เมื่อวาน เวลา 12:09 • ธุรกิจ

เมื่อ Tim Cook ชนะทั้ง Trump และจีน ราชาแห่งการเจรจา กับแผนลับของ Apple ในการปลดแอกจากจีน

ใครจะคิดว่า Tim Cook จะกลายเป็น CEO ที่เจ้าเล่ห์ที่สุดแห่งยุคสมัยของเรา? เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาได้พิสูจน์ความเจ๋งของตัวเองอีกครั้งในการดำเนินกลยุทธ์สุดซับซ้อนของบริษัทพี่ใหญ่แห่ง Silicon Valley
1
ความอัจฉริยะของ Steve Jobs นั้นมันเห็นได้ชัดเจนสำหรับทุกคน เขาเป็นผู้เสกผลิตภัณฑ์อย่าง Mac, iPod, iPhone และ iPad แต่สิ่งเหล่านี้นี่ไม่ใช่จุดแข็งของ Tim Cook
สิ่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคของ Cook คือ Apple Watch และ AirPods ซึ่งทั้งคู่เป็นเพียงอุปกรณ์เสริมสำหรับ iPhone ที่ Jobs สร้างไว้แล้ว ส่วน Vision Pro ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนโลกแต่อย่างใด
แต่ที่เจ๋งสุดๆ คือ Cook ทำให้ Apple กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก มูลค่าพุ่งทะยานขึ้น 25 เท่าตั้งแต่เขาเป็น CEO เมื่อ 14 ปีที่แล้ว
และที่โหดไปกว่านั้น แปดปีในช่วงนี้เกิดขึ้นระหว่างสงครามการค้าที่ใหญ่ที่สุดในยุคสมัยของเรา ซึ่ง Apple ควรจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
1
เพราะ Apple เป็นบริษัทสหรัฐฯ ที่พึ่งพาทั้งการผลิตในจีนและผู้บริโภคชาวจีนมากที่สุด Trump และรัฐบาลจีนต่างมีอำนาจมหาศาลที่จะกดดัน Apple
แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น Tim Cook กลับได้รับการสนับสนุนมากกว่าที่เคยจากทั้งสองฝ่าย
และตอนนี้ด้วยความตึงเครียดระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นทุกหนแห่ง Cook กำลังวางแผนที่ลึกลับซับซ้อนที่สุดของเขา ถ้าเขาสามารถทำสำเร็จได้อีกครั้ง Cook จะได้รับการเทิดทูนให้เป็นหนึ่งใน CEO ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
เมื่อ Steve Jobs กลับมาที่ Apple ในปี 1997 บริษัทกำลังเละเทะไม่เป็นท่า การบริหารงานก่อนหน้านี้ปล่อยให้ทั้งเงินสด ความสามารถทางการแข่งขัน และลูกค้ามีแต่ไหลออกไป
Jobs จึงตัดสินใจว่าพวกเขาต้องการการปฏิรูปครั้งใหญ่ในสองด้าน อันดับแรก Apple ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นอย่างมาก ซึ่ง Jobs รับงานนี้ด้วยตัวเอง
แต่งานที่สำคัญพอๆ กันคือการปฏิวัติวิธีการผลิตผลิตภัณฑ์เหล่านั้น และสำหรับงานนั้น เขานำ Tim Cook เข้ามาเป็นหนึ่งในพนักงานคนแรกๆ ในยุคใหม่ของเขา
Apple มีประวัติการผลิตคอมพิวเตอร์ Macintosh ภายในแคลิฟอร์เนีย Jobs พูดอย่างภาคภูมิใจว่า “นี่คือเครื่องที่ผลิตในอเมริกา”
แต่ Cook เคยทำงานให้กับ Compaq ซึ่งได้จ้างผลิตภายนอกมาเป็นเวลานาน และเขาได้รับมอบหมายให้ช่วย Apple ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การจ้างผลิตจากภายนอกเช่นกัน
Compaq เป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่รายแรกๆ ของ Foxconn Cook ชักชวนให้ Foxconn ข้ามห้วยมาร่วมกับ Apple และผลิตเคสอลูมิเนียมอัลลอยสำหรับ PowerMac G5
เมื่อเวลาผ่านไป เขาได้ร่วมมือกับซัพพลายเออร์อื่นๆ อีกมากมายที่จะกลายเป็นพันธมิตรสำคัญของ Apple ตั้งแต่ TSMC ไปจนถึง Samsung
และ Tim Cook ได้ผูกพวกเขาเข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ที่ถูกปรับแต่งอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อนำความฝันของนักออกแบบและวิศวกรของ Apple มาสู่ความเป็นจริง
1
ไม่เหมือนกับ Jobs ที่บางครั้งมีลักษณะเผด็จการ Cook เป็นคนที่มีเสน่ห์อย่างน่าประหลาดและสามารถชักชวนพันธมิตรให้เดิมพันกับบริษัทได้อย่างเหลือเชื่อ
1
มีรายงานว่า Foxconn ถูกชักชวนให้ประกอบ iPhone รุ่นแรกโดยที่ขาดทุนอย่างชัดเจน เพราะพวกเขาเชื่อว่าการทำเช่นนั้นจะช่วยให้ได้รับความไว้วางใจจาก Apple
และแน่นอน พวกเขาคิดถูก เพราะสุดท้ายแล้ว Foxconn ได้รับสัญญาที่ทำกำไรมากกว่าในอนาคต และมีอีกหลายบริษัทเดินตามรอยเท้านี้
หาก Jobs โฟกัสในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ถือว่าเป็นหยินของ Apple การโฟกัสของ Cook ในการหาพันธมิตรที่เหมาะสมก็เป็นหยางของ Apple เฉกเช่นเดียวกัน
และพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของ Cook คือประเทศจีน คำว่า “ออกแบบโดย Apple ในแคลิฟอร์เนีย ผลิตในจีน (Designed by Apple in California Assembled in China)” เป็นมรดกของ 20 ปีแรกของ Cook ที่ Apple
ในช่วงแรก การเจรจาและการสร้างความสัมพันธ์ส่วนใหญ่กับจีนทำในนามของ Cook โดย Terry Gou ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Foxconn
เขาเดินทางไปเยี่ยมชมประเทศนี้บ่อยครั้ง เลี้ยงอาหารนักการเมืองท้องถิ่นและล็อบบี้พวกเขาเพื่อการปฏิบัติที่เอื้อประโยชน์ในนามของ Apple
ผลลัพธ์? การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลจีน และที่โหดสุดๆ คือสิ่งที่เรียกว่า “เมือง iPhone”
การสืบสวนของ New York Times เปิดเผยว่ารัฐบาลจีนได้สร้างเมืองทั้งเมืองให้กับ Apple! รวมถึงใช้เงิน 600 ล้านดอลลาร์สร้างคอมเพล็กซ์สำหรับการผลิต
นอกจากนี้ยังทุ่มหนึ่งพันล้านดอลลาร์สำหรับที่พักของคนงาน สร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานขนาดใหญ่ ให้เงินกู้ ช่วยรับสมัครและฝึกอบรมคนงาน
1
พวกเขายังจ่ายเงินอุดหนุนและโบนัสต่างๆ ยกเว้นภาษีนิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเวลา 5 ปี และสร้างพื้นที่พิเศษทางการค้าประเคนให้กับ Apple อีกด้วย
1
และ “เมือง iPhone” เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ แหล่งผลิตที่สร้างขึ้นเพื่อ Apple ในประเทศจีน Tim Cook เจรจาเงื่อนไขสำหรับโรงงานที่ดีที่สุดในโลก
1
เมื่อรวมกับความสามารถของ Jobs ในการสร้างผลิตภัณฑ์ยอดฮิต บริษัทดูเหมือนจะเติบโตแบบฉุดไม่อยู่ ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดีจนกระทั่ง Steve Jobs เสียชีวิต
Jobs แนะนำว่า Cook ควรเป็นผู้สืบทอดของเขา ในตอนแรก สิ่งนี้ดูเหมือนจะไม่เข้าท่า ดูเหมือนว่า Apple จะต้องการทั้งอัจฉริยะด้านผลิตภัณฑ์คนใหม่และคนอย่าง Cook ในร่างเดียวกัน
แต่ในความเป็นจริง ช่วงเวลาที่ Jobs เสียชีวิตนั้น Apple ได้เข้าสู่ยุคที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ด้วย iPhone, iPad และ Mac, Apple มีหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมที่สุดสำหรับผู้บริโภคแล้ว ผลิตภัณฑ์ไม่จำเป็นต้องได้รับการปฏิวัติใหม่ทั้งหมด
1
พวกเขาเพียงแค่ต้องการการพัฒนาต่อเนื่อง และ Jobs ได้ทิ้งทีมไว้ซึ่งมีความสามารถมากพอที่จะทำเช่นนั้น
เป้าหมายใหม่คือการผลักดันผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้แข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมา ซึ่งไม่ได้ต้องการนวัตกรรมขนาดใหญ่ แต่เป็นเรื่องของการเจรจาทางการเมืองและการทำข้อตกลงต่าง ๆ ให้ลุล่วง
และนั่นกลายเป็นพรสวรรค์ที่ไม่มีใครเทียบได้ของ Tim Cook เขาสามารถเล่นได้ทุกฝ่ายพร้อมกันเหมือนกับนักดนตรีที่ควบคุมวงออร์เคสตราอย่างเชี่ยวชาญ
ตัวอย่างที่น่าสนใจล่าสุดของความเจ้าเล่ห์ของ Cook คือข่าวประชาสัมพันธ์ที่ Apple เผยแพร่เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้ว
ในข่าวนั้น บริษัทประกาศว่าจะใช้เงินมากกว่า 500 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ในช่วง 4 ปีข้างหน้า นี่เป็นเอกสารที่ถูกแต่งแต้มขึ้นมาเพื่อทำให้ประธานาธิบดี Trump พอใจ
หลังจากนั้น Trump ได้ทำให้มันเป็นหนึ่งในคำมั่นสัญญาในการรณรงค์หาเสียงของเขาที่จะนำการผลิตของ Apple กลับมาที่สหรัฐฯ อีกครั้ง
“เราจะนำสิ่งต่างๆ มา เราจะทำให้ Apple เริ่มสร้างคอมพิวเตอร์และสิ่งต่างๆ ในประเทศนี้แทนที่จะเป็นในประเทศอื่นๆ” Trump กล่าวไว้
และข่าวประชาสัมพันธ์ดูเหมือนว่า Apple กำลังทำเช่นนั้นจริงๆ! บริษัทอธิบายว่า 500 พันล้านเป็นการใช้จ่ายที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขา
พวกเขากำลังเปิดโรงงานผลิตใหม่ในฮูสตัน เพิ่มกองทุนการผลิตขั้นสูงของ Apple ในสหรัฐฯ เป็นสองเท่าจาก 5 พันล้านดอลลาร์เป็น 10 พันล้านดอลลาร์
พวกเขาวางแผนที่จะจ้างงานประมาณ 20,000 คนที่มีทักษะสูงในสหรัฐฯ และเปิดสถาบันการผลิตใหม่ในดีทรอยต์ ฟังดูยอดเยี่ยมใช่ไหม?
ตามที่คาดไว้ สื่อและ Trump ต่างเฉลิมฉลองกับสิ่งนี้ ทุกอย่างเกี่ยวกับเอกสารนี้เป็นผลงานชิ้นเอกทางการเมือง!
แต่ถ้าเราเจาะลึกรายละเอียด มันมีมุมมืดที่ซ่อนอยู่ ตัวเลข 500 พันล้านดอลลาร์นั้นฟังดูเยอะมาก แต่จริงๆ แล้วรวมถึง 350 พันล้านดอลลาร์ในปี 2018 และ 430 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021
ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราที่สอดคล้องกับการเติบโตของบริษัท และบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ทั้งหมดกำลังเพิ่มการใช้จ่ายเนื่องจาก AI ดังนั้นตัวเลข 500 พันล้านดอลลาร์ของ Apple จึงไม่ได้พิเศษอะไรเลย
เช่นเดียวกับตัวเลขของการจ้างงานใหม่ 20,000 ตำแหน่ง ทั้งหมดอยู่ในด้าน R&D, วิศวกรรมซิลิคอน, การพัฒนาซอฟต์แวร์ และ AI ซึ่งเป็นงานที่ Apple มีการจ้างในสหรัฐฯ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
งานเหล่านี้ทั้งหมดอยู่ภายใต้กลุ่ม “ออกแบบโดย Apple ในแคลิฟอร์เนีย” การจ้างงานใหม่ 20,000 ตำแหน่งเป็นสิ่งที่คาดหวังจาก Apple ในช่วง 4 ปีในยุค AI บูม
สิ่งที่น่าสนใจคือการเพิ่มกองทุนการผลิตขั้นสูงของ Apple ในสหรัฐฯ เป็นสองเท่าจาก 5 พันล้านดอลลาร์เป็น 10 พันล้านดอลลาร์
กองทุนนี้ฟังดูเหมือนสิ่งที่เป็นรูปธรรม แต่ไม่มีการกำหนดรายละเอียดที่ชัดเจนในเอกสาร น่าจะเป็นเพียงสิ่งที่ Apple ต้องการจะจ่ายเพื่อใช้ซื้อชิ้นส่วนของสหรัฐฯ ในอนาคต
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่กองทุนนี้จะจ่ายคือชิปจากโรงงานใหม่ของ TSMC ในอริโซนา แต่โรงงานนี้ไม่ใช่โรงงานที่ Apple สร้างหรือให้การสนับสนุนทางการเงิน
แต่เป็นของ TSMC และได้รับเงินอุดหนุน 6.6 พันล้านดอลลาร์จาก CHIPS Act ซึ่งเป็นกฎหมายในยุคของ Joe Biden งานทั้งหมดของ Apple คือการยอมรับว่าพวกเขาจะซื้อชิปจากโรงงานนี้เพียงเท่านั้น
โรงงานได้เริ่มดำเนินการก่อนที่ Trump จะเข้ารับตำแหน่ง แต่ Cook บรรจุสิ่งนี้ทั้งหมดลงในสิ่งที่เรียกว่ากองทุนการผลิตขั้นสูงของ Apple ซึ่งบ่งบอกว่าทั้งหมดนี้เป็นความสำเร็จของ Apple และอาจเป็นของ Trump ด้วย
ส่วนโรงงานใหม่ในฮูสตันที่จะผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI อาจฟังดูเทพมาก แต่ในความเป็นจริง นี่คือผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณน้อยที่สุดของ Apple
โรงงานนี้แทบจะแน่นอนว่าจะเพียงแค่ประกอบชิ้นส่วนที่ผลิตเสร็จแล้ว และร่วมกับ Mac Pro ซึ่งผลิตในสหรัฐฯ อยู่แล้ว มันจะมีส่วนแบ่งน้อยกว่า 1% ของการผลิตทั้งหมด
เอกสารนี้แสดงถึงความเจ๋งของ Tim Cook อย่างสมบูรณ์แบบ เขาให้ข่าว PR ที่ยอดเยี่ยมแก่ Trump เพื่อโอ้อวดด้วยตัวเลขที่ยิ่งใหญ่และเมื่อพิจารณาจากคำในเอกสารทั้งหมดมันก็ถูกต้องตามนั้น
เขาแม้กระทั่งพบกับประธานาธิบดีก่อนที่จะเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์เพื่อให้สื่อมวลชนเชื่อมโยงทั้งสองเข้าด้วยกัน
