Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ประกันเล่าเรื่อง | by Nutthawoot
•
ติดตาม
21 มี.ค. เวลา 06:30 • ธุรกิจ
ลงทุนในกองทุนรวม: ข้อดีและข้อเสียที่ต้องรู้
เมื่อปีที่แล้ว ผมตัดสินใจเริ่มลงทุน (Investment) ครั้งแรกในชีวิต เงินออม 50,000 บาทนอนนิ่งอยู่ในบัญชีธนาคารมานาน ดอกเบี้ยแค่ 0.5% ต่อปีแทบไม่ช่วยอะไร ผมรู้สึกเหมือนเงินกำลังหลับอยู่ เพื่อนสนิทที่ลงทุนมานานแนะนำว่า “ลองกองทุนรวม (Mutual Funds) สิ ง่าย ไม่ต้องเก่งหุ้นก็รวยได้” ผมตื่นเต้นแต่ก็กลัวขาดทุน เลยใช้เวลาศึกษาและลองลงเงินไป วันนี้ผมจะเล่าจากประสบการณ์จริงว่ามันดีและเสี่ยงยังไง และทำไมมันถึงเปลี่ยนมุมมองการเงินของผม
จุดเริ่มต้น: ทำไมถึงเลือกกองทุนรวม
ผมไม่มีความรู้เรื่องหุ้นเลย กลัวซื้อผิดตัวแล้วเงินหายเกลี้ยง เพื่อนเล่าให้ฟังว่ากองทุนรวมคือการให้ผู้จัดการกองทุน (Fund Manager) ที่เก่งๆ เอาเงินเราไปลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์หลายๆ ตัวแทน ผมเริ่มด้วยกองทุนหุ้นไทย ลงทุน 10,000 บาทแรกผ่านแอปธนาคาร แค่โอนเงินแล้วรอผล ไม่ต้องนั่งลุ้นกราฟทั้งวัน การเงินส่วนบุคคล (Personal Finance) ของผมเริ่มมีหวังจากจุดนั้น ผมรู้สึกเหมือนก้าวแรกที่เงินเริ่มทำงานเพื่อผม ไม่ใช่ผมทำงานเพื่อเงินอย่างเดียว
ข้อดี: ทำไมผมชอบกองทุนรวม
หลังจากลองมา 1 ปี ผมเจอข้อดีที่ทำให้กองทุนรวมกลายเป็นเพื่อนสนิททางการเงินของผม:
1. เริ่มง่าย ไม่ต้องเก่งวิเคราะห์
ผมไม่ต้องนั่งดูกราฟหรือวิเคราะห์งบการเงิน (Financial Statement) ผู้เชี่ยวชาญจัดการให้หมด กองทุนแรกที่ผมซื้อให้ผลตอบแทน (Return on Investment) ปีแรก 7%—จาก 10,000 บาท ได้กำไร 700 บาท—ดีกว่าดอกเบี้ยธนาคารที่ให้แค่ 50 บาทต่อปีเยอะมาก มันเหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มลงทุน (Beginner Investor) แบบผม
2. กระจายความเสี่ยงได้ดี
เงิน 10,000 บาทของผมถูกกระจายไปลงทุนในหลายบริษัท เช่น ธนาคาร พลังงาน สินค้าอุปโภคบริโภค ถ้าบริษัทนึงขาดทุน ตัวอื่นช่วยพยุงไว้ ผมเคยเห็นกองทุนลดลง 2% เพราะหุ้นธนาคารตก แต่หุ้นพลังงานขึ้น 3% ทำให้โดยรวมยังบวก ความมั่นคงทางการเงิน (Financial Stability) แบบนี้ทำให้ผมอุ่นใจ
3. ลงทุนน้อยก็เริ่มได้
กองทุนที่ผมเลือกเริ่มขั้นต่ำแค่ 1,000 บาท เดือนไหนมีเงินเหลือ ผมเติมเพิ่มอีกนิดหน่อย การวางแผนการเงิน (Financial Planning) ไม่ต้องรอให้รวยก่อนถึงลงทุนได้ ผมเคยคิดว่าการลงทุนต้องใช้เงินแสน แต่กองทุนรวมพิสูจน์ว่าผิด
4. มีตัวเลือกหลากหลาย
นอกจากกองทุนหุ้น ผมลองกองทุนตราสารหนี้ (Bond Funds) ที่เสี่ยงน้อยกว่า ได้ผลตอบแทน 3-4% ต่อปี เหมาะกับตอนที่ผมอยากพักเงินไว้แบบปลอดภัย มันเหมือนมีเมนูให้เลือกตามความชอบ
ปัญหา: ข้อเสียที่เจอและต้องระวัง
