ผลของ “การหยุดยิงเร่งด่วน” โดยไม่ได้ข้อสรุปเงื่อนไขที่ชัดเจน
“รัสเซีย-ยูเครน” และ “อิสราเอล-ฮามาส”
“อิสราเอล คัทซ์” รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลขู่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาว่าจะ “ทำลายล้างให้สิ้นซาก” หรือ “ให้ถูกขับไล่” หากตัวประกันชาวอิสราเอลที่ฮามาสจับตัวไปยังไม่ได้รับการปล่อยตัวทั้งหมด และฮามาสยังไม่ถูกถอนรากถอนโคน ในคลิปวิดีโอที่ส่งถึงชาวปาเลสไตน์ในกาซา คัทซ์ได้ออก “คำเตือนครั้งสุดท้าย” โดยระบุว่าการโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งคร่าชีวิตพลเรือนชาวปาเลสไตน์ไปมากกว่า 400 ราย เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น [1]
“สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจะรุนแรงกว่านี้มาก คุณ (ปาเลสไตน์ในกาซา) จะต้องจ่ายเต็มราคา!” คัทซ์ประกาศต่อชาวปาเลสไตน์ ในเวลาเดียวกัน เขาก็เรียกร้องให้ชาวปาเลสไตน์ฟัง “คำแนะนำ” ของทรัมป์ ส่งตัวประกันชาวอิสราเอลคืน และโค่นล้มฮามาสซะ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ชาวปาเลสไตน์ได้รับสัญญาว่าจะมี “ทางเลือกอื่น” เช่น ออกจากฉนวนกาซาแบบดีๆ และย้ายไปที่อื่น อาจเป็นโซมาเลีย ซึ่งทำเนียบขาวได้เริ่มกรอบการเจรจากับประเทศในแอฟริกาแล้ว
“ถ้าไม่งั้น อีกทางเลือกหนึ่งคือถูกทำลายล้างอย่างสิ้นซาก” คัทซ์บรรยายถึงอนาคตของชาวปาเลสไตน์หากปฏิเสธที่จะอพยพออกจากบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขา ไปจนถึงต้องเจอกับปากกระบอกปืนกลของอิสราเอลก็ตาม
อิสราเอล คัทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล (ยืนตรงกลาง) @Israel_katz/X
ทว่ารัฐบาลทรัมป์ 2.0 ได้เคยประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะสร้างความปรองดอง (ข้อตกลงหยุดยิง) ระหว่าง “อิสราเอล” กับ “ฮามาส” ไปเมื่อ 16 มกราคมที่ผ่านมา นี่หมายถึงการสงบศึกหยุดยิงแบบเร่งด่วนก่อนหน้านี้ (ประมาณ 2 เดือนก่อน) “เครดิตโดยทรัมป์” [2]
หากรวมถึงความขัดแย้งระหว่าง “รัสเซีย” กับ “ยูเครน” กำลังจะจบลงผลลัพธ์ด้วยที่ใกล้เคียงกันหรือไม่ (สันติภาพที่ยังไปต่อไม่ได้ เริ่มยิงกันใหม่) ความขัดแย้งที่ “มาร์โก รูบิโอ” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เคยเรียกโดยตรงและยอมรับเองว่าเป็น “สงครามตัวแทน” ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ [3]
หากสหรัฐในฐานะคนกลางไกล่เกลี่ยไม่พิจารณาอย่างจริงจังรอบคอบถึงข้อเรียกร้องของทั้งสองฝ่ายคู่กรณี “รัสเซีย” กับ “ยูเครน” ในการขจัดต้นตอของความขัดแย้งในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการขยายอิทธิพลของนาโตมาทางตะวันออก การนำกองทัพฝ่ายตะวันตกเข้ามาในยูเครน การปลดล็อคการคว่ำบาตรเพื่อช่วยด้านเศรษฐกิจ (ตามคำกล่าวอ้างที่เป็นเงื่อนไขจากฝั่งรัสเซีย) ส่วนฝั่งยูเครนเองเท่าที่ดูก็อยากได้ดินแดนกลับมาบ้าง (ซึ่งยากมาก) และที่สำคัญคือการรับประกันว่าจะได้รับปลอดภัยจากพันธมิตร
หากเงื่อนไขมันไม่ลงตัวและเจอกันทั้งสองฝ่าย สันติภาพในระยะยาวก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้แน่นอน การหยุดยิงชั่วคราวมันก็แค่วาระเพื่อสร้างเครดิตให้กับตัวเองชั่วครู่ชั่วคราว แล้วไม่นานมันก็กลับมา “อีหรอบเดิม” เริ่มยิงกันใหม่ เหมือนตอนนี้ที่อิสราเอลกลับมาโจมตีหนักใส่กาซาอีกแล้ว รวมถึงขยายผลกับฮูตีในเยเมน (อันหลังอาจจะส่งสัญญาณไปถึงอิหร่าน) ส่วนฝั่งยูเครนเองก็เหมือนจะไปไม่รอด ตกลงปุ๊บ ยิงกันปั๊บ อ้างว่าเข้าใจกันคนละอย่าง
เครดิตภาพ: Amit Sengupta
เรียบเรียงโดย Right Style
21st Mar 2025
- ■อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: (บน) Viacheslav Mavrychev/Suspilne Ukraine/JSC “UA:PBC”/Global Images Ukraine via Getty Images and Ali Jadallah/Anadolu via Getty Images (ล่าง) Fede Yankelevich / The Economist>
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
