รอล์ฟบอกว่า Lotus Arts de Vivre เติบโตขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ได้เริ่มต้นจากการพยายามเป็นองค์กรเชิงพาณิชย์ แต่เป็นเพียงความสนุกสนานพวกเขาในการตามหาและทำงานร่วมกับปรมาจารย์ในท้องถิ่น และโน้มน้าวให้พวกเขาเปิดเผยอดีตเพื่อนำสิ่งเสนอใหม่ ๆ
“กลายเป็นว่า เราได้ช่วยสร้างอาชีพให้กับช่างฝีมือที่มีทักษะเหล่านี้ และฝ่ายเราเองยังได้รับการเติมเต็มจากพวกเขาด้วย สิ่งที่เราได้รับจากความร่วมมือนี้คือความตื่นเต้นและความสำเร็จ” ผู้ก่อตั้ง Lotus Arts de Vivre บอก
นิกกี้ยังเล่าวา ความจริงแล้ว จุดเริ่มต้นของ Lotus Arts de Vivre นั้นค่อนข้างเรียบง่าย เพราะความจริงแล้วรอล์ฟก่อตั้งขึ้นเพื่อให้เฮเลนมีงานอดิเรกทำแก้เหงาในขณะที่ศรีและนิกกี้ถูกส่งไปเรียนต่างประเทศเท่านั้น
ตัวของเขาเองนั้น ในตอนแรกยังไม่ได้เข้ามาทำงานใน Lotus Arts de Vivre แต่ไปเข้าร่วมองค์กรพัฒนาเอกชนที่มีชื่อว่า PDA ซึ่งย่อมาจาก Population and Community Development Association ที่ก่อตั้งโดยนักธุรกิจชาวไทยชื่อ มีชัย วีระไวทยะ “พ่อของผมคิดว่าการที่ผมออกไปทำงานนอกกรุงเทพฯ และดูว่าประเทศไทยเป็นอย่างไรด้วยสายตาตัวเองน่าจะเป็นความคิดที่ดี”
แก่นแท้ของ Lotus Arts de Vivre คือสร้างสรรค์งานศิลปะที่ไม่มีใครเทียบได้ ด้วยการใช้วัตถุดิบล้ำค่าจากทั่วโลกอย่างพิถีพิถัน และการใช้กระบวนการทางศิลปะที่สืบทอดมาจากประเพณีเก่าแก่หลายศตวรรษจากทั่วโลก ด้วยการนำเอามรดกอันล้ำค่าของเอเชียและงานฝีมืออันประณีตของวัฒนธรรมตะวันตกมาใช้ Lotus Arts de Vivre จึงเป็นผู้บุกเบิกที่แท้จริงในด้านความหรูหราที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยืนหยัดมาได้ยาวนานกว่า 40 ปี