25 มี.ค. เวลา 11:26 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

Near Miss Incident

เหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ (Near Miss) คือเหตุการณ์ที่เกือบทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือเกือบที่จะเกิดความเสียหาย แต่ไม่ได้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพราะโชคช่วย มีคนแทรกแซง ก็ตาม เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ และคนมักละเลยกัน
ในการทำงาน ถ้าผมเจอเรื่องพวกนี้ ผมจะให้ความสำคัญมากๆ และพยายามตั้งคำถามว่า เราจะทำอย่างไร ไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก เพราะ Near Miss Incident นี่แหล่ะ เป็นเหมือน ticking time bomb ที่รอเวลาที่ "โชค" ไม่พอ แล้วมันจะเกิดขึ้น
1
เหตุการณ์ที่เครื่องบิน CRJ ชนกับเฮลิคอปเตอร์ Blackhawk ใน Washington DC ก็เช่นกัน หลายๆ คนมัวแต่โทษโน่นโทษนี่ รวมทั้งการที่มีผู้หญิงเป็นผู้ขับเฮลิคอปเตอร์
แต่สิ่งที่ผมว่า น่าชื่นชม คือ การทำงานของ NTSB ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยในการคมนาคมของสหรัฐอเมริกา ล่าสุดทาง NTSB สืบสวนข้อมูลลึกลงไป และพบความน่าสนใจหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับ Near Miss Incident
สิ่งที่เหลือเชื่อที่สุด คือ Near Miss Incident ที่ระบบ TCAS (Traffic collision avoidance system) นั้นส่งสัญญาณเตือน เกิดขึ้นบ่อยมาก คือ ประมาณ 1 ครั้งต่อเดือน และก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุในครั้งนั้น ก็มีเครื่องบินพาณิชย์ลำหนึ่งรายงานเช่นกันว่าเกือบจะชนเข้ากับเฮลิคอปเตอร์ด้วยเช่นกัน
Near Miss Incident เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนให้ผู้ที่พบเหตุรายงานเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ข้อมูลดังกล่าวกลับไม่ได้ถูกนำมาใช้ในการแก้ไขป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้น
ข้อมูลยังพบอีกว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นบินบริเวณนั้นยังมีการปิด ADS-B หรือ transponder ที่ใช้ในการกระจายข้อมูลตำแหน่งของอากาศยานออกไป แถมยังบินสูงกว่าที่กำหนดอีกด้วย
พอไปดูรายละเอียด ก็ยังพบอีกว่า เฮลิคอปเตอร์มักจะใช้ระบบวัดความสูงโดยใช้ความกดดันอากาศในการวัดความสูง ซึ่งมีความเพี้ยน (error rate) สูงมากๆ และจำเป็นที่จะต้องมีการปรับแต่งค่าให้ถูกต้องเป็นประจำ แต่ในบางครั้ง อุปกรณ์เหล่านี้ที่มักจะมีการติดตั้งสองตัว (ฝั่งกัปตัน และนักบินผู้ช่วย) ตัวเลขบนอุปกรณ์ทั้งสองยังไม่ตรงกันเลย
นี่จึงเป็นอุทธาหรณ์ให้เห็นว่า ทำไมเราควรให้ความสำคัญกับการรายงาน Near Miss Incident และนำ Near Miss Incident มาใช้ในการป้องกันอุบัติเหตุไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต
โฆษณา