24 มี.ค. เวลา 00:56 • ธุรกิจ

ลีกาชิง: จากเด็กโรงงานพลาสติกเล็ก ๆ สู่เจ้าสัวท่าเรือเขย่าเวทีโลก | นำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า

ไม่บ่อยนักที่คน ๆ หนึ่งจะเริ่มจากศูนย์
ไม่ใช่แค่ไม่มีเงินทุน แต่ไม่มีแม้แต่ประเทศให้กลับ
ลีกาชิง (Li Ka-shing) คือหนึ่งในคนเหล่านั้น
ชายผู้ลี้ภัยจากแผ่นดินใหญ่ที่กลายเป็นเจ้าของท่าเรือกว่าครึ่งโลก
และในวันที่เขาวางมือจากธุรกิจ… เขาก็ทำมันอย่างสง่างาม
=========================
นำเข้าความรู้ ส่งออกความคิด
ติดตามเพจ นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า
=========================
เริ่มต้นจาก “ไม่มีอะไรเลย”
ลีกาชิงเกิดในจีนปี 1928 ครอบครัวลี้ภัยมายังฮ่องกงในช่วงสงคราม
เมื่ออายุเพียง 15 ปี พ่อเสียชีวิต เขาต้องลาออกจากโรงเรียน
เริ่มทำงานในโรงงานพลาสติก
วันละ 16 ชั่วโมง เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
เขาทำมากกว่าที่ถูกสั่ง เรียนรู้การผลิต การขาย และการบริหาร
และเมื่ออายุ 22 ปี — เขาตัดสินใจเปิดโรงงานของตัวเอง
Cheung Kong: จากดอกไม้พลาสติก สู่หลักการชีวิต
เขาตั้งชื่อโรงงานว่า Cheung Kong Industries
คำว่า Cheung Kong (长江) ในภาษาจีนกลาง ก็คือ ชื่อเรียก แม่น้ำแยงซีเกียง — แม่น้ำที่ยาวที่สุดในจีน
เป็นชื่อที่สะท้อนหลักคิดของเขา
ธุรกิจต้องมั่นคง ไหลต่อเนื่อง และไม่มีวันหยุด
เขาทุ่มแรงทำให้โรงงานโตเร็ว
แต่กลับใช้เวลาในโรงงานเพียง 20-30%
ที่เหลือ? เขาออกไปหาตลาดใหม่ เรียนรู้แนวโน้มใหม่ ๆ
เพราะเขาเชื่อว่า…
“ธุรกิจใหม่ต้องเริ่มมองหาตั้งแต่ตอนที่ธุรกิจเดิมยังไปได้ดี”
พลิกเกมด้วยกระแสเงินสด
ลีกาชิงไม่เพียงขยัน แต่ยังวินัยสูงในการจัดการการเงิน
เขาเก็บเงินสดไว้ในมือเสมอ เพื่อพร้อมลงทุนทันทีเมื่อโอกาสมาถึง
ช่วงวิกฤตฮ่องกงปี 1967 ที่ดินราคาตก คนพากันเทขาย
แต่เขากลับเดินเข้าไปซื้อด้วยเงินสดในมือ
และกลายเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์สำคัญในราคาถูกที่สุดในประวัติศาสตร์
“โอกาสมีค่าน้อยมาก ถ้าคุณไม่มีเงินสดพอจะคว้ามันไว้”
ปี 1979: ดีลที่ทำให้โลกหันมามอง
ปีนั้นลีกาชิงสร้างปรากฏการณ์
เขาเข้าซื้อกิจการ Hutchison Whampoa จากบริษัทอังกฤษ
กลายเป็นชาวจีนคนแรกที่ซื้อกิจการระดับเจ้าอาณานิคมได้สำเร็จ
มันไม่ใช่แค่ดีลธุรกิจ
แต่มันคือ “สัญลักษณ์” ของการลุกขึ้นของทุนจีน
โลกเริ่มจับตา… ว่าชายคนนี้คือใคร
ขยายสู่โลก: อาณาจักรที่ไม่มีพรมแดน
หลังจากดีลใหญ่ ลีกาชิงไม่หยุด
เขาขยายธุรกิจอย่างเงียบ ๆ แต่มั่นคง
• ท่าเรือ: มากกว่า 50 แห่ง ใน 26 ประเทศ
• โทรคมนาคม: แบรนด์ “Three” ในยุโรป
• ค้าปลีก: Superdrug, Watsons
• พลังงาน: น้ำมัน, ก๊าซ, พลังงานสะอาด
• อสังหาริมทรัพย์: ทั้งที่อยู่อาศัยและโครงสร้างพื้นฐาน
ทุกอย่างถูกรวมไว้ภายใต้กลุ่ม CK Hutchison และ Cheung Kong Holdings
เขากลายเป็น “เจ้าสัวระดับโลก” โดยไม่ต้องย้ายออกจากฮ่องกงแม้แต่ก้าวเดียว
จากเศรษฐกิจ… สู่การเมือง
ในวันที่โลกแบ่งขั้ว
จีนกับสหรัฐฯ แข่งขันทุกสนาม
ท่าเรือของลีกาชิงกลายเป็นหมากตัวสำคัญในเกมระดับรัฐ
• เชื่อมจีนกับโลก: ท่าเรือที่เขาถืออยู่ในปานามา เม็กซิโก อียิปต์ อังกฤษ ล้วนตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์
• มีสายสัมพันธ์กับจีน: เขาเคยเป็นตัวกลางในช่วงส่งมอบฮ่องกงกลับสู่จีน
• ถูกสหรัฐฯ จับตา: บางประเทศเริ่มตั้งคำถามว่า อาณาจักรของเขาอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางภูมิรัฐศาสตร์
แม้เขาจะวางตัวเป็นกลาง
แต่ชื่อของลีกาชิง ก็อยู่ในรายงานความมั่นคงของหลายประเทศ
วางมืออย่างมีชั้นเชิง
ปี 2018 ลีกาชิงประกาศวางมือในวัย 90 ปี
ส่งต่อธุรกิจให้ลูกชาย “วิคเตอร์ ลี” บริหารต่อ
แต่เขาไม่ได้หายไป
ยังคงเป็นที่ปรึกษา
และ “ผู้เฝ้าดูเกม” อยู่เบื้องหลัง
ไม่เพียงวางมือ เขายังวางแผน ขายกิจการบางส่วน อย่างรอบคอบ
โดยเฉพาะ กิจการท่าเรือในบางประเทศ ที่อ่อนไหวต่อแรงเสียดทานทางภูมิรัฐศาสตร์
บางคนอาจมองว่าเขาถอย
แต่หากดูจากประวัติที่ผ่านมา…
นี่คือ การถอยเพื่อวางหมากใหม่ ไม่ใช่การหลบ
เจ้าสัวที่ไม่ได้เดินเร็วกว่าใคร — แต่มองไกลกว่าใคร
ลีกาชิงไม่เคยเร่งรีบ
เขาแค่เดินด้วยจังหวะของตัวเอง
แต่มองไกลกว่าคนอื่นเสมอ
เขาไม่หวือหวา แต่มั่นคง
ไม่พูดมาก แต่ทุกการกระทำคือคำตอบ
จากเด็กโรงงานที่เคยต้องนอนข้างเครื่องจักร
วันนี้เขาคือหนึ่งในไม่กี่คนที่โลกเศรษฐกิจต้องฟัง
และแม้จะก้าวลงจากตำแหน่ง
แต่เส้นทางที่เขาทิ้งไว้
ยังเป็น “แผนที่” ที่นักธุรกิจทั่วโลกใช้เดินตาม
ถ้าคุณมีธุรกิจที่มั่นคงแล้ว คำถามที่ควรถามตัวเองวันนี้อาจไม่ใช่แค่
“จะโตอย่างไร”
แต่คือ…
“จะวางหมากก้าวต่อไปอย่างไรให้ไกลกว่าเดิม”
ลีกาชิงมีคำตอบนั้น… ตั้งแต่เมื่อห้าสิบปีก่อนแล้ว
สรุปบทเรียนธุรกิจจากลีกาชิง
1. เริ่มจากสิ่งที่มี อย่ารอให้พร้อม
ลีกาชิงไม่มีเงิน ไม่มีวุฒิ ไม่มีเส้นสาย แต่เขาเริ่มจากแรงกายและความรู้หน้างาน
เพราะโลกไม่เคยรอให้ใครพร้อมเต็มร้อย
2. ใช้เวลาในธุรกิจปัจจุบัน สร้างธุรกิจในอนาคต
ตอนที่ทำโรงงานพลาสติก ลีกาชิงบอกว่า ธุรกิจเติบโตดีมาก จนผลิตสินค้าขายไม่ทัน แต่เขาใช้เวลา 20-30% กับธุรกิจที่ทำอยู่
แต่ใช้ 70-80% ไปกับการมองหา “โอกาสถัดไป”
ความมั่นคงที่แท้จริงคือการไม่ยึดติดกับสิ่งที่เราคิดว่า “มั่นคง”
3. เงินสด คืออาวุธเงียบของนักธุรกิจ
โอกาสไม่ขาดแคลน แต่คนที่ “พร้อมคว้า” มีไม่มาก
การบริหารกระแสเงินสดอย่างมีวินัย คือเหตุผลที่เขาซื้อที่ดินในวันที่ทุกคนกลัว
4. ลงทุนด้วยสติ ไม่ใช่ความหวัง
เขาสอนลูกชายว่า อย่าให้การลงทุนกลายเป็นการพนัน
ทุกการขยายธุรกิจต้องมีแผน มีความเข้าใจ ไม่ใช่แค่หวังว่ามันจะเวิร์ก
5. รู้ว่าเมื่อไรควรเดิน และเมื่อไรควรถอย
ลีกาชิงไม่ยึดติดแม้กับอาณาจักรที่ตัวเองสร้าง
การวางมืออย่างมีชั้นเชิง และการขายกิจการบางส่วน
คือบทเรียนเรื่อง “จังหวะ” ที่ผู้บริหารยุคใหม่ควรเรียนรู้
สุดท้าย… ความยิ่งใหญ่ของลีกาชิง ไม่ได้อยู่ที่เขาทำธุรกิจอะไร แต่อยู่ที่เขาคิดอย่างไรกับธุรกิจ
และนั่นคือเหตุผลที่เขายังถูกพูดถึง แม้ในวันที่ไม่ได้อยู่หน้าเวที…
=========================
นำเข้าความรู้ ส่งออกความคิด
ติดตามเพจ นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า
=========================
ผู้นำเข้าส่งออก เช็คราคาขนส่งระหว่างประเทศ
ครอบคลุม 60 ท่าเรือหลักทั่วโลก
แถมเช็คราคา Cross-trade ประเทศที่ไม่ใช่ไทยได้ด้วย
สนใจลงทะเบียน https://bit.ly/3B5yRY8
โฆษณา