20 มี.ค. เวลา 05:20 • ไลฟ์สไตล์

กุญแจดอกที่ 7 : “ที่ได้ดี เพราะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง” 🌎

พอขึ้นต้นด้วยเรื่องนี้ ผมได้ตรียมลานจอดไว้ให้ละ มีรถทัวร์ มาจอดเพียบเลย! 😣
เฮ้ย! มาชวนคุย ให้คนเห็นแก่ตัวกันมากขึ้นรึเปล่า! คุณคิดว่าโลกหมุนรอบตัวคุณเหรอ!
เป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก เพราะจริงๆ แล้วสังคม โดยเฉพาะในวัฒนธรรมไทย หรือวัฒนธรรมตะวันออก มักสอนให้เรา คิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ
คำว่า “ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง” อาจฟังดูขัดแย้งกับค่านิยมที่ว่า “อย่าเห็นแก่ตัว” หรือ “โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเรา” ซึ่งถูกฝังรากลึกในความคิดของเรา
แต่ช้าก่อน ลองมาเปิดใจฟัง เรื่องราวต่อไปนี้แล้วเพื่อนๆ ค่อยตัดสินเรานะ เราอนุญาต เราไม่โกรธใครหรอก
เพื่อนๆ เชื่อไหม คนทุกคนล้วนมี “สมุดบันทึกชีวิตเป็นของตัวเอง”
เป็นเรื่องราวที่สะท้อนตัวตน ประสบการณ์ และคุณค่าที่เราสร้างขึ้นมา
หากเราเอาเรื่องราวของเราไปผูกติดกับคนอื่น ปล่อยให้ชีวิตคนอื่นมากำหนดคุณค่าของเรา มันเหมือนกับ “การยอมให้คนอื่นจับปากกาแล้วเขียนสมุดของเราแทน” สุดท้ายแล้ว
เรื่องราวดีๆ ที่เราอยากเห็นในชีวิตอาจจะเลือนหายไป เพราะเราไม่ได้เป็นคนกำหนดมันเอง
❤️ “การใช้ชีวิต โดยยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง” ในที่นี้คือ การรู้จักเคารพตัวเองและรับผิดชอบต่อความสุขของเรา ในข้อเท็จจริงมันก็มีดีหลายอย่าง เช่น ช่วยให้เราเข้าใจตัวเองชัดเจนขึ้น และสามารถสร้างชีวิตที่สอดคล้องกับความต้องการแท้จริงของเราเอง
และต่อไปนี้คือ 5 เหตุผล ที่น่าจะดีพอ:
1. รู้จักตัวเองมากขึ้น🔎
 เมื่อเราให้ความสำคัญกับตัวเองก่อน เราจะมีโอกาสสำรวจความรู้สึก ความฝัน และเป้าหมายของเรา แทนที่จะปล่อยให้คนอื่นมากำหนดว่าชีวิตเราควรเป็นยังไง มันเหมือนการจุดไฟส่องทางให้ตัวเองเดิน ไม่ใช่เดินตามแสงของคนอื่น
2. ตัดสินใจได้ดีขึ้น🧮
 การยึดตัวเองเป็นหลักทำให้เราเลือกสิ่งที่เหมาะกับเรา ไม่ใช่ทำตามความคาดหวังหรือแรงกดดันจากคนรอบข้าง เช่น ถ้าเรารู้ว่าอะไรทำให้เรามีความสุขจริงๆ เราจะกล้าปฏิเสธสิ่งที่ไม่ใช่ แม้ว่าคนอื่นจะมองว่ามัน “ดี” ก็ตาม
3. มีความสุขที่ยั่งยืน😌
 ความสุขที่มาจากภายใน เพราะเราเลือกในสิ่งที่สอดคล้องกับตัวตน มันมั่นคงกว่าการรอคำชมหรือการยอมรับจากคนอื่น ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
4. ลดความเครียดและการเปรียบเทียบ😇
 เมื่อเราโฟกัสที่ตัวเอง แทนที่จะมองชีวิตคนอื่นเป็นมาตรฐาน เราจะไม่รู้สึกกดดันว่าต้องตามใครให้ทัน หรือต้องเป็นเหมือนใคร มันทำให้จิตใจสงบและมั่นคงขึ้น
5. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกว่า🥰
 พอเราเคารพและเข้าใจตัวเอง เราจะรู้ว่าต้องให้คุณค่ากับคนอื่นยังไงด้วย ไม่ใช่การยอมทุกอย่างเพื่อเอาใจคนอื่น แต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมและจริงใจ
”การยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง“ ในแง่บวก ไม่ได้หมายความว่าโลกต้องหมุนรอบเรา หรือเราต้องได้ทุกอย่างตามใจ
แต่เป็นการที่เราเลือกที่จะเป็น “จุดศูนย์กลางของชีวิตตัวเอง” แทนที่จะปล่อยให้คนอื่นหรือสถานการณ์มากำหนดทิศทางให้เรา มันคือการรับผิดชอบตัวเอง เช่น:
• หากเราไม่ดูแลสุขภาพจิตและร่างกายของตัวเองให้ดี เราจะช่วยคนอื่นได้ยังไง?