ในช่วงการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งก่อนของ Trump การเจรจาที่คล้ายกันของ Cook นำไปสู่การที่ผลิตภัณฑ์ของ Apple ได้รับการยกเว้นเฉพาะจากภาษีศุลกากรของจีน ซึ่งทำให้ Apple นำเข้าผลิตภัณฑ์มาในสหรัฐฯ ได้อย่างอิสระ
ข้อความเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ Apple เสียอะไรที่มีความหมายจนถึงตอนนี้ และยังช่วยให้ Apple หลีกเลี่ยงการทำให้พันธมิตรระหว่างประเทศอื่นๆ ไม่พอใจ โดยเฉพาะจีน
จีนซึ่งยังคงสนับสนุน Apple จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อโรงงานที่ผลิตผลิตภัณฑ์ Apple ประสบกับการขาดแคลนแรงงานในช่วการแพร่ระบาดของ COVID-19 รัฐบาลจีนส่งทหารผ่านศึกจำนวนมากเพื่อเข้ามาช่วยเหลือ Apple แทบจะทันที
และที่สำคัญพอๆ กัน จีนยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของ Apple โดยที่ iPhone ใช้กันอย่างแพร่หลายในเมืองใหญ่ของจีน
ในขณะที่ Huawei กำลังถูกคว่ำบาตร TikTok เกือบถูกบังคับให้ขาย Tencent ถูกกำหนดให้เป็นบริษัททหาร Apple ดูเหมือนจะได้รับการปฏิบัติพิเศษจากรัฐบาลทั้งสองขั้ว
ตราบใดที่ Apple ยังคงการผลิตที่ทำกำไรมหาศาลในจีน รัฐบาลไม่น่าจะทำอะไรรุนแรงกับ Apple เนื่องจากงานมากกว่าหนึ่งล้านตำแหน่งและรายได้หลายร้อยพันล้านดอลลาร์ของรัฐบาลจีนจะอยู่ในความเสี่ยง
แต่นี่คือความท้าทายที่โหดที่สุด ในขณะที่ Apple สามารถชะลอการย้ายการผลิตออกจากจีน แต่สิ่งนี้จะไม่ยั่งยืนตลอดไป
บริษัทได้เริ่มเปิดโรงงานในประเทศอื่นๆ เช่น เวียดนาม และอินเดียซึ่งหมายปองที่จะกลายเป็นฐานการผลิตหลักถัดไป ในขณะที่กลุ่ม Tata ของอินเดียกำลังพยายามเป็นเหมือน Foxconn
แต่มีภัยคุกคามที่ทำให้ Cook ต้องหันมาคิดอย่างรอบคอบ เคสของอินโดนีเซียที่สั่งห้ามขายผลิตภัณฑ์ Apple เว้นแต่พวกเขาจะเปิดโรงงานในประเทศ
Apple ยอมแพ้และประกาศสร้างโรงงานผลิตมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์หลังจากนั้น นี่คือกรณีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าประเทศต่างๆ รู้ว่า Apple เป็นที่หมายปองและจะใช้ทั้งแรงจูงใจและการข่มขู่เพื่อดึงดูดการลงทุน
Tim Cook ต้องฝ่าฟันต่อสู้ผ่านความท้าทายเหล่านี้ทั้งหมด แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่ามาก ๆ ก็คือ Apple ไม่สามารถออกจากจีนได้อย่างสมบูรณ์ในเร็วๆ นี้
ในตอนนี้ Apple ยังคงยืมจมูกคนอื่นหายใจ โรงงานในต่างประเทศยังไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะครอบคลุมความต้องการทั่วโลก
พวกเขายังคงต้องการเครื่องจักร วิศวกร การฝึกอบรม และชิ้นส่วนจากจีน ในขณะเดียวกันผู้นำของจีนก็กระตือรือร้นอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้ซึ่งการพึ่งพานี้
หนึ่งในเหตุผลใหญ่ที่จีนไม่โจมตี Apple ในขณะที่บริษัทของจีนเองกำลังได้รับความเสียหายจากนโยบายของสหรัฐฯ คือการที่พวกเขาต้องการให้ Apple แข็งแกร่ง พวกเขาต้องการให้ Apple ยืดหยุ่นมากที่สุด เหมือนเป็นไม้ตายชนิดหนึ่งที่สามารถใช้ได้ในยามจำเป็น
แต่ยิ่ง Apple ย้ายการผลิตออกจากจีน การป้องกันนี้ก็ยิ่งจำเป็นน้อยลง และถ้า Apple กลายเป็นอิสระจากจีน จีนก็ไม่มีแรงจูงใจที่จะยับยั้งสิ่งเหล่านี้อีกต่อไป
มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่จีนเริ่มมีความเข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ Apple ได้รับอนุญาตให้ย้ายออกจากประเทศ รวมถึงเครื่องจักรที่สำคัญ ผู้คน และความรู้ความชำนาญ เหมือนกับว่าจีนกำลังส่งสัญญาณว่า “อย่าพาเราขึ้นเขา แล้วถีบส่งเราลงเหว”
รัฐบาลยังเริ่มการสอบสวนต่อต้านการผูกขาดใน App Store ของ Apple ในจีนเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้เห็นว่าพวกเขาเริ่มกดดัน Cook แล้ว
สิ่งเหล่านี้เป็นการเตือนที่ชัดเจนว่า Apple เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจีนตราบใดที่พวกเขายังให้ความร่วมมือ แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นมันไม่มีอภิสิทธิ์พิเศษอีกต่อไป
จนถึงตอนนี้ Tim Cook ได้จัดการอย่างชาญฉลาดที่จะค่อยๆ ถอยห่างจากจีนโดยไม่มีผลกระทบที่ร้ายแรง แต่ตอนนี้มาถึงจุดพีคของกลยุทธ์นี้แล้ว
เขาจะสามารถทำการแยกตัวให้เสร็จสิ้นก่อนที่รัฐบาลจีนจะฟันฉับลงบนคอของบริษัทของเขาหรือไม่? นี่คือเกมที่เดิมพันกันด้วยอนาคตของบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
ความเจ้าเล่ห์ของ Cook แสดงให้เห็นในแต่ละก้าวของกลยุทธ์นี้ เขาสามารถรักษาความสัมพันธ์อันดีกับทั้ง Trump และจีนในเวลาเดียวกัน
เขาสร้างข่าวประชาสัมพันธ์ที่ให้ทุกฝ่ายได้สิ่งที่ต้องการโดย Apple ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก เขาเป็นนักเจรจาที่โครตเทพจริงๆ
ถ้า Cook สามารถนำพา Apple ผ่านการเปลี่ยนผ่านครั้งที่ยากที่สุดครั้งนี้ไปได้ ย้ายการผลิตออกจากจีนโดยไม่สูญเสียตลาดจีนหรือถูกคุกคามจากรัฐบาลจีน นั่นจะเป็นความสำเร็จสูงสุด
ในขณะเดียวกันก็รักษาความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลสหรัฐฯ นี่จะเป็นการพิสูจน์ความโครตเทพของเขาในฐานะ CEO
แล้ววันหนึ่ง เราอาจได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่ “ออกแบบโดย Apple ในแคลิฟอร์เนีย” โดยไม่ต้องตามด้วย “ผลิตในจีน” อีกต่อไป ซึ่งจะเป็นหลักฐานสุดท้ายที่พิสูจน์ว่า Tim Cook เป็น CEO ผู้เจ้าเล่ห์และเก่งกาจที่สุดแห่งยุคสมัยของเรา
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา