Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เอ็กซ์ตร้า นายอรรณพ ศิริศรี
•
ติดตาม
25 มี.ค. เวลา 10:14 • การศึกษา
ทำไม ? ชีวิตคู่ล้มเหลวไม่เป็นท่า ความรักที่แท้จริงต้องเป็นอย่างไร ? ตามแนวทางพุทธศาสนา
.
ก่อนจะไปฟังเรื่อง "ความรัก" ตามแนวทาง "พุทธศาสนา"
.
เรามาทำความเข้าใจเรื่อง "ความรัก" ทางโลก กันก่อนนะครับ
.
ความรัก คือ ความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ซับซ้อน มักเกี่ยวข้องกับความผูกพัน
.
ห่วงใย ปรารถนาดีต่อบุคคล สิ่งใด สิ่งหนึ่ง อย่างไม่มีเงื่อนไข
.
อาจแสดงออกผ่านการให้ความสำคัญ การเสียสละ การกระทำที่เต็มไปด้วยความเมตตา
ความรัก อาจคือ ประสบการณ์ส่วนตัว ที่แต่ละคนจะรับรู้ แสดงออกต่างกัน
.
บางคนพบความรัก ในความเงียบสงบ บางคนพบความรัก ในความวุ่นวาย
.
แต่หัวใจสำคัญของความรัก ก็คือ "การให้คุณค่า" และ "การเติบโตไปด้วยกัน" ครับ
.
ซึ่งจริง ๆ แล้ว "ความรัก" มีหลากหลายเหตุผล หลากทฤษฎีมากครับ
.
กระผมคงไม่สามารถอธิบายได้
.
แต่ที่แน่ ๆ ทุกท่านคิดว่า หากโลกของเรานี้ ไม่มี "ความรัก"
.
คุณคิดว่า เผ่าพันธุ์มนุษย์จะคงยังดำรงอยู่หรือไม่ ? ครับ
ที่นี่มาดูเรื่อง ทำไม ? ชีวิตคู่ของใครหลาย ๆ คน ถึงล้มเหลวไม่เป็นท่า
.
ด้วยความเคารพนะครับ แม้แต่ตัวกระผมเองก็ยังไปไม่รอด ครับ
.
ยังแอบนั่งยิ้มแห้ง ๆ ในระหว่างเขียนบทความคลิปนี้ เช่นเดียวกันครับ
"ความล้มเหลว" ของความสัมพันธ์ใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นชีวิตคู่ชีวิต ครอบครัว มิตรภาพ เพื่อนสนิท
.
มักมีรากเหง้ามาจาก "ความขัดแย้งระหว่าง
.
ความคาดหวังของมนุษย์ กับความเป็นจริงที่ซับซ้อนของชีวิต
.
แต่ที่กระผมสังเกตดู คนรอบตัวกระผม รวมถึงตัวกระผมเอง นะครับ
ถ้าจะสรุปสั้น ๆ ว่า ทำไม ? ชีวิตคู่ที่ผ่านมาของกระผม
.
และ จากที่กระผมสังเกตคนรอบข้างกระผม
.
ถึงล้มเหลวไม่เป็นท่า กับความรัก ชีวิตครอบครัว
.
กระผมอาจจะสรุปสั้น ๆ เป็นคำเดียวง่าย ๆ ว่า
.
อาจเป็นเพราะ กระผม และ คนรอบข้างของกระผม ทำผิด "ศีล 5" ครับ
.
ทุกท่านคิดว่าอย่างไร ? ครับ
หากเป็น "ความรักนิรันดร์" รักแท้ก็จะบอกว่า ความรักต้องชนะทุกสิ่ง
.
แต่ในความเป็นจริง "ความรัก" ต้องการ การบำรุงรักษาเหมือนสวนดอกไม้
.
ที่ต้องรดน้ํา พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ทุกวัน ครับ
.
คู่รักที่เชื่อว่า "ถ้ารักกันจริงต้องไม่ต้องพยายาม" จึงมักละเลยการสื่อสาร จนความรัก แห้งเหี่ยวเฉาตาย
.
การใช้คำพูดทำร้ายกันด้วยอารมณ์
.
ความทุกข์ กับ ความทุกข์ มาเจอกัน จึงกลายเป็นความบาดหมาง
การเปรียบเทียบชีวิตครอบครัวตนเอง กับครอบครัวชีวิต "ดารา" ที่โพสต์แต่ช่วงเวลาที่สวยงาม
.
ความเชื่อที่ว่า "สามีต้องเป็นผู้นำ ส่วนภรรยาต้องดูแลบ้าน"
.
