28 มี.ค. เวลา 03:00 • สุขภาพ

'โซทาทิฟิน' พิฆาตเซลล์มะเร็ง ความหวังใหม่ในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งเต้านม

โซทาทิฟิน (Zotatifin) ยาตัวนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยาใหม่ธรรมดา แต่เป็นเหมือน "ซูเปอร์ฮีโร่" ที่อาจเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการที่เราต่อสู้กับโรคมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งเต้านม
ยาตัวนี้มีกลไกการทำงานที่น่าสนใจและแตกต่างจากยาเคมีบำบัดที่เราคุ้นเคยกันครับ ในบทความนี้ ผมจะพาคุณผู้อ่านไปเจาะลึกถึงเรื่องราวของยาโซทาทิฟิน ตั้งแต่ต้นกำเนิด แนวคิดเบื้องหลังการพัฒนา ไปจนถึงผลการวิจัยที่น่าตื่นเต้นที่อาจนำไปสู่ความหวังใหม่สำหรับผู้ป่วยมะเร็งครับ
ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับยาโซทาทิฟิน เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับโรคมะเร็งกันก่อนสักนิดนะครับ ในร่างกายของเรา เซลล์ทุกเซลล์มีหน้าที่ในการสร้างโปรตีน ซึ่งโปรตีนเหล่านี้เปรียบเสมือน "คนงาน" ที่คอยทำงานต่างๆ ภายในเซลล์ ไม่ว่าจะเป็นการเจริญเติบโต การแบ่งตัว หรือการทำงานเฉพาะอย่างของเซลล์นั้นๆ
แต่ในเซลล์มะเร็ง กลไกการสร้างโปรตีนกลับทำงานผิดปกติครับ เหมือนโรงงานที่ผลิตโปรตีนมากเกินความจำเป็น ทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตและแบ่งตัวอย่างไม่หยุดยั้ง โปรตีนที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างล้นเกินนี้เองที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งและทำให้มะเร็งลุกลามไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย
นักวิทยาศาสตร์พบว่าในเซลล์มะเร็ง มีเอนไซม์ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า "อีไอเอฟ4เอ" (eIF4A) ทำงานหนักเป็นพิเศษ เอนไซม์ตัวนี้มีหน้าที่เหมือน "เครื่องเปิดซิบ" ที่คอยเปิด "ซิบ" ของสารพันธุกรรมชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "เอ็มอาร์เอ็นเอ" (mRNA) ซึ่ง mRNA นี้เองที่เป็นเหมือน "พิมพ์เขียว" สำหรับการสร้างโปรตีน เมื่อ eIF4A เปิดซิบ mRNA มากเกินไป ก็จะทำให้เซลล์มะเร็งสร้างโปรตีนออกมามากเกินความจำเป็น ส่งผลให้มะเร็งเติบโตอย่างรวดเร็ว
1
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก (UCSF) พบว่าในมะเร็งต่อมลูกหมาก เอนไซม์ eIF4A นี้มีปริมาณสูงขึ้นเมื่อมะเร็งมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า eIF4A มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตของมะเร็งต่อมลูกหมาก
ทีมนักวิจัยจาก UCSF นำโดยศาสตราจารย์ดาวิเด รุกเกโร และศาสตราจารย์เคแวน โชแคท ได้พัฒนายา "โซทาทิฟิน" (Zotatifin) ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายที่จะเข้าไปจัดการกับเอนไซม์ eIF4A ตัวร้ายนี้ครับ
สิ่งที่น่าทึ่งเกี่ยวกับยาโซทาทิฟินก็คือ กลไกการทำงานของมันไม่เหมือนใครครับ แทนที่จะไป "ฆ่า" หรือ "ทำลาย" เอนไซม์ eIF4A โดยตรง ยาโซทาทิฟินกลับเข้าไป "เปลี่ยนบทบาท" ของ eIF4A ครับ จากเดิมที่ eIF4A ทำหน้าที่เป็น "เครื่องเปิดซิบ" mRNA เพื่อให้เซลล์สร้างโปรตีนได้ ยาโซทาทิฟินจะเข้าไปจับกับ eIF4A และเปลี่ยนให้มันกลายเป็นเหมือน "เบรกโมเลกุล" ที่คอย "ล็อก" mRNA ไม่ให้ถูกนำไปสร้างเป็นโปรตีนได้
1
ลองจินตนาการภาพตามนะครับ เหมือนเรามีเครื่องจักรผลิตโปรตีนที่ทำงานเร็วเกินไป ยาโซทาทิฟินไม่ได้เข้าไปพังเครื่องจักร แต่เข้าไป "ติดเบรก" ให้เครื่องจักรทำงานช้าลง หรือหยุดทำงานไปเลย ทำให้เซลล์มะเร็งไม่สามารถสร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อการเติบโตได้อีกต่อไป
เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของยาโซทาทิฟิน นักวิจัยได้ทำการทดลองในหนูทดลองที่ถูกปลูกถ่ายเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากจากผู้ป่วย (patient-derived xenograft) ซึ่งเป็นการทดลองที่ถือว่าเป็นมาตรฐานสูงในการประเมินศักยภาพของยาในการรักษามะเร็งในห้องปฏิบัติการ
ผลการทดลองที่ออกมาน่าประทับใจมากครับ พบว่ายาโซทาทิฟินไม่เพียงแต่หยุดการเติบโตของเนื้องอกมะเร็งต่อมลูกหมากในหนู แต่ยังทำให้เนื้องอกมีขนาดเล็กลงอีกด้วย
นอกจากนี้ นักวิจัยยังได้ศึกษาผลของยาโซทาทิฟินต่อโปรตีนต่างๆ ในเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก พบว่ายาโซทาทิฟินสามารถ ลดปริมาณโปรตีนสำคัญที่ขับเคลื่อนมะเร็งได้หลายชนิด หนึ่งในนั้นคือ "แอนโดรเจน รีเซพเตอร์" (androgen receptor) ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของยาฮอร์โมนบำบัดที่ใช้ในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก
1
สิ่งที่น่าสนใจคือ ยาโซทาทิฟินไม่ได้เข้าไป "บล็อก" แอนโดรเจน รีเซพเตอร์ เหมือนยาฮอร์โมนบำบัดทั่วไป แต่กลับ ป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งสร้างแอนโดรเจน รีเซพเตอร์ ขึ้นมาตั้งแต่แรกเลยครับ ซึ่งเป็นกลไกที่แตกต่างและอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าในการจัดการกับมะเร็งต่อมลูกหมากที่ดื้อต่อยาฮอร์โมนบำบัด
นอกจากแอนโดรเจน รีเซพเตอร์แล้ว ยาโซทาทิฟินยังลดปริมาณโปรตีน "เอชไอเอฟ1เอ" (HIF1A) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้มะเร็งต่อมลูกหมากเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่มีออกซิเจนต่ำ ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่พบได้บ่อยในเนื้องอกมะเร็ง
จากผลการวิจัยที่กล่าวมา ยาโซทาทิฟินแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นยา "ทรานสลาโทม เทอราปี" (translatome therapy) ซึ่งเป็นแนวทางการรักษามะเร็งแบบใหม่ที่มุ่งเป้าไปที่การควบคุมการสร้างโปรตีนในเซลล์มะเร็งโดยเฉพาะ
ปัจจุบัน ยาโซทาทิฟินกำลังอยู่ในระหว่างการทดลองทางคลินิกในฐานะยาสำหรับรักษามะเร็งเต้านม และจากผลการวิจัยล่าสุดนี้ ทำให้นักวิจัยมีความหวังว่ายาโซทาทิฟินอาจเป็น "เกมเชนเจอร์" ในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากที่กลับมาเป็นซ้ำหลังจากการรักษาด้วยยาฮอร์โมนบำบัดหรือรังสีรักษา
ยาโซทาทิฟินเป็นยาที่มีกลไกการทำงานที่น่าสนใจและแตกต่างจากยาเคมีบำบัดทั่วไป โดยมุ่งเป้าไปที่การควบคุมการสร้างโปรตีนในเซลล์มะเร็ง ซึ่งอาจนำไปสู่แนวทางการรักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพและมีความจำเพาะเจาะจงมากขึ้น
ผลการวิจัยในห้องปฏิบัติการและในหนูทดลองแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของยาโซทาทิฟินในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในมนุษย์เพื่อยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยา ก่อนที่จะนำมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยจริง
ในฐานะเภสัชกร ผมมองว่ายาโซทาทิฟินเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในวงการยา และเป็นความหวังใหม่สำหรับผู้ป่วยมะเร็งครับ การพัฒนายาที่มีกลไกการทำงานที่จำเพาะเจาะจงมากขึ้น จะช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษา และเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้ในอนาคต
**แหล่งอ้างอิง**
1. Gadye, L. (2025, March 21). Researchers learn how a drug called zotatifin kills cancer cells. Medical Xpress. Retrieved from [https://medicalxpress.com/news/2025-03-drug-zotatifin-cancer-cells.html]
2. Kuzuoglu-Ozturk, D. et al. (2025). Small-molecule RNA therapeutics to target prostate cancer. Cancer Cell. DOI: 10.1016/j.ccell.2025.02.027
โฆษณา