Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ณัฐมาคุย
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
22 มี.ค. เวลา 16:09 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ซื้อหนี้ไม่ง่าย
วันนี้มาเล่ารายละเอียดให้เพิ่มเติม หลายๆ คนอยากรู้ว่าการซื้อหนี้ทำกันอย่างไร
ก่อนอื่น หนี้สามารถโอนกันได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 303 ที่ระบุไว้ว่า สิทธิเรียกร้องนั้นท่านว่าจะพึงโอนกันได้ เว้นไว้แต่สภาพแห่งสิทธินั้นเองจะไม่เปิดช่องให้โอนกันได้
แต่การโอนหนี้ให้สมบูรณ์นั้น ลูกหนี้ต้องรับรู้หรือยินยอม โดยการแจ้งเป็นหนังสือตามมาตรา 306
ส่วนบริษัทที่ซื้อหนี้ก็ต้องตีมูลค่าของหนี้ว่าอยากจะซื้อในราคาเท่าไร ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นตามยอดหนี้แต่อย่างไร เพราะมันมีรายละเอียดเกี่ยวข้องจำนวนมาก เช่น อัตราดอกเบี้ย การค้างหนี้ หลักประกัน การค้ำประกัน เครดิตลูกหนี้ เป็นต้น ซึ่งก็ต้องมาคำนวณกันว่า ซื้อที่ราคาเท่าไรถึงจะคุ้ม
แต่ผู้ขายก็ไม่ได้จำเป็นต้องขายในราคานั้น เขาก็ต้องดูว่าขายแล้วจะคุ้มไหม โดยดูจากโอกาสในการติดตามหนี้ ค่าใช้จ่ายในการติดตามหนี้ การบันทึกหนี้เป็น NPL และปัจจัยอื่นๆ
โดยปกติแล้ว การซื้อขายจะเกิดขึ้น มันมักจะมี asymmetry อะไรบางอย่างที่ทำให้คนซื้อกับคนขายมีความเห็นไม่ตรงกัน เลยตีค่าไม่เหมือนกัน เช่น
💡Information asymmetry คนขายรู้อะไรที่คนซื้อไม่รู้ และอาจจะหลอกขายให้กับคนซื้อ ที่เรียกว่า lemon problem
💡Cost/Efficiency asymmetry ผู้ซื้ออาจจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่า เช่น ต้นทุนทางการเงิน หรือมีความสามารถในการติดตามเงินคืนที่สูงกว่า
💡Regulatory asymmetry เช่น สถาบันการเงินมักต้องมีการตัดหนี้สูญ และดำรงเงินกองทุนสำรอง ถ้าหนี้เสียแย่ๆ อาจจะต้องแทงสูญทั้งก้อน ระหว่างรอเก็บหนี้ การขายจึงอาจจะช่วยทำให้ได้เงินกองทุนคืนมา และลดสินทรัพย์เสี่ยงไปด้วย ส่วนผู้ซื้ออาจจะไม่ต้องทำอะไร
แต่ปัญหาหลักคือเรื่องของ information asymmetry ที่ผู้ซื้อก็ตระหนักถึงเรื่องพวกนี้อยู่แล้ง จึงต้องเผื่อกำไรให้มากๆ ซื้อในราคาที่ต่ำ เอาไว้ก่อน จึงทำให้ดีลมักไม่เกิด ยิ่งไม่มีข้อมูลเครดิต และประวัติลูกหนี้ ยิ่งจะขอซื้อในราคาที่ต่ำลงไปอีก
อีกต้นทุนที่คนมองข้าม คือต้นทุนในการประเมินราคานี่แหล่ะ หนี้ที่ซื้อขายกันถึงเป็นหนี้ก้อนใหญ่ๆ หนี้พาณิชย์ เพราะมันประเมินง่าย ทำทีเดียวได้หนี้มหาศาล แต่พอเป็นหนี้รายย่อย กว่าจะประเมินได้แต่ละราย ใช้เอกสาร และข้อมูลมากมาย ไม่ค่อยคุ้ม