โดยไม่ถาม "คู่รัก" ว่าต้องการแบบนั้นจริง ๆ หรือไม่
.
การยอมทำทุกอย่างเพื่อ "ครอบครัว" จนลืมว่า "ตัวเองคือใคร" จนนำไปสู่ความรู้สึกอัดอัดตันใจ
.
เช่น คุณแม่ที่ทุ่มเทให้ลูก จนไม่มีเวลาเติมเต็มให้ตัวเอง
.
จนอาจรู้สึกว่าชีวิตว่างเปล่า เมื่อลูกโตขึ้น และ ไม่สนใจคุณแม่
อีก 1 ปัญญาสำคัญ ที่เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของครอบครัว ครับ
.
คือเรื่อง "การเงิน" ความเหลื่อมล้ำในการทำงานหาเงิน หนี้สิน ความคิดวิตกกังวล ความเครียด
.
การนอกใจ คำพูดรุนแรง การทรยศเล็กน้อย ที่ไม่เคยได้รับการพูดคุย แก้ไข
.
ความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวไม่ใช่ "ความผิด" ของใครคนใดคนหนึ่ง นะครับ
.
แต่เป็น กระจกสะท้อนว่า "มนุษย์" เรานั้น ยังต้องเรียนรู้
.
ที่จะอยู่ร่วมกันอย่าง "เปราะบาง" ได้
และนั่นก็โอเคครับ เพราะ "ความรัก" ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
.
อาจคือ "ความรัก" ที่เต็มไปด้วยรอยร้าว แต่ยังเลือกเดินต่อด้วยกัน ด้วยความเข้าใจ ครับ
.
ที่นี่มาดู มุมมอง "ความรัก" ตามแนวทาง "พุทธศาสนา" กันบ้างครับ
.
ในมุมมองของพุทธศาสนา "ความรักที่แท้จริง" และ "ครอบครัวที่แท้จริง"
.
ไม่ได้ถูกนิยามด้วยสายเลือด ความสัมพันธ์ทางโลก นะครับ
.
แต่ถูกขับเคลื่อนด้วย "ธรรมะ" ที่เป็นรากฐานของการอยู่ร่วมกัน อย่างรู้เท่าทัน เปี่ยมไปด้วยปัญญา
หากเป็น "ความรัก" ทางโลก หลายคนคงคิดว่า คือการได้ครอบครอง
.
แต่สำหรับ "พุทธศาสนา" ความรักที่แท้จรืง คือ "การปล่อยวาง" ครับ
.
"พุทธศาสนา" สอนว่า รักแท้ต้องมี 4 ฐานราก จาก พรหมวิหารธรรม 4 ครับ
1. เมตตา - รักอย่างแม่น้ำที่ให้ความชุ่มฉ่ำโดยไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง
.
2. กรุณา - รักด้วยหัวใจที่พร้อมแบ่งเบาความทุกข์ ของคนที่เรารัก ผู้อื่น
.
3. มุทิตา - รู้จักยินดีในความสุขของคนที่เรารัก ผู้อื่น แม้ไม่ใช่ความสุขของเรา
.
4. อุเบกขา - วางใจเป็นกลาง เปรียบเหมือนดวงจันทร์ที่ส่องแสงเท่าเดิม ไม่ว่าคนรักของเรา จะชม หรือ ตำหนิ
พ่อแม่ลูก : ไม่ใช่แค่ผู้ให้กำเนิด แต่เป็น "ปุพพเทวดา" (เทวดาผู้คุ้มครอง)
.
ที่มีหน้าที่ ทำตนให้เป็นแบบอย่าง หล่อหลอมจิตใจของลูกด้วย "ศีลธรรม"
.
สามีภรรยา : คือ "ธรรมมิกสหาย" (เพื่อนร่วมทางธรรม) ที่ช่วยกันขัดเกลากิเลส การรักษาศีลร่วมกัน
.
ลูก : คือ "ทายาททางธรรม" ไม่ใช่ทายาททรัพย์สมบัติ ต้องสืบทอดเจตนารมณ์ในการทำความดี
ครอบครัวใน "พุทธศาสนา" ไม่จำกัดแค่คนร่วมสายเลือด นะครับ
.
แต่หมายถึง บุคคลที่ช่วยกันสร้างบุญ บำเพ็ญธรรม นำพาซึ่งกันและกัน เพื่อก้าวไปสู่ความหลุดพ้น
.
ความขัดแย้งระหว่างพ่อแม่ลูก สามีภรรยา เพื่อนสนิท
.
การสูญเสีย ความผิดหวัง ล้วนสอนให้เห็นถึง "ไตรลักษณ์" ครับ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
1. อนิจจัง คือ ไม่ยอมรับว่าความรักต้องเปลี่ยนแปลง
เช่น คิดว่า "วันแรกที่พบกัน คือวันที่มีความสุขที่สุด"
.
2. ทุกขัง คือ พยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง แทนที่จะมองว่าเป็น "ครู" ที่เอาไว้สอนใจ
.
3. อนัตตา คือ คิดว่า "เราควบคุมอีกฝ่ายได้" ทั้งที่แท้จริงแล้ว ไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร ครับ
ครอบครัวที่แท้จริงจะ "ไม่อ้างอดีตกรรม" มาทำร้ายกัน
.
แต่ใช้ "ปัจจุบันธรรม" ร่วมสร้างกรรมดีร่วมกัน ครับ
.
"พุทธศาสนา" สอนหลัก สังคหวัตถุ 4 ประการ
เพื่อให้ครอบครัวอยู่ร่วมกันอย่างมั่นคง มีความสุขสงบ
1. ทาน : การให้ด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่ใช่แค่สิ่งของ แต่รวมถึงการให้เวลา ให้ความเข้าใจ
.
2. ปิยวาจา : พูดจาไพเราะ มีสติ ไม่ใช้คำหยาบคายแม้ในยามโกรธ
.
3. อัตถจริยา : ประพฤติตนเป็นประโยชน์ต่อกันและกัน เช่น ลูกช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน สามีช่วยภรรยาดูแลลูก
.
4. สมานัตตตา : ไม่ถือตัว แม้เป็นพ่อแม่ ก็ยอมรับความผิดได้
รักด้วย "สัมมาทิฐิ" รู้ว่าครอบครัว คือ "สมมติ" ที่ต้องดูแลด้วยธรรม ไม่ใช่ด้วยอารมณ์
.
"ครอบครัว" ที่แท้จริงตามแนวทางพุทธ คือครอบครัวที่ "ร่วมกันสร้างบุญบารมี" เพื่อมุ่งสู่ความเป็นอริยบุคคล ครับ
.
พ่อแม่ ไม่บังคับลูกให้เป็นไปตามความคาดหวัง แต่สอนให้ลูกเห็นทางพ้นทุกข์
.
สามีภรรยา ไม่ใช่แค่คู่ชีวิต แต่เป็น "เพื่อนฝึกภาวนา" ช่วยกันเจริญสติ
.
"การจากลา" คือ บททดสอบสูงสุด เมื่อสมาชิกในครอบครัวล่วงลับ
.
ต้องใช้ธรรมะรับมือ ไม่จมอยู่กับความโศกเศร้ายาวนาน
"ครอบครัว" ที่แท้จริงใน "พุทธศาสนา" เปรียบเสมือน "วัดเล็ก ๆ" ครับ
.
ที่แต่ละคนเป็นทั้งพระสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา ช่วยกันสร้าง "ศีล สมาธิ ปัญญา"
.
แม้จะมีวันแตกสลายตาม "กฎอนิจจัง" แต่ทุกขณะที่อยู่ร่วมกัน คือโอกาสทองในการสะสมบุญกุศล
.
"ความรัก" ครอบครัวที่แท้จริง จึงมิใช่การครองรักกันจนวันตาย ครับ
.
แต่คือการ ร่วมเดินทางข้ามภพข้ามชาติ เพื่อหลุดพ้นจากความทุกข์ โดยพร้อมหน้าพร้อมตา
- รักลูกมาก แต่เขากลับทำตัวไม่ดี
- รักคู่ชีวิตมาก แต่รู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป
- หรือแม้แต่ รักตัวเอง ก็ยังไม่เป็นดังหวัง
.
นั่นเป็นเพราะเรายังติดอยู่ใน "ความรักแบบตัณหา" ครับ
.
ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ความรัก คือ ความทุกข์" เมื่อตั้งมั่นอยู่บนความยึดมั่นถือมั่น
.
เปรียบเหมือน คุณยายท่านหนึ่งบอกกับกระผมว่า "คุณยายรักหลานสุดหัวใจ"
.
แต่วันที่หลานไม่มาหา ก็เป็นทุกข์เหมือนถูกมีดบาด นั่นคือ ผลแห่งการรักแบบยึดติด ครับ
- พ่อแม่ ควรสอนลูกด้วยธรรม ไม่ใช่ตามใจจนเสียคน
- คู่สมรส ช่วยกันขัดเกลาจิตใจ
- ลูกหลาน ไม่ใช่ "เครื่องมือลงทุน" แต่เป็น "ทายาททางธรรม
.
สรุปครับ
ความรักที่แท้จริง ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็น "เส้นทางการเดินทาง" ครับ
.
เมื่อเรามอบ "ความรัก" แบบ เมตตา-กรุณา
ทุกความสัมพันธ์ จะกลายเป็นเรือพาข้าม "สังสารวัฏ"
.
จดจำคำนี้ไว้ นะครับ รักแท้ คือ รักที่ต้องกล้าปล่อย
.
ปล่อยให้คนรักของเรามีอิสระ ปล่อยให้ธรรมะนำทาง และ ปล่อยวางเมื่อถึงเวลาอันสมควร ครับ
บุคคล ลูกหลาน ที่พึงดูแล บิดา-มารดา สามีภรรยา ด้วยทรัพย์ และ ความรัก ถือว่าดีในระดับหนึ่ง
.
แต่หากทำให้ ลูกหลาน บิดามารดา สามีภรรยา หลุดพ้นจากความทุกข์ได้ นั่นคือ การตอบแทนสูงสุดในทางพุทธศาสนา ครับ
.
การที่คุณยังโกรธ ลูกหลาน ที่ไม่ได้ดั่งใจ
นั่นคือการยึดติดว่า เขาต้องเป็นอย่างที่ฉันวาดภาพไว้
แต่ทาง "พุทธศาสนา" สอนว่า แม้แต่ร่างกายนี้ก็ไม่ใช่ของเรา
.
แล้วทำไม ? ต้องไปยึดว่า "ลูก" คือสมบัติของเรา ?
.
"พระพุทธเจ้า" ตรัสว่า "ความทุกข์เกิดจากการยึดมั่นถือมั่น" (อุปาทาน)
.
ความรักที่ผูกมัด คือ ความรักที่เต็มไปด้วยกรรมเก่า
.
อวิชชา (ความไม่รู้ความจริง) ทำให้มองไม่เห็นว่า
.
ทุกความสัมพันธ์เกิดจาก "กรรมร่วมกัน" จากอดีตชาติ
.
ความขัดแย้งคือ "ผลกรรมที่ต้องชดใช้"
ความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวใน "พุทธศาสนา" ไม่ใช่ "ความผิด" ของใคร นะครับ
.
แต่เป็น กระจกสะท้อนตัวเราว่า ยังมีกิเลสที่ต้องขัดเกลา
.
ดังพุทธดำรัสที่ว่า
.
สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม
ความสุข หรือ ความทุกข์ ที่เขาได้รับ ล้วนมาจากกรรมที่ตนทำไว้
.
การแก้ไขต้องเริ่มที่ "การเปลี่ยนตนเอง" ก่อนจะไปเปลี่ยนแปลงผู้อื่น
เพราะสุดท้ายแล้ว ความสัมพันธ์ที่แท้จริง คือ ความสัมพันธ์ที่สอนใจเราให้ปล่อยวาง
.
- หากรัก เพราะความหลงใหลทางกาย คุณจะนอกใจเมื่อความสนุกลดลง
.
- หากรัก เพราะอยากครอบครอง คุณจะ โกรธ เกลียด อิจฉา เมื่อคู่รักเริ่มสนใจคนอื่น
.
ความรักที่แท้จริง ไม่จบที่การอยู่ร่วมกัน แต่จบที่การ "ร่วมกันหลุดพ้น" ครับ
.
ครอบครัวที่ดีคือ "สังฆะเล็ก ๆ" (ชุมชนเล็ก ๆ) ที่ช่วยกันสร้างบุญกุศล
.
ความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว คือ "ครู" ที่สอนเราว่า "เรายังยึดติดอยู่"
พุทธวจนะ ได้กล่าวไว้ว่า
.
บุคคลพึงดูแลกันด้วยธรรมะ ไม่ใช่ด้วยความยึดมั่นผูกพัน เพราะธรรมะเท่านั้น ที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริง
.
สุดท้ายนี้ครับ จงรักอย่างรู้ว่า "ทุกสิ่งไม่เที่ยง"
.
รักอย่างเข้าใจว่า "เราคือเพื่อนร่วมกรรม"
.
รักอย่างมีสติว่า "วันหนึ่งเราต้องจากกันไป"
.
สวัสดีครับ
.
#ธรรมะ , #ศาสนาพุทธ , #พุทธศาสนา , #ความรัก , #ปัญหาครอบครัว , #ปัญหาชีวิตคู่
ธรรมะ
พุทธศาสนา
ศาสนา
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย