เรื่องเล่าถึงประเทศนี้ในอีกร้อยปีข้างหน้า ภาค ๕.
หลังจากที่ยื้อกันอยู่พักใหญ่ ระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน ก็สรุปลงตัวเป็นที่แน่นอนแล้วว่าในวันที่ 24-25 มีนาคม 2568 สภาจะเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี เป็นที่เรียบร้อย
แต่พอเข้าไปดูในรายละเอียดของกรอบเวลาที่จะใช้อภิปรายกัน 2 วัน มันมีลูกเล่นที่แสดงออกถึงความเจ้าเล่ห์ของรัฐบาล ที่กำหนดให้การอภิปรายรอบแรก จากแปดโมงเช้า ลากยาวไปถึงตีห้าครึ่งของวันถัดไป และเริ่มรอบที่ 2 เวลาแปดโมงเช้าของวันที่ 2 ไปจนครบกำหนดเวลา 28 ชั่วโมง ที่ฝ่ายค้านมีสิทธิใช้ซักฟอกนายก
พฤติกรรมดังกล่าวบ่งบอกถึงอะไร ถ้าไม่ใช่กลัวว่าประชาชนจะรู้ความจริงบางอย่างที่ฝ่ายค้านจะแฉให้ประชาชนได้รับทราบ จึงพยายามดึงเวลาออกไปจนดึกดื่นเลยเที่ยงคืน จนเกือบสว่าง
ไหนจะตั้งองครักษ์พิทักข้อกำหนด คัดสรรประเภทเก๋าเกมเกือบ 2 โหล แต่ฟังชื่อแล้วก็พอจะเดาออกว่า คงเขินที่จะใช้คำว่าองครักษ์พิทักษ์นายก จึงเลี่ยงไปใช้คำว่าพิทักษ์ข้อกำหนดแทน
ข้อกำหนดเป็นหน้าที่ของประธานสภา ที่มีอำนาจชี้ขาดเต็มที่ ไม่ต้องไปพิทักษ์ท่านหรอก ใครขืนเกเรไม่ฟังประธาน จะถูกหิ้วออกไปสงบสติอารมณ์นอกห้องประชุม เห็นกันอยู่บ่อยๆ
ก่อนถึงเวลาสุกดิบ ในเช้าวันที่ 24 มีนาคม 2568 นี้ ทั้งสองฝ่ายต่างก็โปรโมทผ่านรายการต่างๆ รวมทั้งสื่อออนไลน์ทุกช่องทางอย่างเต็มที่
บลัฟกับไปบลัฟกันมา จนน้ำลายแตกฟอง
ฝ่ายรัฐบาลก็มั่นใจว่านายกเก่ง ตอบข้อกล่าวหาได้ทุกเรื่อง ส่วนฝ่ายค้านก็ยืนยันว่าข้อมูลที่อุบเอาไว้ จะน็อคนายกสลบคาสภาได้
แต่เรื่องเวลาที่ฝ่ายรัฐบาลกลัวนักกลัวหนา ว่าฝ่ายค้านขอมากเกินไป จาก 5 วัน ต่อรองเหลือวันเดียว ยื้อกันไปยื้อกันมาที่ 30 ชั่วโมง และสุดท้ายจบกันที่ 28 ชั่วโมง ที่ฝ่ายค้านมีสิทธิใช้อภิปราย
แถมรวมช่วงเวลานกฮูก ห้าชั่วโมงครึ่ง ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันที่ 24 มีนาคม ไปถึง ตีห้าครึ่งของวันที่ 25 มีนาคม 2568 ช่วงเวลาที่มนุษย์เขานอนหลับพักผ่อน
คงคิดจะหลบหูหลบตาประชาชน ไม่ต้องมารับรู้ว่ามีการกล่าวหานายกอย่างไร และนายกจะตอบว่าอย่างไร
ถ้ากุนซือรัฐบาลคิดอย่างนั้นถือว่าผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เพราะไม่เข้าเรื่องจิตวิทยา
ไม่รู้เลยหรือว่า เรื่องอะไรที่คนปกปิด ความอยากรู้อยากเห็นจะมากกว่าเดิมเป็นสิบเท่า วิสัยโดยธรรมชาติของมนุษย์ เป็นอย่างนั้น
ยิ่งส่อออกไปในทางพยายามปิดบัง คนจะยิ่งอยากรู้
ยุคนี้หากเป็นคนเจน Y จริง ต้องรู้ว่า ทุกคำพูดจะถูกบันทึกและล่องลอยอยู่ในอากาศ ทุกคนสามารถกดหน้าจอดูผ่าน u-tube fb และอีกหลายแพลตฟอร์ม ได้ตลอดเวลา
แล้วยิ่งรอบนี้เป็นการอภิปรายเฉพาะนายกคนเดียวด้วยแล้ว หลังเที่ยงคืนหากเจ้าภาพ ซึ่งหมายถึงนายกไม่อยู่ฟัง แอบหลบไปนอน ปล่อยให้ฝ่ายค้านคุยกับเก้าอี้นายก ประชาชนจะยิ่งมองว่าเรื่องลากเวลาออกไปนั้น รัฐบาลเป็นศรีธนญชัย ทำการเมืองล้าหลัง ยิ่งสร้างความเบื่อหน่ายให้กับกองเชียร์ตัวเอง
จะเป็นผลเสียต่อรัฐบาล ที่จะเสียความน่าเชื่อถือไป เลือกตั้งครั้งหน้าใครเขาจะเลือก
สมัยนี้เป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร ใครคิดจะใช้ลูกเล่น ลูกเก๋าลายครามแบบเก่าๆ เล่นสำนวนโวหารแบบน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง เบี่ยงเบนความจริง เพื่อปกปิดข้อมูล ซุกขยะไว้ใต้พรมเหมือนยุคก่อนๆ จะทำไม่ได้อีกต่อไป
จึงขอให้นักการเมืองมืออาชีพทั้งหลายได้ตระหนัก ถึงความเป็นจริงในเรื่องนี้ให้มาก หากไม่อยากตกขบวนรถไฟ ที่ไม่ใช่รถไฟเครื่องจักรไอน้ำ แต่เป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่จะตีตั๋ว ลงสมัครรอบหน้าในอีกไม่ช้านี้
เมื่อโลกเปิดกว้าง ทุกคนต้องเปิดโลกทัศน์ของตัวเองให้กว้างตาม ไม่เช่นนั้นก็ไม่ต่างจากของเก่าที่จะต้องถูกนำกลับไปเป็นวัสดุรีไซเคิล กลายเป็นของใช้มือสอง มือสาม จนหมดคุณค่าไปในที่สุด
แม้ว่าผลโหวตหลังอภิปรายจบ ส่วนใหญ่มักจะได้รับความไว้วางใจอย่างท่วมท้นแทบทุกครั้งก็ตาม ซึ่งตามปกติเสียงสนับสนุนรัฐบาลก็มีมากกว่าฝ่ายค้านอยู่แล้ว ยกเว้นว่าฝ่ายค้านจะมีหลักฐานสำคัญที่ยืนยันถึงความทุจริต หรือการบริหารที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง อาจจะถูกพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองยกมือสวน ไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะเป็นผลให้รัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งไปทันที
จึงเป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่บรรดาองครักษ์พิทักษ์นายก ต่างก็แสดงกึ๋น หวังว่าจะช่วยลดน้ำหนักหมัดของฝ่ายค้านลงได้บ้าง จะได้ไม่ถูกชกจนกองลงกับพื้นเวที
แต่ก็ต้องให้เกียรติ เกรงใจประชาชนที่เขาคอยติดตามอยู่ทางบ้านด้วย บอกแล้วว่ายุคสมัยเปลี่ยนไป หากนักการเมืองยังไม่พัฒนา ยังเล่นการเมืองน่าเบื่อเหมือนเดิม รับรองได้ สมัยหน้าจบเห่
ความซื่อสัตย์ จริงใจ ทำงานการเมืองแบบมืออาชีพเท่านั้น ที่ประเทศชาติและประชาชนต้องการ
หวังว่าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ จะเป็นการเริ่มต้นการเมืองใหม่ที่ใครๆอยากเห็น และต้องการ
โดย.. พี่ชื่อวิช
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