แต่กองทุนรวมไม่ได้มีแต่ข้อดี เดือนที่สามหลังลงทุน ตลาดหุ้นตกหนัก เงินผมลดจาก 10,000 บาทเหลือ 9,500 บาท ผมใจเสียจนอยากขายทิ้ง แต่โชคดีที่รอได้ นี่คือข้อเสียที่ผมเจอและอยากให้คุณรู้:
1. ความผันผวนตามตลาด
กองทุนรวมผูกกับตลาด ถ้าตลาดแย่ เงินก็ลด ผมเคยเห็นกองทุนหุ้นไทยติดลบ 10% ใน 2 เดือน ต้องฝึกใจเย็นและมองระยะยาว ไม่เหมาะกับคนที่รับความเสี่ยง (Risk Tolerance) ไม่ได้
2. ค่าธรรมเนียมที่กินกำไร
มีค่าใช้จ่ายให้ผู้จัดการกองทุน ปีละ 1-2% เงิน 10,000 บาท ผมจ่ายไป 150 บาท ถ้าผลตอบแทนน้อย เช่น 3% ผมได้กำไรจริงแค่ 150 บาทหลังหักค่าธรรมเนียม การลงทุนในกองทุนรวม (Mutual Fund Investment) ต้องคำนวณให้ดี
3. ควบคุมไม่ได้เต็มที่
ผมเลือกหุ้นเองไม่ได้ ต้องเชื่อมือผู้จัดการ ถ้าเขาตัดสินใจผิด เช่น ลงทุนในหุ้นที่เจ๊ง ผมก็ขาดทุนไปด้วย ครั้งหนึ่งกองทุนที่ผมถือลงทุนในบริษัทที่ขาดทุนหนัก ผลตอบแทนหายไป 4% ผมทำได้แค่รอให้เขาปรับ
4. ผลตอบแทนไม่แน่นอน
ต่างจากฝากประจำที่รู้ชัดว่าได้เท่าไหร่ กองทุนรวมขึ้นอยู่กับตลาด ผมเคยหวังกำไร 10% แต่ได้แค่ 5% บางปีอาจขาดทุนด้วยซ้ำ ต้องมีวินัยการเงิน (Financial Discipline) สูง
3
ทางออก: วิธีรับมือจากประสบการณ์
ผมเรียนรู้ว่า การลงทุนในกองทุนรวมต้องอดทนและเลือกให้ดี ผมเริ่มเช็คผลงานกองทุนย้อนหลัง 5 ปี ดูว่าให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอไหม และเลือกกองทุนที่จ่ายปันผล (Dividend Funds) ด้วย ปีนี้ผมได้ปันผล 300 บาทจากกองทุนหุ้นปันผล ช่วยลดความกังวลตอนตลาดผันผวน ผมยังกระจายเงินไปกองทุนหลายแบบ—หุ้น ตราสารหนี้—เพื่อลดความเสี่ยง
ผลลัพธ์: เงินเริ่มทำงานเพื่อผม
จาก 10,000 บาทแรก ตอนนี้เงินผมโตเป็น 11,200 บาทใน 1 ปี ไม่มาก แต่เป็นจุดเริ่มต้นของ Passive Income ผมวางแผนเพิ่มเงินลงทุนอีก 5,000 บาทปีหน้า และอาจลองกองทุนต่างประเทศ (Global Funds) เพื่อผลตอบแทนที่สูงขึ้น ความกลัวขาดทุนตอนแรกหายไป กลายเป็นความมั่นใจว่าผมทำได้ กองทุนรวมเหมือนครูที่สอนให้ผมเข้าใจการลงทุน
คำแนะนำสำหรับคุณ
ถ้าคุณอยากลอง เริ่มจากกองทุนที่เสี่ยงต่ำ เช่น ตราสารหนี้ หรือกองทุนผสม (Balanced Funds) ลงเงินแค่ 1,000 บาทก็พอ แล้วค่อยศึกษาเพิ่ม คุณอาจลองถามตัวเอง—พร้อมรับความผันผวนเพื่อให้เงินโตไหม? ถ้าใช่ กองทุนรวมอาจเป็นทางเลือกดี แต่ถ้ากลัวเสี่ยง ฝากประจำหรือประกันสะสมทรัพย์ (Insurance Savings) อาจเหมาะกว่า
กองทุนรวมเปลี่ยนมุมมองของผม จากเงินที่นอนหลับ เป็นเงินที่ตื่นมาทำงาน คุณลองชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียดูสิ แล้วเริ่มก้าวแรก เงินในกระเป๋าคุณอาจขอบคุณคุณในอนาคต
ธุรกิจ
การลงทุน
ไลฟ์สไตล์
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย