21 มี.ค. เวลา 11:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เครดิตบูโร กางหนี้ครัวเรือนคนไทย เฉพาะหนี้เสีย 1.22​ ล้านล้านบาท

เครดิตบูโร กางหนี้ครัวเรือนคนไทย เฉพาะหนี้เสีย NPLs อยู่ที่ 1.22​ ล้านล้านบาท คิดเป็นจำนวนทุกประเภทสินเชื่อ​ 9.5 ล้านบัญชี
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) ได้โพสต์เฟสบุ๊ก “Surapol Opasatien” ข้อมูลจาก สถาบันวิจัยป๋วย​ นำข้อมูล​สถิติที่ไม่มีตัวตนจากเครดิตบูโร​จำนวนกว่า​ 27 ล้านลูกหนี้​ ไปแยกแยะสุขภาพ​ทางการเงินจากภาระหนี้สินแล้วนำไปนำเสนอในงานสัมนาวิชาการ​ ของธนาคารกลางปีที่แล้ว​
ข้อมูล บอกว่า​ ในระบบการเงินของเราเวลานี้มีคนที่มีสุขภาพทางการเงินในระดับดี​ ซึ่งน่าจะพอยื่นกู้ได้เพียง​ 25%
เครดิตบูโร กางหนี้ครัวเรือนคนไทย เฉพาะหนี้เสีย NPLs อยู่ที่ 1.22​ ล้านล้านบาท คิดเป็นจำนวนทุกประเภทสินเชื่อ​ 9.5 ล้านบัญชี
ที่เหลือก็ดูจะมีเงื่อนไขที่ดูจะยากในการได้รับอนุมัติตามมาตรฐานสินเชื่อในปัจจุบันที่เข้มถึงเข้มมาก​
และเมื่อมาดูที่ ข้อมูลหนี้ครัวเรือนของไทย พบว่า สินเชื่อในระบบที่มีการส่งข้อมูล​มาที่เครดิตบูโร​ทุกเดือน​ ตัวเลขคือ​ 13.6 ล้านล้านบาท​ ถ้าบวกเพิ่มด้วยหนี้ที่สหกรณ์​ออมปล่อยกู้สมาชิก และ กยศ. และอื่นๆ ก็จะไปอยู่ที่​ 16.3 ล้านล้านบาท โดยการเติบโตของหนี้ของบุคคลธรรมดาในระบบเท่ากับ​ -​0.5% yoy​ หมายถึง สินเชื่อรายย่อยมันแทบไม่ขยับ​ ทำให้ได้ยินเสียงบ่นว่า กู้ไม่ได้​ กู้ไม่ผ่าน​ อัตราการปฎิเสธการให้สินเชื่ออยู่ในระดับที่สูง​
และเมื่อเจาะลงไป พบว่า ยอดอยู่ที่ 1.22​ ล้านล้านบาทเป็นหนี้เสีย​ NPLs คิดเป็นจำนวนทุกประเภทสินเชื่อ​ 9.5 ล้านบัญชี และ 5.8 แสนล้านบาทเป็นหนี้ที่กำลังจะเสีย,หนี้กล่าวถึงเป็นพิเศษหรือหนี้​ SM. ​จำนวน​ 1.9 ล้านบัญชี ซึ่งหนี้เสียไปแล้วจากนั้นนำมาปรับโครงสร้างหนี้ที่มีปัญหาหรือก็คือหนี้​ NPLs. เอามาทำ​ TDR.​ กลายเป็นหนี้ปรับโครงสร้างอีก​ 1 ล้านล้านบาทคิดเป็น​ 3.7ล้านบัญชี
ต่อมาคือหนี้ที่เริ่มค้างชำระหรือเริ่มมีปัญหาแต่ยังไม่เกิน​ 90 วัน ซึ่งมีการรีบเร่ง เอามาทำการปรับโครงสร้างหนี้เชิงป้องกันหรือทำ​ DR. เพื่อให้กลับมาเป็นหนี้ปกติ​ เมื่อเริ่มเก็บข้อมูล​เดือนเมษายน​ 2567​ ตอนนี้ ยอดสะสมเท่ากับ​ 9.2 แสนล้านบาท จำนวน​ 1.7ล้านบัญชี
