20 มี.ค. เวลา 04:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปวิธีสังเกต จุดกลับตัวของตลาดหุ้น ด้วยแนวคิด CANSLIM

ในโลกการลงทุน การเลือกหุ้นดีเป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ช่วงเวลาการลงทุนที่เหมาะสม
เพราะแม้หุ้นจะมีปัจจัยพื้นฐานดี แต่หากเราซื้อในช่วงตลาดเป็นขาลง ก็อาจทำให้ผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
ซึ่งคุณ William O'Neil นักลงทุนชื่อดังและเจ้าของแนวคิด CANSLIM ก็ได้ศึกษาและพบว่า กว่า 75% ของหุ้นทั้งหมดมีการเคลื่อนไหวตามแนวโน้มตลาด
1
จึงทำให้การเข้าใจทิศทางตลาด ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกหุ้นรายตัวเลย
และในสถานการณ์ปัจจุบันที่ตลาดบ้านเรากำลังเผชิญแรงขายอย่างหนัก นักลงทุนหลายคนอาจสงสัยว่า ตลาดหุ้นถึงจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง หรือยังมีโอกาสปรับฐานลงต่อ
แนวคิด CANSLIM เองก็มีวิธีสังเกตจุดกลับตัวของตลาดเช่นกัน ซึ่งอาจจะช่วยให้เราจับสัญญาณแนวโน้มที่อาจเปลี่ยนไป และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมได้
แล้วเราจะสังเกตสัญญาณเหล่านี้ด้วยแนวคิด CANSLIM ได้อย่างไร ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
มาทำความเข้าใจแนวคิด CANSLIM คร่าว ๆ กันก่อน
CANSLIM เป็นกลยุทธ์การหาหุ้นเติบโตที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยคุณ William J. O'Neil ในปลายทศวรรษ 1950
2
แนวคิดนี้เกิดจากการศึกษาหุ้นที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นในอดีต และพบว่า หุ้นเหล่านี้มีปัจจัยร่วมบางอย่างที่ช่วยให้เติบโตเร็วกว่าหุ้นอื่น ๆ
โดยลักษณะสำคัญของหุ้นเหล่านั้น ถูกแบ่งเป็น 7 ปัจจัยหลัก แทนด้วยตัวอักษรรวมกัน กลายเป็นคำว่า CANSLIM สรุปคร่าว ๆ คือ
C แทนคำว่า Current Quarterly Earnings
กำไรต่อหุ้นไตรมาสล่าสุดเติบโตมากกว่า 25% YoY
A แทนคำว่า Annual Earnings Growth
กำไรสุทธิโตขึ้นอย่างน้อย 25% ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปี
N แทนคำว่า New Product or Service
ปัจจัยการเติบโตใหม่ เช่น นวัตกรรม หรือโมเดลธุรกิจ
S แทนคำว่า Supply & Demand
หุ้นมีปริมาณการซื้อขายสูงขึ้น ในช่วงที่ปรับตัวสูงขึ้น
L แทนคำว่า Leader or Laggard
หุ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม หรือมีส่วนแบ่งการตลาดสูง
I แทนคำว่า Institutional Sponsorship
มีนักลงทุนสถาบันเข้าลงทุน สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง
M แทนคำว่า Market Direction
ควรลงทุนในช่วงที่แนวโน้มตลาดโดยรวมอยู่ในช่วงขาขึ้น
แม้ CANSLIM จะมี 7 ปัจจัยที่ช่วยให้เราคัดเลือกหุ้นเติบโต แต่หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนอย่างมาก
นั่นคือ M ซึ่งก็คือ ทิศทางของตลาด
1
เพราะต่อให้หุ้นผ่านเกณฑ์ทุกข้อ แต่ถ้าตลาดยังเป็นขาลง หุ้นส่วนใหญ่ก็ยังมีโอกาสปรับตัวลงต่อไป
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการเข้าใจแนวโน้มตลาดจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนวางแผนได้อย่างเหมาะสม
ทำให้แนวคิด CANSLIM จะไม่ได้ทำให้เราเข้าซื้อหุ้นที่ราคาถูกเพียงอย่างเดียว แต่จะเข้าซื้อเมื่อหุ้นเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว และแนวโน้มตลาดกลับมาเป็นขาขึ้น
1
ดังนั้น หากตลาดยังไม่มีสัญญาณกลับตัว การรอจนกว่าแนวโน้มจะชัดเจนจึงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในแนวคิดนี้
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตลาดกำลังกลับตัว ?
สัญญาณสำคัญที่ช่วยให้เราสังเกตจุดกลับตัวของตลาด
นั่นคือ Follow Through Day หรือ FTD
1
Follow Through Day คือ สัญญาณการเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นในตลาดหุ้น เป็นวันที่ตลาดแสดงให้เห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจน
โดยมีเงื่อนไข คือ ดัชนีปรับตัวขึ้นแรง พร้อมปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นมากกว่าวันก่อนหน้า
หากอธิบายเรียงลำดับเหตุการณ์ให้เข้าใจง่าย ๆ คือ
1. ช่วงตลาดขาลง
ในช่วงที่ดัชนีปรับตัวลดลงต่อเนื่อง นักลงทุนขายหุ้นและบรรยากาศการลงทุนโดยรวมยังดูไม่ดี
สิ่งที่เราต้องมองหาคือ วันที่ดัชนีตลาดพยายามฟื้นตัว
โดยมี 2 สัญญาณหลัก
- ดัชนีปิดสูงกว่าวันก่อนหน้า
- ดัชนีเปิดลบ แต่ก็ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาพยุง จนดัชนีร่วงไม่แรงมาก หรือกลับมาปิดบวกได้
หากเจอแล้วให้นับเป็นวันที่ 1 ของการพยายามฟื้นตัว
1
2. ตลาดต้องไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่
2
หลังจากเจอวันที่ 1 ของการพยายามฟื้นตัว ให้เฝ้าดูว่าตลาดสามารถประคองตัวได้หรือไม่
โดยสังเกตจากการที่ดัชนีไม่ปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่าวันที่ 1 ซึ่งแสดงถึงแรงขายเริ่มลดลงและแรงซื้อเริ่มเข้ามาประคองตลาด
แต่ทั้งนี้หากยังมีแรงขายทำให้ดัชนีปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ ถือว่าการพยายามฟื้นตัวล้มเหลว และต้องเริ่มนับใหม่
3. ต้องมี Follow Through Day เพื่อยืนยันแนวโน้มขาขึ้น
หากตลาดสามารถยืนประคองตัวได้ และวันต่อมาดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 1.5-2% พร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า
การปรับตัวขึ้นทั้งดัชนี และปริมาณการซื้อขายแบบนี้ จะเรียกว่า Follow Through Day ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดอาจเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้นได้
1
โดยทั่วไปแล้ว มักเกิดขึ้นวันที่ 4 เป็นต้นไปหลังจากตลาดเริ่มพยายามฟื้นตัว เพราะหากดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นมา แล้วยังถูกขายใส่หนัก ๆ อีก แสดงว่าตลาดอาจยังไม่พร้อมกลับตัวจริง
อย่างไรก็ตาม การเกิด Follow Through Day ไม่ได้การันตีว่าตลาดจะเปลี่ยนเป็นขาขึ้นเสมอไป แต่หากมองย้อนกลับไปในอดีต ทุกแนวโน้มขาขึ้นที่สำคัญมักเริ่มต้นด้วย Follow Through Day
ปกติแล้วจุดต่ำสุดของตลาดมักมาพร้อมกับข่าวร้ายและความหวาดกลัว รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลงจนถึงขีดสุด
แต่ในตลาดหุ้น ความรู้สึกไม่ใช่ตัวชี้วัดที่แม่นยำ สิ่งเดียวที่เราควรทำคือ ปล่อยให้ตลาดเฉลย
1
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ Follow Through Day อาจไม่ใช่สัญญาณที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราสังเกตการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มได้ก่อนที่ตลาดจะฟื้นตัวอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือ อย่าเสียเวลาคาดเดาตลาดว่าจะไปในทิศทางไหน แต่ให้ใช้เวลานี้ทำการบ้านรอ พร้อมเฝ้าดูสัญญาณที่เกิดขึ้นเหล่านี้เป็นระยะ ๆ เพื่อให้รู้ว่าในช่วงเวลาแบบนี้ เราต้องทำอะไรต่อไป
1
เพราะเมื่อสัญญาณกลับตัวมาถึง โอกาสใหม่จะเป็นของคนที่เตรียมตัวทันนั่นเอง..
#ลงทุน
#หลักการลงทุน
#CANSLIM
References
-หนังสือ How to Make Money in Stocks : CANSLIM คัดหุ้นชั้นยอดด้วยระบบชั้นเยี่ยม (2558) โดย William O'Neil
โฆษณา