• ถ้าเราไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร เราจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีหรือมีส่วนร่วมกับสังคมได้เต็มที่แค่ไหน?
“โลกอาจไม่ได้หมุนรอบตัวเรา แต่ชีวิตของเราควรหมุนรอบสิ่งที่เราให้คุณค่า” เปรียบเทียบง่ายๆ เหมือนการบินบนเครื่องบิน ที่แอร์โฮสเตสเตือนว่า💺 “กรุณาใส่หน้ากากออกซิเจนให้ตัวเองก่อน แล้วค่อยช่วยคนข้างๆ” มันไม่ใช่การเห็นแก่ตัว! แต่เป็นการทำให้ตัวเองพร้อมก่อนที่จะไปดูแลคนอื่น
“การยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง“ มันทำให้เราเป็นเจ้าของชีวิตตัวเองอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ตัวประกอบในเรื่องราวของคนอื่น
มันไม่ใช่การยกตัวเองขึ้นเหนือคนอื่น แต่เป็นการวางตัวเองให้อยู่ในจุดที่มั่นคง เพื่อให้เรามีพลังไปรัก ไปช่วย ไปอยู่เคียงข้างคนอื่นได้ดีขึ้น
ซึ่งเริ่มต้นจากการรู้จักและดูแลตัวเองก่อน เหมือนคำกล่าวที่ว่า
“คุณต้องเติมน้ำในแก้วของตัวเองก่อน ถึงจะแบ่งให้คนอื่นได้” (You must fill your own cup first before you can share it with others.)
🐾คำข่วน แบบเลือดซิบๆ :
♟️ “ชีวิตคือสมุดบันทึก จงเขียนให้งดงามด้วยปากกาของตัวเอง” (Your life is your story—don’t let someone else hold the pen.)
♟️“อย่าให้เงาคนอื่น บดบังแสงของเรา” (Don’t let the shadow of others dim your own light.)
♟️“คุณค่าของคุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับสายตาคนอื่น แต่อยู่ที่ใจคุณเลือกจะมองตัวเองยังไง” (Your worth doesn’t depend on how others see you, but on how you choose to see yourself.)
ชวนเพื่อนคิดทิ้งท้ายไว้นิดนึง
“การยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง“ มันคือการสร้างสมดุลระหว่างตัวเองและคนอื่น ไม่ใช่การทิ้งคนอื่นไป 😊 และอย่าปล่อยให้คนอื่นเป็นคนเขียนบทในสมุดชีวิตของคุณ เพราะคุณคือผู้กำกับเรื่องราวของตัวเอง
เพื่อนๆ อ่านถึงตรงนี้แล้ว คิดเห็นกับเรื่องนี้กันยังไงบ้าง! แสดงความคิดเห็นมาได้เลยนะ
โฆษณา