เครดิตบูโร กางหนี้ครัวเรือนคนไทย เฉพาะหนี้เสีย NPLs อยู่ที่ 1.22​ ล้านล้านบาท คิดเป็นจำนวนทุกประเภทสินเชื่อ​ 9.5 ล้านบัญชี
ปัญหาระดับที่อาจเรียกว่าวิกฤติได้
คุณสุรพล บอกด้วยว่า ด้วยตัวเลขหนี้ที่มีลักษณะ​ต่างๆ ข้างต้น​ ด้วยจำนวนมูลหนี้เป็นบาท​ ด้วยจำนวนที่นับเป็นบัญชี​แล้ว​ เรามีปัญหาระดับที่อาจเรียกว่าวิกฤติได้ การฟื้นตัวของรายได้ไม่มากพอ​ ไม่ทั่วถึง​ ยังมาไม่เต็มที่และไม่เหมือนเดิม​ ประกอบกับคนที่พยายามจะขอกู้ติดกำแพงดังนี้ ชนกำแพงอายุ​ เพราะถ้าจะต้องผ่อนเกินอายุ​ 60,65 ปี​ ใครเขาจะให้กู้ ชนกำแพงรายได้​
เพราะมันมีข้อกำหนดเรื่อง​ Debt​ to income, หนี้ต่อรายได้​ ว่าเต็มศักยภาพ​ในการหารายได้มาจ่ายหนี้ถ้าจะก่อเพิ่มได้มั้ย ชนกำแพงสถานะทางเครดิตคือ​ เป็นคนเคยค้างชำระมั้ย​ เป็นคนที่กำลังค้างอยู่มั้ย​ เป็นหนี้เสียมั้ย​ เคยเป็นหนี้ปรับโครงสร้าง​มั้ย​ สารพัดในคุณลักษณะ​ครับ​ อย่างที่กล่าวข้างต้น​ เรามีคนสุขภาพ​ทางการเงินดี​ 25% หรือประมาณ​ 5 ล้านคน​ ซึ่งหลายคนไม่มีความจำเป็นต้องกู้
ภาระหนี้สินกองเป็นภูเขาหลังจากเจอหลุมรายได้​ มันฉุดกระชากเศรษฐกิจ, เซาะกร่อนบ่อนทำลาย​รากฐานความเข้มแข็ง​ของเศรษฐ​กิจ​ ดังนั้นมาตรการที่กำลังแก้อยู่ไม่ว่า​ คุณสู้​ เราช่วย​ จ่ายตรง​ คงทรัพย์​ ปิดจ่ายจบ​ หรือที่กำลังวิวาทะฝุ่นตลบ​ หากทางใดทางหนึ่ง​ หรือทางหนึ่งทางใดจะทะลุปัญหานี้​ นอกเหนือจากออกมาพูดเก๋ไก๋​
ว่าเป็นเรื่องโครงสร้างแต่ไม่บอกวิธีแก้ชัดๆ​ แล้วหล่ะก็​ เราควรใจกว้างๆ​ ใจร่มๆ​ เปิดรับฟังวิธีการ​ เราควรสู้กับเรื่อง​ ไม่ใช่สู้กับคนให้มีเรื่อง​ ต้องคิดบวก​ ไม่ใช่พร้อมบวก​ บ้านเมืองมันถึงจะวิวัฒน์​ ถ้าติไปทุกเรื่องมันก็วิบัติสิครับ
เครดิตบูโร กางหนี้ครัวเรือนคนไทย เฉพาะหนี้เสีย NPLs อยู่ที่ 1.22​ ล้านล้านบาท คิดเป็นจำนวนทุกประเภทสินเชื่อ​ 9.5 ล้านบัญชี
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/economic/245125
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา