Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนูนิ
•
ติดตาม
21 มี.ค. เวลา 13:50 • นิยาย เรื่องสั้น
รักย้อนอดีตภาค 6 ปีศาจอวกาศถล่มไทยแลนด์แดนสไมล์
.
ตอน 27 วงแหวนพลัง
.
ผ่านการเลี้ยวโค้งยิบย่อยในที่สุดภานิชาก็มาถึงที่โล่งเป็นคูหากว้าง และที่นั่นศาสตราจารย์พาราด็อกซ์ลอยเหนือพื้นถูกคุมขังอยู่ในวงแหวนพลัง3วง
.
วงแหวนทั้ง3ต่างหมุนไปต่างทิศทาง 2วงแรกซ้อนกันเป็นรูปตัวXและวงที่3วนผ่ากลาง รัศมีของพลังที่ทำให้ภานิชาไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้คือ 5 เมตร
.
"เกิดอะไรขึ้นกับคุณศาสตราจารย์"
.
พาราด็อกซ์ถอนใจเฮือก "ถามผมแล้วผมจะถามใคร"
.
"แล้วแอชมัท ล่ะ"
.
พาราด็อกซ์ "ภานิชา เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมากจนผมเล่าไม่ถูก ปีศาจอวกาศมีรูปร่างหน้าตาอย่างไรไม่แน่ชัด เพราะสามารถเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆตามที่ต้องการ
กำเนิดจากสิ่งใดวิวัฒนาการสูงมากแค่ไหนไม่มีใครรู้ แถมมันล่วงรู้ถึงความรู้สึกนึก
คิดของฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย
.
กว่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันได้เข้าไปอยู่ในร่างของแอชมัทและควบคุมด้านมืดของเขา ทุกคนจะมีด้านดีและด้านเลวขึ้นอยู่ที่มีด้านไหนมากกว่าที่ควบคุมอีกด้านไว้
.
มันจับผมขังไว้ในวงแหวนพลัง ซึ่งอยู่ในระหว่างมิติของกาลเวลาอย่างที่คุณเห็น โชคดีที่ผมส่งข่าวให้คุณผ่านเจ้าหนูได้ทัน แต่เกิดอะไรขึ้นกับแอชมัทบ้างผมไม่รู้"
.
ภานิชา "วิธีทำลายวงแหวนพลังเพื่อให้คุณออกมาต้องทำอย่างไร"
.
พาราด็อกซ์ "มีเพียงปืนลำแสงบลาสเตอร์เท่านั้น"
.
"ปืนบลาสเตอร์ในสตาร์วอร์สที่อยู่กับองค์ราชาดิษยมานพหรือ"
.
พาราด็อกซ์ "ถูกแล้ว ปืนบลาสเตอร์ไม่ใช่ปืนเลเซอร์ แต่เป็นอาวุธที่ยิงด้วยกระสุนปืนซึ่งเรียกว่าก๊าซทิบันนา ซึ่งสามารถจุดไฟได้เองจนกลายเป็นพลาสม่า
.
ตามปกติเราจะคุ้นเคยสถานะของสสารในรูปของของแข็ง(Solid) ของเหลว(Liquid) และ แก๊ส(Gas) แต่ยังมีอีกสถานะที่4 ที่คนยังรู้ไม่มากนักนั่นคือ พลาสมา(Plasma)
.
โดยพลาสมามีลักษณะคล้ายแก๊สแต่มีลักษณะอะตอมที่ต่างกัน โดยในแก๊สนั้นอิเล็กตรอนจะอยู่ภายในอะตอม
แต่พลาสม่านั้น อิเล็กตรอนจะหลุดออกมา ซึ่งประจุไฟฟ้าอิสระนี้ทำให้พลาสมามีคุณสมบัติในการนำไฟฟ้า
.
เราสามารถพบเห็นพลาสมาในชีวิตประจำวันได้ในหลอดไฟนีออน ข้างในหลอดไฟนีออนจะใส่แก๊สเฉื่อย ซึ่งกระแสไฟฟ้าจะทำหน้าที่เปลี่ยนแก๊สให้กลายเป็นพลาสมาและเปล่งสีต่างๆ ออกมาตามประเภทของแก๊สที่ใช้
.
ตัวอย่างของพลาสมาอื่นๆ ได้แก่ สายฟ้า แสงจากดวงดาว และ สำหรับร่างกายมนุษย์หน้าที่หลักของพลาสมาคือการนำสารอาหาร ฮอร์โมน และ โปรตีนไปยัง
ส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ต้องการ
เซลล์ยังนำของเสียใส่ในพลาสมาเพื่อช่วยกำจัดของเสียเหล่านี้ออกจากร่างกาย
ของมนุษย์อีกด้วย"
.
ภานิชา "ศาสตราจารย์ เอ้อ..นี่ไม่ใช่ชั้นเรียนวิทยาศาสตร์นะคะ ฉันแค่ต้องการรู้ว่า
จะหาปืนบลาสเตอร์มาได้อย่างไร"
.
พาราด็อกซ์ชะงักแล้วถอนใจพร้อมกับโคลงศีรษะ "ผมก็เหมือนแอชมัท เวลาที่จด
จ่ออยู่กับเรื่องของอะไรมักสนใจเฉพาะสิ่งที่อยู่ตรงหน้า บางทีผมก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำ
ว่ากินข้าวกินกาแฟและได้นอนบ้างหรือยัง
.
ถ้าการคำนวณของผมไม่ผิดพลาดคงไม่นานจากนี้ราชาดิษยมานพและผู้เก่งกล้าที่สุดในทุกจักรวาลจะมาที่นี่
เพียงแต่ตอนนี้คุณคงต้องหาทางเอาตัวรอดจากฝูงหมาป่าไฮยีน่ากระหายเลือดให้ได้ก่อน"
.
สิ้นคำของพาราด็อกซ์ก็มีกลิ่นสาบซึ่งรุนแรงเกินบรรยาย และ พร้อมกับเสียงขู่คำ
รามอย่างน่าสยดสยองดังขึ้นโดยรอบ สุนัขป้าไฮยีน่าซึ่งเป็นสัตว์กินเนื้อที่มีขนรุง
รังไม่เป็นระเบียบและมีหลังโค้งงอเป็นเอกลักษณ์20กว่าตัวกำลังรายล้อม
.
แม้ไฮยีน่าจัดอยู่ในวงศ์เดียวกับสุนัขแต่ตัวสูงจากพื้นประมาณ 80 เซนติเมตร มีน้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม(ตัวผู้มีน้ำหนักมากกว่า) หมายถึงมันเป็นสุนัขที่ตัว
ใหญ่กว่าสุนัขป่า รวมถึงแข็งแรงและทรงพลังกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
.
อะไรก็ไม่เท่ากลิ่นสาบของมันที่ทำให้ภานิชาแทบหายใจไม่ออก จนเธอต้องใช้ผ้าแถบที่คาดหน้าผากไว้มาปิดจมูกแทน และขยับดาบเลเซอร์พร้อมที่จะรับการโจมตี
.
ไฮยีนาตัวเมียที่มีอวัยวะเพศเทียมเหมือนของเพศผู้และยื่นออกมาจากร่างกายเป็นจ่าฝูง สาเหตุที่อาจทำให้ไฮยีน่าเพศเมียเป็นแบบนั้น ก็เนื่องจากเพศเมียมีฮอร์โมน Testosterone
.
ซึ่งเป็นฮอร์โมนหลักที่ช่วยกระตุ้นลักษณะความเป็นชาย ทำให้ไฮยีน่าตัวเมียส่วนใหญ่มีขนาดตัวและขนาดอวัยวะเพศใหญ่กว่ามีอำนาจเหนือกว่าไฮยีน่าตัวผู้
.
พวกมันใช้วิธีที่เรียกว่า "หมาหมู่" คือจะล้อมเหยื่อของมันไว้ แล้วสมุนซึ่งส่วนใหญ่เป็นตัวผู้แต่ละตัวจะทำหน้าที่เข้ามาลองเชิงด้วยการเข้ามาใกล้ได้โอกาสก็กัด
เหยื่อทนไมาไหวล้มลงพวกมันก็กินเหยื่อทั้งเป็นโดยกัดและกระชากตับไตไส้พุงออกมาก่อน
.
ภานิชารู้เพราะโปรแกรมของการต่อสู้จะวิเคราะห์คุณสมบัติความสามารถของคู่ต่อสู้ให้อย่างละเอียด เธอจึงใช้ดาบสกัดไม่ให้พวกมันใช้ความสามารถพิเศษในการล่ากับเธอ
.
ในที่สุดนางจ่าฝูงคงรำคาญเลยส่งสัญญาณให้โจมตี คราวนี้ภานิชาจึงใช้ดาบปลิดชีพพวกมันที่เข้ามาในระยะใกล้ เธอใช้ดาบจัดการไปได้ไม่กี่ตัวก็โดนตัวที่เป็นหน่วยกล้าตายหลายตัวพุ่งชนจนล้ม
.
ทำไมน่ะหรือ น้ำหนักตัวของพวกไฮยีน่าประมาณ 60 กิโลกรัม/ตัว ในขณะที่น้ำหนักตัวของภานิชาเพียง 45 กิโลกรัม หน่วยกล้าตายหลายตัวที่พุ่งชนพร้อมๆกันนั้นเธอคาดไม่ถึงและหลบไม่ทัน จึงเหมือนกระสอบทรายที่นักมวยไทยใช้ซ้อมเตะเหวี่ยงใส่พร้อมๆกัน
.
ทันทีที่ภานิชาล้มลง พาราด็อกซ์ถึงกับตาเหลือก เขาย่อมรู้ดีว่าสิ่งใดที่จะตามมาจึงตะโกนสุดเสียง "ระวัง"
ในขณะที่เหล่าไฮยีน่าต่างพร้อมกันกระโจนเข้าหาเพื่อขย้ำเหยื่อ แต่ยังช้าไปกว่า
ร่างสูงใหญ่ที่ปราดเข้ามาขวาง และ ด้วยความแข็งแรงผิดมนุษย์ธรรมดา
ความว่องไวเกินกล่าว นรสิงห์จับร่างของพวกมันเหวี่ยงไปคนละทิศคนละทางอย่างง่ายดาย
.
ก็เมื่อเจ้าป่าคือสิงโตที่ไฮยีน่าแพ้ทางมาถึงแล้วจะอยู่ให้โง่ทำไม นางจ่าฝูงจึงร้องเอ๋งเผ่นหนีก่อนเพื่อน ปล่อยให้เด็กๆหาทางเอาตัวรอดเอง
.
ทว่าบัดนี้นรสิงห์คือจอมยุทธที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มันเรื่องอะไรที่จะลดตัวไปสู้กับหมาเล่า เขาจึงเพียงส่งเสียงคำรามขู่จนดังกึกก้องราวฟ้าถล่ม
เท่านั้นก็เพียงพอที่จะทำให้พวกสมุนไฮยีน่าที่เหลือร้องกันระงมด้วยความหวาดกลัววิงหนีหางจุกตูดตามหลังจ่าฝูงของมันไป โดยทิ้งซากฝูงของมัน4-5ตัวให้นอนตายจมกองเลือด
.
ราชาดิษยมานพดึงมือของภานิชาให้ลุกขึ้นยืน เธอหันไปไหว้ขอบคุณนรสิงห์ที่ไม่
แม้แต่มองภานิชาด้วยซ้ำ เขาพึมพัมให้เข้าหูว่า "เกลียดไอ้พวกไม่ชาย-ไม่หญิง"
.
ราชาดิษยมานพจึงยิ้มอย่างปลอบใจ แล้วจึงหันไปเห็นศาสตราจารย์พาราด็อกซ์ถูกคุมขังอยู่ในวงแหวนพลัง3วง
ภานิชาจึงบอกถึงคุณสมบัติของวงแหวนและขอปืนบลาสเตอร์จากผู้กองเพื่อทำลายวงแหวน
.
ราชาดิษยมานพส่งปืนให้แล้วถาม "คุณจะยิงมุมไหน เพราะหากพลาดอาจเป็นอันตรายต่อศาสตราจารย์ที่อยู่ภายในของวงแหวนได้"
.
"ผู้กองเคยเป็นตำรวจมาก่อน ช่วยแนะนำด้วยค่ะ"
.
ด้วยการบอกวิธีของราชาดิษยมานพ ภานิชาจึงถือปืนแล้วนอนหงายปลายเท้าทั้ง2แยกจากกันพอประมาณพยายามให้ใกล้รัศมีของพลังมากที่สุด
.
นรสิงห์มองดูภานิชาที่ยกไหล่เล็กน้อยแล้วเล็งปืนเป็นมุมเฉียงขึ้นไปที่วงที่3 จุดที่วนผ่ากลาง2วงแรกที่ซ้อนกันเป็นรูปตัวX
ด้วยความสนเท่ห์ใจนรสิงห์จึงถามราชา "เจ้าคนนี้เป็นชายหรือหญิงกันแน่"
.
ราชา "นางเป็นสตรีแต่ถูกชายที่อยู่ในวงแหวนพลังและเพื่อนอีกคนดัดแปลงเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งหุ่นยนต์ ครับ"
.
นรสิงห์ "ถ้าเช่นนั้นคงมีฝีมือพอตัว เสียดายข้าไม่ต่อสู้กับสตรีให้เสียศักดิ์ศรี"
.
ราชา "เหตุผล???"
.
นรสิงห์ "ต่อให้ข้าชนะก็ไม่มีใครสรรเสริญ มีแต่คนก่นด่าว่าหนัาไม่อายรังแกผู้หญิง แพ้ก็โดนเยาะเย้ยถากถางว่าแพ้แม้แต่ผู้หญิง ไปนุ่งผ้าซิ่น ไป๊"
.
ราชาดิษยมานพอมยิ้มด้วยความขำขันในใจ นรสิงห์ที่น่าเกรงขาม โหดร้าย นักฆ่า ฆ่าคู่ต่อสู้โดยไม่กระพริบตา ห้ามต่อรองหรือแม้แต่ขอร้อง ใจจืดใจดำ ไม่เคยหลั่งน้ำตา กลับมีอารมณ์ขันอย่างไม่น่าเชื่อ
.
จบตอน 27 ภาพปกจากกูเกิ้ล ไฮยีน่าลายจุดกำลังแยกเขี้ยว
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย