24 มี.ค. เวลา 03:04 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ส่อง Q1/68 หุ้นกลุ่มโรงแรม ไฮซีซั่นหนุนผลงานโตเด่น

หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวโดยเฉพาะโรงแรมยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในไตรมาส 1/68 เป็นช่วงไฮซีซั่นทั้งในประเทศไทยและมัลดีฟส์ ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำไรในไตรมาสนี้ยังเติบโตดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า
โดยบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดผลประกอบการของหุ้นกลุ่มโรงแรมในไตรมาส 1/68 จะเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า จากการเข้าสู่ช่วง high season ของไทยและมัลดีฟส์ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นพอร์ตโรงแรมหลักของโรงแรมภายใต้การวิคราะห์ของบล.กรุงศรี
ทั้งนี้ คาดผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมในช่วงไตรมาส 1/68 จะเติบโตจากไตรมาส 1/67 และ 4/67 ซึ่งเป็นผลจากแนวโน้มรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) ที่ยังเป็นบวก เช่น โรงแรมในยุโรปของ MINT RevPar mid-single digit, ส่วนโรงแรมในไทย RevPar high-Double digit จากดีมานด์การท่องเที่ยวที่ยังแข็งแกร่ง และการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลให้มีการปรับขึ้นราคาห้องพัก
ส่วนภาพรวมปี 2568 ฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรปกติจะเติบโต 15% จากปีก่อน มาที่ 1.4 หมื่นล้านบาท โดยคาดการเติบโตของค่าห้องพักจะเข้าสู่ระดับปกติที่ 3-5% จากฐานที่สูงในก่อนหน้านี้ ในขณะที่แต่ละบริษัทจะมีปัจจัยเฉพาะตัวในการผลักดันการเติบโต โดยฝ่ายวิเคราะห์คาด SHR จะเติบโตเด่นสุด จากการฟื้นตัวหลังจากสิ้นสุดการปรับปรุงโรงแรมในไทย, Fiji และ Mauritius
รองลงมาได้แก่ AWC จากแผนการขยายโรงแรม 3 โรงแรมในปีนี้ และ CENTEL จากคาดผลการเปิดโรงแรมในมัลดีฟส์ พัทยา และภูเก็ตที่ปิดปรับปรุงจะเปิดให้บริการเต็มปีในปี 2568 รวมทั้งเก็บเกี่ยวส่วนแบ่งจากการลงทุนในธุรกิจอาหารในก่อนหน้านี้มากยิ่งขึ้น
ขณะที่ MINT คาดเติบโต 10% จากปี 2567 จากการปรับขึ้นค่าห้องพักและผลจากการจ่ายคืนหนี้ต่อเนื่อง และ ERW คาดเติบโตน้อยสุด เนื่องจากคาดปรับขึ้นค่าห้องพักได้เพียงเล็กน้อย และมีผลจากการปิดปรับปรุงโรงแรม Grand Hyatt Erawan และ The Naka
ปัจจุบันหุ้นกลุ่มโรงแรมซื้อขายด้วย EV/EBITDA และ PBV ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ฝ่ายวิเคราะห์เชื่อว่าการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นสะท้อนมุมมองตลาดที่กังวลต่อการเติบโตของกลุ่มโรงแรมและเห็นว่าธุรกิจโรงแรมกำลังเข้าสู่ช่วงการเติบโตแบบปกติจากช่วงฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับหุ้นแนะนำของฝ่ายวิเคราะห์ยังคงเป็น MINT จากโรงแรมที่ครอบคลุมในหลายภูมิภาค ช่วยกระจายความเสี่ยง รวมทั้งคาดผลประกอบการเติบโตระดับมั่นคง และ SHR คาดเป็นจะเติบโตเด่นสุดในกลุ่ม ผลจากการรับรู้รายได้โรงแรมที่ปิดปรับปรุงก่อนหน้านี้ การจ่ายคืนหนี้ นอกจากนี้ทั้ง MINT และ SHR ซื้อขายด้วย EV/EBITDA ในระดับต่ำกว่ากลุ่มที่ 6-7 เท่า (กลุ่มอยู่ที่ 12 เท่า) เท่านั้น
โฆษณา