20 มี.ค. เวลา 03:22 • ความคิดเห็น

บทเรียนชีวิตของทอม เครือโสภณ

ผมรู้จักคุณทอม เครือโสภณมาตั้งแต่หนุ่มๆ สมัยอยู่ดีแทค ในตอนนั้นคุณทอมอยู่ที่บริษัทสามารถ เรียกได้ว่าเป็นคนร่วมสมัยเดียวกันด้วยอายุอานามไม่ได้ห่างกันมากนัก
คุณทอมเป็นคนหนุ่มที่เก่ง คล่องและมีความเป็นอเมริกันสูงตั้งแต่ในสมัยนั้นเพราะโตที่โน่นและเคยทำงานเป็นลอบบี้ยิสต์ระดับสูงที่อเมริกาอีกด้วย หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันบ่อยแต่ก็ยังเป็นเพื่อนกันบน facebook และผมก็ติดตามคุณทอมเวลาให้สัมภาษณ์เรื่องต่างๆ อยู่เสมอเพราะคุณทอมเป็นคนที่พูดตรงๆ มีแง่มุมต่างๆ ที่ชวนให้คิดให้ถกอยู่บ่อยครั้ง
เมื่อไม่นานมานี้ผมเห็นคุณทอมโพสต์ภาพในโรงพยาบาลแล้วดูเหมือนจะมีอาการหนักระดับรอดไม่รอด แล้วก็ได้ฟังคุณทอมมาให้สัมภาษณ์ในรายการคุณสุทธิชัย หยุ่น ผมคิดว่ามีบทเรียนที่คุณทอมได้ประสบพบเจอที่น่าสรุปมาเตือนทุกคนไว้อยู่ในบทสัมภาษณ์นั้น
คุณทอมเล่าว่าในตอนนี้อายุ 59 ปี เป็นอายุเดียวกับที่คุณพ่อเสียเมื่อตอนที่เขาอายุ 18 เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อสองอาทิตย์ก่อน คุณทอมไปตีกอล์ฟแล้วรู้สึกเหนื่อยผิดปกติ เดิมก็คิดว่าอาจจะเพราะอากาศร้อนแต่ภรรยาสังเกตเห็นความผิดปกตินั้นเลยพาไปโรงพยาบาล แล้วพอตรวจเลือดชุดใหญ่ก็พบว่ามีตัวชี้บ่งชัดเจนว่ามีโอกาสหัวใจวาย ก็เลยไปตรวจหัวใจ EKG แล้วจะนัดมาตรวจ MRI
ทอมในตอนนั้นก็ยังบ่ายเบี่ยงบ้างานว่ามีประชุม จะว่างอีกทีอีกสามวันจนหมอต้องเตือนแรงๆว่าถ้าไม่มา อีกสามวันเราก็อาจจะไม่มีโอกาสเจอกันอีก ก็เลยยอมมาตรวจในวันรุ่งขึ้น
ด้วยความสงสัยว่าจะเป็นโรคหัวใจได้อย่างไรเพราะที่ได้ยินมานั้นโรคหัวใจต้องเจ็บหน้าอกก็เลยไม่คิดว่าซีเรียส แต่คุณหมอก็บอกว่าเพราะทอมเป็นเบาหวาน receptor ที่ทำให้รู้สึกปวดหรือเจ็บอาจจะโดนเบาหวานทำให้ไม่รู้สึกไปแล้วก็ได้ แล้วพอ MRI เสร็จ หมอบอกเลยว่าเส้นตัน แล้วพอฉีดสีต่อ หมอก็อธิบายถึงอาการที่หนักหน่วงว่า หัวใจคนเราจะมีเส้นเลือดหลักหล่อเลี้ยงหัวใจอยู่สามเส้น ของคุณทอมนั้น สองเส้นตันจนทำอะไรไม่ได้แล้ว
จากที่เคยได้ยินมา คุณทอมก็ยังถามแบบงงๆ ว่าบอลลูนหรือขูดหินปูนไม่ได้แล้วเหรอครับ หมอบอกว่ามันตันจนขูดแล้วเส้นอาจจะแตกแล้วตายตรงนั้นเลยก็ได้ หัวใจเลยเหลือเส้นดีอยู่เส้นเดียวและทำงานอยู่แค่ 40% เท่านั้นเอง
บทเรียนที่สำคัญอีกประการที่คุณทอมเล่าก็คือ พอฟังแล้ว ด้วยความที่ตัวเองมีสตางค์ก็คิดว่าใช้เงินน่าจะแก้ปัญหาได้ หาหมอที่ดีที่สุด ใช้การรักษาที่แพงที่สุดก็น่าจะมีทางบ้าง จนคุณหมอต้องบอกว่าเส้นหัวใจมันแย่จนเอาเงินเท่าไหร่ก็แก้ไม่ได้แล้ว บายพาสก็แก้ไม่ได้เพราะไม่มีเส้นให้ต่อสาย จะรอเปลี่ยนหัวใจก็รอแถวและก็ไม่รู้ว่าร่างกายจะรับได้หรือไม่ ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิตอย่างเดียว ไม่งั้นก็คือตาย..
1
บทเรียนที่สำคัญที่ทอมบอกต่อมาก็คือ เหตุร้ายที่เกิดในวันนี้เพราะไม่ดูแลตัวเองเรื่องน้ำตาลกับเบาหวาน คุณทอมเป็นเบาหวานมาสิบกว่าปีและคิดไปเองว่าจะสู้เบาหวานได้ด้วยการกินยา ทอมบอกเลยว่าเป็นความโง่เขลาเบาปัญญาของตัวเองที่คิดว่ามีสตางค์ก็โยนเข้าไปเพื่อแก้ปัญหาในการซื้อยาแพงๆ มากิน สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยอะไร
1
พอได้ยินข่าวร้ายในระดับนี้ ภาพแรกที่เห็นเลยคือลูกสาว ลูกสาวคุณทอมเพิ่งได้เข้ามหาวิทยาลัยดีระดับทอปโลก จะได้อยู่ถึงเขาจบปริญญาหรือไม่ เป็นความคิดที่ขึ้นมาชัดเจนที่สุดในโมเม้นนั้น และก็ตระหนักรู้ถึงคำที่สำคัญที่สุดในวินาทีนั้นว่า Health is wealth จากคนที่มีสตางค์มากมาย คิดว่าตัวเองมั่งคั่ง พอไม่มีสุขภาพก็รู้สึกได้เลยว่าตัวเองจนลงจนไม่เหลืออะไรเลย
คุณทอมอยู่ในช่วงที่จะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมทุกอย่างที่เคยทำมา สูบซิการ์ กินอาหารที่อร่อยแต่ทำร้ายร่างกายให้หมด ซึ่งไม่ง่ายแน่ๆสำหรับคนที่ประพฤติปฏิบัติแบบเดิมมาหลายสิบปี ต้องงดน้ำตาล ขนมทุกอย่างที่เคยชอบทั้งหมด และต้องเริ่มชีวิตรูปแบบใหม่ให้ได้ คุณทอมบอกว่าโชคดีที่มีคนรอบข้างที่ดี มีกำลังใจจากเพื่อนๆ ในตอนนี้
1
ที่น่าสนใจคือคู่สนทนาของคุณทอมในรายการคือคุณสุทธิชัย หยุ่นในวัยเกือบแปดสิบที่แข็งแรงมาก สุขภาพอยู่ในขั้นยอดเยี่ยม ก็ได้เห็นคุณสุทธิชัยช่วยปลอบประโลม และเล่าถึงเคสของตัวเองที่เคยเจอแบบคุณทอมแต่เป็นเมื่อตอนที่คุณสุทธิชัยอายุสามสิบห้า บ้างาน กินเหล้า กินเบียร์ ไม่หลับไม่นอนหลายคืน จนเคยล้มทั้งยืนที่ออฟฟิศและเข้าโรงพยาบาล ตอนนั้นสุขภาพแย่มาก ความดัน คอเลสเตอรอล น้ำหนักเกินทุกอย่าง ทำให้คุณสุทธิชัยเจอ moment of truth เร็วในวัยแค่สามสิบกว่าและตั้งใจว่าจะไม่กลับไปโรงพยาบาลอีก
ในจังหวะตอนนั้น คุณสุทธิชัยได้รับเชิญไปดูงานที่แคนาดาอยู่หนึ่้งเดือน เจ้าหน้าที่สถานทูตแคนาดามาให้เลือกเรื่องอาหารการกิน คุณสุทธิชัยเลยบอกไปเลยว่าเป็นมังสวิรัติทั้งที่ตัวเองยังไม่ได้เป็นแต่อยากเปลี่้ยนพฤติกรรมชีวิตแบบหักดิบ ก็เลยถูกจัดให้กินผักต้ม มันฝรั่ง ไม่มีเนื้อสัตว์เลยไม่ว่าจะไปเมืองไหนในตอนนั้น
1
อาทิตย์แรกโหดร้าย หิว หมดแรง อยากบุหรี่ ไม่รู้ว่าจะไหวหรือไม่ แต่พอสามสี่วันผ่านไป การขับถ่ายดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อาการเจ็บคอจากการสูบบุหรี่ กินเบียร์เรื้อรังหายไปหมด อาทิตย์ที่สองเริ่มรู้สึกดี เดือนเดียวน้ำหนักหายไปสิบกิโล
1
หลังจากนั้นคุณสุทธิชัยก็ไม่กลับไปวิถีเดิมอีก กินปลาต้ม กินผัก ไม่กินน้ำอัดลม ออกกำลัง จนแข็งแรง ฟิตปั๋ง อย่างที่เราเห็นหน้าจอทุกวันในวัยเจ็ดสิบแปดวันนี้
คุณทอมบอกว่าตอนนี้กำลังหาศัตรูใหม่ก็คือทอมคนเก่า จะพยายามเล่าให้ทุกคนฟังว่าอย่าโง่เหมือนทอมเก่าคนนั้นที่ประมาท คิดว่าสตางค์ซื้อได้ทุกอย่างและไม่ดูแล้วตัวเองคนนั้น
ผมฟังแล้วก็เลยอยากจะช่วยเผยแพร่เจตนารมณ์ของคุณทอมที่อยากเตือนทุกคนไว้ไม่ว่าจะอยู่ในวัยใดก็ตามเผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับใครหลายคนในวันหน้าก็ได้นะครับ
โฆษณา