20 มี.ค. เวลา 06:43 • หนังสือ
สำหรับ เราไม่มีความรู้ ไม่รู้เรื่องราว ในการปฏิบัติของเค้า ในรายละเอียดต่างๆ แต่ในเรื่องราวของพระพุทธศาสนา เราก็รู้แบบงูๆปลาๆ ยังทำไปไม่ถึง ..ที่สุดแห่งทุกข์ หรือ จิตของผู้ที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ในสมัยต้นพุทธกาล มีพระอรหันต์ เดินไปเดินมา ก็มีญาติโยม ไปนั่งรอคอย นั่งพับเพียบ รอจน พระท่านมายืน รอตรงหน้า นั่งทำกายนิ่งๆจิตนิ่งเฉยๆ
เมื่อพระท่านเห็นโยม มีกายที่นิ่ง จิตก็นิ่ง เกิดเป็นกายของผู้ที่มีบุญ ไม่ลุกลี้ลุกลน โยมใช้สองมือของคุณบิดามารดา ชูข้าวปลาอาหาร มีตาจับจ้องอยู่ที่ข้าวอาหารที่จะใส่บาตร ทำกายนิ่งๆ ขอให้กายบิดามารดาอนุโมทนา ..เมื่อพระท่านเห็นว่า โ่ยมมีกายนิ่ง จิตนิ่ง ท่านจึงเปิดบาตรให้ใส่ สิ่งที่โยมจะได้รับ ก็แสงสีรัตนะ ที่เปล่งออกมาจากกายจากจิตของพระอรหันต์ จิตของญาติโยมก็จะได้รับแสงสีรัตนะ สิ่งที่จิตของโยมได้รับแสงรัตนะ ก็จะไปช่วยเหลือจิตของโยม ในการประพฤติปฏิบัติ คลี่คลายกรรม ที่ไหลออกมาจากธาตุทั้งสี่
เรื่องของธาตุทั้งสี่ นั้นสะสมไปด้วยกรรม ..เหมือนเป็นหนี้กรรมเป็นบัญชีกรรม ที่จิตนั้นต้องเวียนว่ายตายเกิด พระพุทธศาสนา สินให้สร้างบุญกุศล เพื่อยุติการเกิด แล้วการยุติการเกิด นั่น มีใครที่ได้ก่อน ..มีพระพุทธเจ้าท่านทำได้ ท่านก็สอนสาวกของท่าน ทุกพระองค์ก็เดินตามรอยท่าน ..สละทรัพย์สมบัติ ยศศักดิ์ เข้าไปอยู่ป่า ชำระสะสางตัวเอง ผู้ที่ทำสำเร็จ ก็อยู่ป่า ไม่กลับมาอยู่เมือง แล้วเรื่องราวของกายของพระอรหันต์ ที่ว่ากายเป็นแก้ว นั่นเป็นอย่างกัน .. คนสมัยนี้ยุคนี้ก็ไม่เคยเห็น ..
..ยิ่งเรื่องราวผ่านมา สองพันห้าร้อยปี ก็ไม่มีใครได้เห็นว่า สมัยต้นพุทธกาล ทำไม่มีพระอรหันต์ สำเร็จกันมาก เพราะฉะนั้น ในการเรียนรู้ศาสนา เราก็เสาะแสวงหา พระที่ท่านทำได้ ทำตามรอยองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากเราได้พบเจอ เราก็ได้เรียนในเรื่องราวรอยการเกิด ตามองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าทำอย่างไรจึงยุติการเกิด หรือให้การเกิดมันน้อยลงไป
โฆษณา