24 มี.ค. เวลา 08:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ

MOSHI เปิดเกมรุกปี 68! ทุ่ม 280 ลบ. ขยาย 40 สาขา

แตกไลน์สินค้า-คอลแลปส์แบรนด์ดัง ดันรายได้โต 15-20% ทุบสถิติใหม่
MOSHI ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2568 โต 15-20% ทำนิวไฮ พร้อมทุ่มงบลงทุน 280 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ 40 สาขา-ขยายคลังสินค้า-ปรับปรุงซอฟต์แวร์ ลุยออกสินค้าใหม่และจับมือแบรนด์ดังต่อเนื่อง
นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ MOSHI เปิดเผยว่า นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ MOSHI เปิดเผยว่า
ในปี 2568 บริษัทยังเดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน โดยวางเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,127.91 ล้านบาท ซึ่งรายได้รวมที่เติบโตขึ้นในปีนี้จะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) จากปีก่อน
โดยอัตราการเติบโตของรายได้มาจากการเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่ รวมถึงอัตราการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ซึ่งในปีนี้จะรักษาให้เท่ากับปี 2567 ที่ 3-5%
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนขยายช่องทางจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีก 40 สาขา โดยเน้นการขยายสาขาในรูปแบบที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ และ Hyper Market รวมถึงสาขา Standalone 2 รูปแบบ คือ สาขาใกล้มหาวิทยาลัย เพื่อเข้าถึงกลุ่มนักศึกษาและชุมชนโดยรอบ
นอกจากนี้ ยังมี Pilot Project สาขาขนาดใหญ่พื้นที่ 300 ตารางเมตรขึ้นไปในเขตชุมชน เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายและสร้างศูนย์กลางการจับจ่ายในพื้นที่พร้อมมุ่งเน้นการขยายสาขาในพื้นที่ที่มีศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายฐานลูกค้าอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ภายในสิ้นปีนี้บริษัทจะมีสาขาครบทั้งสิ้น 200 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ ล่าสุดในไตรมาส 1/68 บริษัมเปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 5 สาขา ส่งให้ปัจจุบันมีจำนวนสาขาอยู่ที่ 169 สาขา
ขณะเดียวกันบริษัทจะสร้างความได้เปรียบด้วยสินค้าใหม่ทั้งแบบมีลิขสิทธิ์และสินค้าทั่วไป โดยจะเพิ่มความหลากหลายของสินค้าโดยการขยายพอร์ตสินค้าเข้าสู่หมวดหมู่ใหม่ๆ พร้อมเปิดตัวคอลเลกชันพิเศษที่ร่วมมือกับลิขสิทธิ์ชั้นนำอย่างต่อเนื่อง และสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ด้วยฐานสมาชิกปัจจุบันกว่า 600,000 ราย จะเดินหน้าสร้างความผูกพันผ่านสิทธิประโยชน์และโปรโมชันที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม และพร้อมดึงดูดลูกค้าใหม่จากทำเลใหม่ๆ ที่เปิดตัว เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้ง
รวมถึงการจับโอกาสในตลาดกลุ่มสินค้าที่กำลังเติบโต โดยเน้นกลุ่ม Home Furnishing และ Fashion ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการพัฒนาสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพและมุ่งเพิ่มคุณค่าผ่านการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมรักษาระดับราคาที่เหมาะสมและสามารถแข่งขันได้ อีกทั้งบริษัทจะผลักดันยอดขายในช่องทางออนไลน์ผ่านการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและจัดโปรโมชันที่ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น
นางสาวบุณยวีร์ บุญสงเคราะห์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์ธุรกิจและการปฏิบัติการ MOSHI กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทได้มีการดำเนินงานผ่านกลยุทธ์สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีศักยภาพ การพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออนไลน์ (Online) รวมถึงมีการออกสินค้าใหม่ต่อเนื่องจนปัจจุบันบริษัทมีจำนวนสินค้ารวมแล้วมากกว่า 20,000 รายการ โดยผลักดันทั้งกลุ่มสินค้า License และสินค้าทั่วไป
และยังได้ดำเนินกลยุทธ์ Collaboration จับมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ เช่น เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์แบรนด์ดัง และการคอลแลปส์กับศิลปินที่เป็นที่นิยมชื่นชอบ ในการพัฒนาและออกสินค้าร่วมกัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและดีไซน์ ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับตัวสินค้า
อีกทั้งยังได้เริ่มจัดทำระบบสมาชิก (Member) ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 6 แสนยูสเซอร์ นับเป็นข้อมูลสำคัญที่ทำให้รับรู้ความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้นตลอดจนการสร้าง Branding “Moshi Moshi” ให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นและยอมรับในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ภายใต้เป้าหมายสูงสุดของ MOSHI คือ การเป็น Shopping Destination ที่ลูกค้าต้องแวะมาเยี่ยมชมและเลือกซื้อ ขณะเดียวกัน พร้อมก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ที่สามารถครองใจของผู้บริโภค (Top of Mind) ได้
สำหรับงบลงทุนในปี 2568 บริษัทวางไว้ประมาณ 280 ล้านบาท แบ่งเป็น ขยายสาขาใหม่ 40 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิม ซึ่งบริษัทมีแผนปรับปรุงสาขาเดิมมากกว่า 50 สาขา รวม 140-150 ล้านบาท ทั้งนี้ สาขาใหม่ของบริษัทจะใช้ระยะเวลาคืนทุนราว 4-5 เดือน, ใช้ขยายพื้นที่ในคลังสินค้าเพิ่ม 3,000 ตารางเมตร ส่งผลให้บริษัทมีพื้นที่เพิ่มเป็น 26,000 ตารางเมตร และระบบระบบดับเพลิง รวม 45 ล้านบาท ส่วนอีกเหลืออีกราว 85 ล้านบาท จะใช้สำหรับปรับปรุงระบบซอฟต์แวร์ ระบบ IT และอื่นๆ
ส่วนความคืบหน้าการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยจะเป็นลักษณะของการเข้าไปร่วมทุนกับพาร์เนอร์ในประเทศนั้นๆ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพาร์เนอร์ในกลุ่มประเทศอาเซียนจำนวน 2 ราย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายใน 3-5 ปีข้างหน้า
โฆษณา