกว่า 3 ปี รัสเซียเองก็โจมตีโครงข่ายไฟฟ้าของยูเครนตลอด ด้วยเหตุผลว่าพลังงานเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกของฝั่งตรงข้ามที่เอื้อการทำสงครามได้ ทั้งโรงไฟฟ้า สถานีส่งกำลังต่าง ๆ พอโดนยิงซ้ำ ๆ ประชาชนก็ตกอยู่ในความยากลำบาก 🚫⚡
แต่ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บางพื้นที่ในยูเครนบอกว่าการถูกโจมตีด้านพลังงานลดน้อยลงไปบ้าง เห็นได้จากเครื่องปั่นไฟสำรองที่เคยวางกันเกลื่อนถนนในเคียฟลดลงตามสถานการณ์ตั้งแต่ปลายปี 2024 ซึ่งนั่นอาจสะท้อนว่าฝั่งมอสโกเพลาไม้เพลามือหรืออาจมีเหตุอื่นซ่อนอยู่ก็ยังไม่แน่ชัด
ในทางกลับกัน ยูเครนก็พัฒนาโดรนและขีปนาวุธระยะไกลขึ้นมาเรื่อย ๆ เช่นกัน โดยไปรุกเครือข่ายน้ำมันและก๊าซในดินแดนรัสเซีย บอกว่าแหล่งพลังงานเหล่านี้เป็นเสบียงเลี้ยงกองทัพรัสเซีย และเป็นรายได้สำคัญหมุนเข้ารัฐ ถ้าโดนตัดตอนก็เท่ากับตัดกำลังไม่ให้รัสเซียสู้แบบสบาย ๆ
รายงานในคืนล่าสุด ฝั่งทางการยูเครนเผยว่ารัสเซียใช้โดรนถล่มโรงพยาบาล 2 แห่งในแคว้นซูมี ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ถือว่าโชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ต้องรีบอพยพผู้ป่วยและบุคลากรออกอย่างโกลาหล
ใกล้ ๆ กรุงเคียฟ เขตบูชาทางตอนเหนือมีเหตุระเบิดก่อให้เกิดความเสียหายกับบ้าน 18 หลัง ห้องพักอาศัย 20 แห่ง ยานพาหนะ 19 คัน รวมถึงร้านค้า 2 แห่งและคาเฟ่อีก 1 แห่ง ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชายวัย 60 ปีบาดเจ็บด้วย คนในพื้นที่ต่างกังวลว่ายังจะมีการโจมตีตามมาอีกหรือไม่ 🔥
ภาพแสดงบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีด้วยโดรนของรัสเซีย ท่ามกลางการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ในเมืองฮอสโตเมล เขตเคียฟ ประเทศยูเครน วันที่ 19 มีนาคม 2025 REUTERS/Alina Smutko
ไม่ใช่แค่ที่บูชาเท่านั้น ทางรถไฟในแถบดนิโปรเปตรอฟส์กตอนใต้ก็โดยสารไม่ได้ชั่วคราว เพราะระบบพลังงานโดนถล่ม ทำให้ต้องหยุดเดินรถบางเส้นทางจนกว่าจะซ่อมแซมเสร็จ ด้านเมืองสโลเวียนสกใกล้แนวรบก็โดนจรวดโจมตีช่วงเวลาที่ผู้นำสองฝ่ายสนทนากันพอดี ชาวบ้านบางส่วนไม่มีไฟฟ้าใช้ไปหลายชั่วโมง
ข้อมูลกองทัพยูเครนระบุว่า ตลอดคืนที่ผ่านมา รัสเซียปล่อยโดรน 145 ลำ ยิงตกไปได้ 72 ลำ ส่วนอีก 56 ลำสูญหายหรือไม่ก็เสียหาย ฝั่งกระทรวงกลาโหมรัสเซียก็ออกมาโต้ทันที อ้างว่ากำลังพลตนจัดการโดรนของยูเครนได้ 57 ลำระหว่างคืนเดียวกัน
ฝั่งหน่วยงานปกครองประจำแคว้นครัสโนดาร์ของรัสเซียแจ้งว่า โดรนจากยูเครนโจมตีใส่คลังน้ำมันบริเวณหมู่บ้านคัฟคัซสกายา ต้นเพลิงขยายวงประมาณ 20 ตารางเมตร ต้องอพยพพนักงานราว 30 คนและหยุดการทำงาน เป็นอีกจุดที่สร้างความตื่นตระหนกแก่ชาวบ้านในพื้นที่
สื่อ SHOT ทางเทเลแกรมก็เผยคลิปไฟลุกโชนยามค่ำคืนในโซนที่เป็นสถานีขนถ่ายน้ำมันสำคัญขนาดใหญ่ ซึ่งส่งออกทางรถไฟและทางท่อ แสดงให้เห็นว่าความตึงเครียดของการโจมตีระยะไกลไม่ได้จำกัดแค่ในพรมแดนยูเครนเท่านั้น
เรื่องไม่จบเท่านั้น เพราะหน่วยงานดูแลการบินของรัสเซีย หรือที่รู้จักกันว่าโรซาเวียตเซีย ออกมาบอกว่าต้องระงับเที่ยวบินช่วงกลางคืนจากท่าอากาศยานคาซาน นิจนีนอฟโกรอด และนิจเนคัมสก อยู่พักหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยด้านการบิน เนื่องจากเกรงว่าจะถูกลูกหลงจากโดรนยูเครน
ทั้งหมดนี้เป็นการรายงานโดยสำนักข่าวหลายสำนัก รวมถึงสำนักข่าวรอยเตอร์สที่สรุปเหตุการณ์อย่างละเอียด ใครที่ติดตามสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนมาโดยตลอดคงรู้สึกได้ว่าการโจมตีข้ามแดน การโต้ตอบ และบรรยากาศหวาดระแวง ยังไม่ลดลงเท่าไร แม้จะมีสายตรงจากทรัมป์ถึงปูติน หรือแม้แต่ข้อตกลงบางส่วนที่พยายามจะหยุดการรุกคืบในโครงสร้างพลังงานก็ตาม
โฆษณา