ภูมิแพ้จมูก (Allergic Rhinitis): รักษานานแค่ไหนถึงจะหาย?

จาม คัด คันจมูก น้ำมูกไหล...วนลูปไม่รู้จบ
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่จามทุกเช้า คัดจมูกแทบทั้งวัน และใช้ทิชชู่เปลืองพอๆยาสระผม
คุณอาจเข้าสู่โลกของ "ภูมิแพ้จมูก" หรือ Allergic Rhinitis โรคที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยต้องทุกข์ทรมานแบบเงียบ ๆ และมีคำถามยอดฮิตว่า “จะต้องรักษานานแค่ไหนถึงจะหาย?”
คำตอบไม่ง่าย...แต่มีวิทยาศาสตร์รองรับตามแนวทางระดับสากลจาก ARIA Guideline เพื่ออธิบายแบบให้เข้าใจง่ายในสไตล์สนุก ๆ ที่คุณอ่านแล้วจะร้องอ๋อ!
ทำความรู้จักภูมิแพ้จมูก: ไม่ใช่แค่หวัดธรรมดา
โรคภูมิแพ้จมูก (Allergic Rhinitis) เป็นภาวะที่เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูก ซึ่งเกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อสารก่อภูมิแพ้แบบไวเกิน โดยมีพื้นฐานเป็นการทำงานของแอนติบอดีชนิด IgE ที่กระตุ้นให้เซลล์ภูมิคุ้มกันหลั่งสารเคมี เช่น histamine, leukotrienes และ prostaglandins
กลไกการเกิดโรค
1. Sensitization phase: ร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้ (เช่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้) ครั้งแรก ระบบภูมิคุ้มกันของคนที่มีแนวโน้มแพ้จะสร้าง IgE ขึ้นมาจับกับ mast cells ที่อยู่ในเยื่อบุจมูก
2. Early-phase reaction: เมื่อสัมผัสสารเดิมอีกครั้ง IgE จะจับสารก่อภูมิแพ้แล้วกระตุ้น mast cells ให้หลั่ง histamine และสารอื่นออกมา ทำให้เกิดอาการจาม คันจมูก น้ำมูกไหล และคัดจมูกทันที
3. Late-phase reaction: เกิดหลังจาก 4–8 ชั่วโมง โดยมีการชักนำของเซลล์อักเสบอื่น ๆ เช่น eosinophils เข้ามาที่เยื่อบุโพรงจมูก ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง เยื่อบุหนา คัดจมูกเรื้อรัง และอาจลามไปกระทบถึงไซนัสหรือระบบทางเดินหายใจล่าง เช่น หอบหืด
กระบวนการทั้งหมดนี้ ทำให้ภูมิแพ้จมูกไม่ใช่แค่เรื่อง "จามนิด น้ำมูกหน่อย" แต่เป็นภาวะอักเสบที่ซับซ้อนและต้องได้รับการจัดการอย่างจริงจัง
ภูมิแพ้จมูกเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันที่ไวเกินเหตุ ต่อสารที่คนทั่วไปไม่เป็นอะไร เช่น ไรฝุ่น เกสร ขนสัตว์ หรือเชื้อรา ทำให้เกิดอาการเรื้อรัง เช่น:
- จามเป็นชุดแบบ non-stop
- น้ำมูกใสไหลตลอดวัน
- คัดจมูกจนพูดเสียงอู้อี้
- คันตา คันจมูก นอนไม่หลับ
ฟังดูเหมือนเรื่องเล็ก ๆ แต่ถ้าปล่อยไว้จะกระทบทั้งการนอน อารมณ์ สมาธิ และคุณภาพชีวิตแบบไม่รู้ตัว
รักษายังไงให้ได้ผล? แนวทางจาก ARIA Guideline
ตามแนวทางของ ARIA (Allergic Rhinitis and its Impact on Asthma) การรักษาภูมิแพ้จมูกควรใช้วิธีผสมผสาน 3 อย่าง:
1. หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ (ถ้าเลี่ยงได้)
2. ใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ เช่น ยาพ่นจมูกและยาแก้แพ้
3. รักษาภูมิแพ้จากต้นเหตุด้วย Allergen Immunotherapy สำหรับคนที่อยากควบคุมระยะยาว
แล้วต้องรักษานานแค่ไหน?
คำตอบขึ้นอยู่กับว่าเลือกแนวทางไหน และอาการของคุณเป็นระดับไหน:
ยาพ่นและยากิน:
- อาการจะดีขึ้นใน 1–2 สัปดาห์ ถ้าใช้สม่ำเสมอ
- แต่ถ้าอยากควบคุมการอักเสบให้ดีจริง ควรรักษาต่อเนื่องอย่างน้อย 2–3 เดือน
รักษาต้นเหตุด้วย Allergen Immunotherapy:
มี 2 รูปแบบที่ได้รับการยอมรับ:
- SCIT (ฉีดใต้ผิวหนัง)
- SLIT (อมใต้ลิ้น)
ทั้งสองแบบต้องทำต่อเนื่อง 3–5 ปี เพื่อให้ภูมิคุ้มกันปรับตัว ไม่ตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้แบบเดิมอีก ผลลัพธ์ที่ดีคือ:
- อาการดีขึ้นมาก ลดการใช้ยา
- หลังหยุดการรักษา สามารถอยู่ได้ 5–10 ปี โดยไม่มีอาการรุนแรงกลับมา
งานวิจัยจาก Journal of allergy and clinical immunology รายงานว่าอัตราคงผลหลังหยุดการรักษา คนที่รักษาครบ 3 ปี มีอัตราการควบคุมอาการดีต่อเนื่องที่ 60–80% เลยทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของสารก่อภูมิแพ้และการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคลด้วยครับ
สรุป: อยากหาย ต้องให้เวลากับการรักษา
ภูมิแพ้จมูกเป็นโรคเรื้อรังที่ควบคุมได้ ถ้าคุณมีวินัยและเข้าใจวิธีการรักษาอย่างถูกต้อง เพราะการ “ดูแลจากต้นเหตุ” คือคำตอบระยะยาว
ถ้าคุณเบื่อกับการจามแบบวนลูป ลองปรึกษาแพทย์เฉพาะทางภูมิแพ้หรือหูคอจมูก เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะกับคุณ แล้วให้เวลากับร่างกายในการ “รีเซ็ตภูมิคุ้มกัน” ใหม่อีกครั้ง
#ภูมิแพ้ #คลินิกแมนดาวิน #คลินิกหูคอจมูกนายแพทย์วีระชัย
ติดตามสาระดีๆ เรื่องสุขภาพหู คอ จมูก และความงาม ได้ที่นี่ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณและคนที่คุณรัก
แมนดาวินคลินิก Be The Best Of You เป็นคุณในแบบที่ดีขึ้น
📅 คลินิกเปิดให้บริการทุกวัน
วัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 16.30-20.00 น.
วัน เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด 13.00-20.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่...
📞 โทร 098-6955888
📱 Add LINE : https://lin.ee/Qa35Bpt
หรือ mandarwinclinic
📱 Messenger fb: Mandarwin Clinic
📍 คลินิกตั้งอยู่เยื้องกับรร.ยุวพัฒน์ YES เส้น NSC
บทความน่ารู้หูคอจมูก : https://www.blockdit.com/pages/67c522d564043ade0cae7d3a
โฆษณา