ส่วนคนซื้อซื้อไป ไม่มีใครเขาซื้อไปทำบุญ ลดต้นลดดอกให้กับลูกหนี้หรอก ซื้อไป เขาต้องพยายามตามเก็บเงินให้ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นได้ ส่งคนตามจิก เว้นแต่เป็นหนี้ที่ต้องมีการปรับโครงสร้าง ถึงจะมีการตกลงกันบ้าง
1
ส่วนการโอนหนี้ ถ้าตกลงราคากันได้ ผู้ซื้อก็จะจ่ายเงินให้กับผู้ขาย เหมือนการซื้อสินค้าทั่วไปเลย ส่วนผู้ขายก็จะส่งมอบเอกสารทั้งหลายให้กับผู้ซื้อ และดำเนินการส่งเอกสารแจ้งลูกหนี้ หรือให้ลูกหนี้ให้ความยินยอม
หลังจากได้รับโอนหนี้ไป เจ้าหนี้ใหม่ก็ต้องไปติดตามทวงถามหนี้เอากับลูกหนี้เอง ถ้าได้เงินคืนมากกว่าต้นทุนที่ลงไป ก็กำไรนั่นเอง ดังนั้นอย่าแปลกใจที่มีคนบ่นว่า ไม่อยากให้ธนาคารขายหนี้เลย เพราะเจ้าหนี้ใหม่จิก และทวงหนักมาก
สรุปสั้นๆ คือ การซื้อหนี้ไม่ง่าย ถ้าบอกว่าไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายที่รัฐต้องแบก ทำได้เลย สบายมาก ตอบได้คำเดียวว่า โกหกแน่ๆ ถ้ามันเวิร์ค มันเวิร์คเองไปแล้ว เอกชนเค้าทำเองกันได้
2
บางคนบอกว่า ในปี 40 ก็เห็นทำกันได้นี่ ทำไมทำอีกไม่ได้ นั่นก็ต้องบอกว่า ในวันนั้น สถาบันการเงินจำนวนมากโดนสั่งปิด หนี้กลายเป็นของรัฐหมด รัฐขายแบบเผือกร้อน มีการตั้ง ปรส. มาขายหนี้แบบเลหลัง มีการประมูล และขายในราคาแบบ distressed ทำให้ผู้ซื้อได้กำไรมหาศาล ส่วนผลขาดทุนก็ถูกแบกรับมาเป็นกองทุนฟื้นฟูนั่นเอง ที่เรายังต้องชดเชยหนี้ผ่านการเก็บเงินส่วนหนึ่งของดอกเบี้ยมาจนถึงในทุกวันนี้
1
ถ้าถามผมว่า แล้วทำไงถึงจะแก้ปัญหานี้ได้ โดยพึ่งพารัฐให้น้อยที่สุด ก็ต้องบอกว่า
1. เราต้องลด information asymmetry ผู้ซื้อต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง และละเอียดพอ
2. การโอนหนี้ต้องทำได้ง่าย และต้นทุนต่ำ
3. ข้อมูลเครดิตต้องดี และแม่นยำมากขึ้น (ขัดกับความเชื่อนักการเมืองว่า ควรต้องลบข้อมูลเครดิต)
4. กระบวนการทางกฎหมายที่ช่วยในการติดตามหนี้ บังคับหลักประกันต้องง่าย และรวดเร็ว
1
ป.ล. ลืมเล่าไป คนเราไม่ได้มีหนี้ก้อนเดียว คนที่มีปัญหาภาระหนี้สิน มักมีหนี้รุงรังไปหมด ดูเคสดิวก็ได้ พอมีแบบนั้น การทำ restructuring หนี้ยิ่งเกิดยาก เจ้าหนี้ 10 คน ลูกหนี้คนเดียว เหมือนลูกวัวพยายามแย่งกันดูดนมจากแม่ให้ได้มากที่สุด ถ้าเราไม่ดูด คนอื่นก็ดูดอยู่ดี ยิ่งไม่สร้าง incentive ให้เกิดการลดหนี้ ลดดอก ยืดหนี้เลย เว้นแต่เจ้าหนี้คนอื่นๆ จะเอาด้วย
2 บันทึก
9
2
1
2
9
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย