28 มี.ค. เวลา 15:53 • การศึกษา

ในเมื่อหิวแสงกลัวอะไรกับการถูกแดดเผา

คนเราสมัยนี้อยากมีตัวมีตน อยากเป็นคนสำคัญมีคนให้ความสนใจ ยิ่งในปัจจุบันมีสื่อโซเชียลด้วยแล้ว ยิ่งทำให้การมีตัวตนนั้นง่ายขึ้น บางคนทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ในความสนใจเกาะกระแสโซเชียล จนคนให้ฉายาว่า “พวกหิวแสง” เพราะไม่ว่าอะไรโด่งดังเป็นข่าว ก็จะกระโดดเข้าหา แสดงความคิดเห็นทันที อยากเกาะกระแสเผื่อจะดังด้วยบ้าง ไม่ว่าคนจะมองในทางลบยังไงก็ยอม
อีกอย่างหนึ่งที่ชอบทำกันก็คือ พวกชอบเปิดเผยเนื้อหนัง แข่งกันสลัดผ้าผ่อน เอาตัวเองออกมาขาย เพียงเพื่ออยากเป็นจุดสนใจเสริมอัตตาตนเอง พอถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ ก็โกรธและต่อว่าคนที่มาวิจารณ์ว่าคิดอะไรต่ำๆ ไม่มีใครเขาคิดสกปรกอย่างพวกคุณ
ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าจะลองคิดดูดีๆถึงธรรมชาติของมนุษย์ เราทุกคนมีเรื่องลามกอยู่ในหัวทั้งนั้น เพียงแต่ว่าจะแสดงออกหรือไม่ แล้วที่ปล่อยให้ออกมามีมากหรือน้อยเท่านั้นเอง มันต้องดูกาลเทศะและศีลธรรมของคนๆนั้นด้วย อนึ่งการที่คุณโพสต์ภาพทางโซเชียลนั้น ต้องเข้าใจว่าเราไม่อาจไปบังคับความคิด คำพูด การกระทำของคนอื่นได้ ร้อยพ่อพันแม่ คนที่คิดแต่ไม่พูดไม่พิมพ์ก็มี คนที่คิดแล้วพูดแล้วพิมพ์อย่างสะใจก็มี
แม้แต่คนที่โพสต์เองลึกๆในใจ ก็ต้องรู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะไปกระตุ้นกิเลสของมนุษย์แค่ไหน แต่คุณก็ยังทำกันแล้วโลกสวย บอกตัวเองว่าที่ฉันทำมันเป็นงานศิลปะนะ ไม่ใช่รูปโป๊ ต่อให้ใช่จริงนะ แต่จะมีสักกี่คนที่ดูแล้วเป็นศิลปะ ไม่มีอารมณ์ทางเพศ เห็นแต่ความสวยงาม ถ้ายังเป็นมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง มีหรือว่าดูรูปเหล่านี้แล้วไม่รู้สึกอะไรเลย มันเป็นไปไม่ได้หรอก เพียงแต่มันจะเป็นไปทางไหนเท่านั้นเอง
ถ้าไม่อยากโดนคำวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ อยากจะได้แต่คำชื่นชมความสวยงามของตัวเองจริงๆ ทำไมไม่โพสต์แล้วตั้งให้อยู่ในกลุ่มคนที่เป็นเพื่อนสนิทเท่านั้นล่ะ ทำไมต้องเอามาโพสต์แล้วตั้งเป็นสาธารณะ เพราะอย่างน้อยคนวงในของคุณต่อให้คิด ก็ไม่มีใครกล้าพูดออกมาในแง่ลบแน่นอน ยังไว้หน้าไว้ตากันอยู่ ด้วยความสนิทนั่นแหละ แต่ลึกๆไม่มีใครรู้ว่าใครคิดอะไรอย่างแท้จริงนอกจากเจ้าตัว เพื่อนรักอาจจะหักเหลี่ยมโหดก็ได้
ถ้าคุณเลิกเมากลิ่นลาเวนเดอร์แล้ว smell the truth บ้าง ว่าโลกแห่งความเป็นจริงเขาเป็นอย่างไร จะเข้าใจไม่วีนเหวี่ยงคนที่มาแสดงความคิดเห็นในแง่ลบกับคุณเลย เพราะทุกคนมีอิสระที่จะคิด และแสดงออกยังไงก็ได้โดยเฉพาะในโซเชียล มันจำกัดเพียงแค่ไม่ทำผิดกฎหมายเท่านั้นเอง ถ้ายังอยู่ในกรอบนั้น ก็เอาผิดอะไรใครไม่ได้ ถ้าล่วงละเมิดก็ฟ้องกันไป ไม่งั้นคุณจะไปตามหัวเสียกับทุกๆความคิดเห็นในแง่ลบ แล้วเครียดไปเพื่ออะไร? ถ้าหิวแสงจะกลัวทำไมกับการถูกแดดเผา มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่สุด
เคยอาบแดดหรือไม่ก็ไปเชียร์กีฬาสีไหม? ขนาดทากันแดดลงไปแค่ไหน แต่ถ้าแดดมันแรงและต้องตากแดดนานเกินไปยังไงก็ไหม้ เกรียมแดดเหม็นไหม้กันได้ทุกคนนั่นแหละ จะมีใครไม่โดนแดดเผาบ้างในชีวิตนี้ ต่อให้ไม่ได้อยากเป็นจุดเด่นเลยก็ตามที ในโลกธรรม 8 พระพุทธเจ้าท่านก็ตรัสสอนไว้แล้วว่า สรรเสริญ-นินทา เป็นของคู่กัน
แม้คุณจะทำดีแค่ไหนก็ต้องเจอคำวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ โดนนินทาว่าร้ายในเรื่องที่มันไม่เป็นความจริง เป็นของที่อยู่คู่กับโลกมาโดยตลอด แม้แต่พระพุทธองค์เองก็ไม่เว้นที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ด่าทอ แม้ไม่ได้ทำผิดเลย เหมือนกวีนิพนธ์ที่ว่า “อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน ถึงองค์พระปฏิมายังราคิน มนุษย์เดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา” มันก็อยู่ที่ว่าคุณจะได้คำสรรเสริญหรือคำนินทา ไม่เกี่ยวกับว่าที่คุณทำมันดีหรือไม่ดี
ขนาดทำดียังโดนนินทา ทำชั่วยังโดนสรรเสริญได้เลย มนุษย์ก็เป็นแบบนี้ มีปากเขาก็พูดกันไปตามแต่จะชอบใจ ไม่ได้กำหนดดีชั่วอย่างแท้จริง คนจะดีงามหรือเลวทรามไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำเยินยอหรือด่าทอของคนอื่น แต่ขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวคุณเอง แล้วคุณล่ะเคยคิดถึงแรงจูงใจของคุณบ้างไหมว่า ทำไมต้องโพสต์ภาพเหล่านั้นลงโซเชียล แล้วตั้งเป็นสาธารณะ?
ในใจมีความ insecure บางอย่างหรือเปล่า? ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นด้านรูปร่างหน้าตา อย่างน้อยที่สุดเราก็วิเคราะห์ได้ว่า คุณต้องการได้รับการยอมรับไม่ว่าความ “ไม่มั่น” ของคุณจะเป็นอะไรก็ตาม เลยแสดงออกด้วยการทำบางอย่าง ที่คุณค่อนข้างมั่นใจ แล้วต้องหาคนมาช่วยคอนเฟิร์ม คิดไปเองว่าจะต้องได้ผลทางบวกแน่นอน พอไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง มีคำวิจารณ์ในทางลบมากกว่าที่คิด ก็เลยตอบโต้กลับในทางลบเช่นกัน
ถ้าคุณเข้าใจตัวเองว่ามีปม คุณจะไม่ทำอย่างที่คุณทำ ไม่หาเรื่องที่ทำให้ตัวเองทุกข์มาใส่ตัว และถ้าคุณเข้าใจได้ว่าโลกมันก็เป็นแบบนี้ เป็นเรื่องธรรมชาติธรรมดา เมื่อมี action ก็มี reaction และเรากำหนดไม่ได้เลยว่ามันจะกลับมาเป็นบวกหรือลบ ในเมื่อมันอยู่ในมือของคนอื่นแล้ว ถ้าวางใจถูกก็จะไม่ทุกข์ ถ้าคุณคิดว่าการกระทำนั้นเหมาะสมดีงาม ก็ทำไปเถอะแต่ถ้ามันไม่ใช่ก็ควรจะเปลี่ยน
ถ้าจะให้ดีก็วัดกันด้วยศีลด้วยธรรม นั่นเป็นตัววัดที่ดีที่สุด เป็นมาตรฐานที่ดียิ่งกว่ากฎหมาย เราบังคับคนอื่นไม่ได้ แต่กำหนดความคิด คำพูดและการกระทำของตัวเองได้ ทำดีเถอะ ผลมันจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ แต่ให้เชื่อว่ากฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ ทำดีต้องได้ดี และไม่ว่าคุณจะทำดีหรือไม่ดีท้ายสุดกรรมจะเป็นผู้ตัดสินเอง
ขอบคุณภาพจาก
#หิวแสง #โลกธรรม 8 #สรรเสริญ #นินทา #ธรรมคู่ #กรรมกำหนด
โฆษณา