25 มี.ค. เวลา 11:58 • ประวัติศาสตร์

พระแม่กวาดาลูเป จุดเริ่มต้นตำนานกล่าวขานในศรรวรรษที่ 16 และวัฒนธรรมอาหารสเปนและเม็กซิกัน

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว..
ในหุบเขาสูงเสียดฟ้า ที่ซึ่งหมอกจางลอยคลอเคลียยอดเขา และเสียงกระซิบของสายลมพัดผ่านทุ่งดอกไม้หลากสี ดินแดนแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวแอซเท็ก ผู้บูชาเทพเจ้าวีทซีโลโพชทลิ เทพเจ้าแห่งพระอาทิตย์และสงคราม รวมทั้งให้การเคารพในพิธีบูชายัญ
..แต่ทว่า ในเงามืดของหุบเขา มีสิ่งชั่วร้ายที่แฝงตัวมานานนับศตวรรษ
นามนั้นคือปีศาจแห่งเทเปยัค
อสูรลึกลับที่กล่าวกันว่าเกิดจากความสิ้นหวังและเลือดแห่งการบูชายัญ มันแฝงตัวในเงาของป่าลึก กลืนกินความกลัวของผู้คน และกระหายต่อเสียงสวดวิงวอนของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
ค่ำคืนหนึ่งในฤดูหนาว ช่วงเวลาปลายปีที่ชาวแอซเท็กเตรียมตัวทำพิธีบูชายัญ..
ท่ามกลางแสงดาวระยิบระบับดุจอัญมณี เด็กหนุ่มชาวพื้นเมืองนามว่า ฮวน ดิเอโก ได้ยินเสียงเรียกจากสรวงสวรรค์
"ลูกเอ๋ย.."
เสียงนั้นแผ่วเบาดุจสายลมอ่อนโยน แต่กลับทรงพลังจนทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง
เขาหันไปมอง และที่นั่น.. ท่ามกลางแสงสีทองเจิดจ้า มีสตรีงามผู้หนึ่งปรากฏกาย นางสวมเสื้อคลุมสีฟ้าประดับด้วยดวงดาว และรัศมีรอบกายส่องสว่างราวกับพระอาทิตย์ยามรุ่งอรุณ
"เรา คือ กวาดาลูเป พระมารดาแห่งพระเจ้า"
พระนางตรัสด้วยเสียงที่นุ่มนวลแต่มั่นคง
"จงไปบอกผู้ปกครองของเจ้า ให้สร้างวิหาร ณ ที่แห่งนี้ เพื่อเป็นที่พำนักของเรา และเพื่อขับไล่ความชั่วร้ายที่ซ่อนเร้น"
ฮวน ดิเอโก รับปากทำตามบัญชา แต่เมื่อเขานำความไปแจ้งต่อผู้ปกครอง กลับไม่มีผู้ใดเชื่อในเรื่องนี้ โดยผู้ปกครองขอให้เขานำ "สัญลักษณ์แห่งสรวงสวรรค์" มายืนยัน
กาลต่อมาในคืนที่สอง พระแม่กวาดาลูเปปรากฏกายต่อเขาอีกครั้ง และนำทางเขาขึ้นไปยังเนินเขา เทเปยัค ที่ซึ่งดอกกุหลาบคาสติเลียนผลิบานท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ เพราะในฤดูหนาวของ ไม่มีดอกไม้ใดจะเบ่งบานได้
"เจ้าเก็บดอกไม้นี้ไว้ในติลม่า (เสื้อคลุมพื้นเมือง) แล้วนำไปให้ผู้ปกครองของเจ้า” พระแม่กวาดาลูเปตรัส
ฮวน ดิเอโก รีบทำตาม เมื่อนำเสื้อคลุมไปคลี่ต่อหน้าผู้ปกครอง ภาพของพระแม่กวาดาลูเปกลับปรากฏขึ้นบนผืนผ้า
แต่ทว่า..
นั่นยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของปาฏิหาริย์
เมื่อวิหารถูกสร้างขึ้น ปีศาจแห่งเทเปยัคโกรธเกรี้ยว มันคำรามก้องฟ้า ความมืดมิดแผ่ปกคลุม ขณะที่มันพุ่งออกมาจากเงาของป่าลึก พยายามทำลายศรัทธาของผู้คน
แต่ทันใดนั้น..
รัศมีของพระแม่กวาดาลูเปพลันเปล่งประกายดั่งแสงอาทิตย์ พระนางปรากฏเหนือท้องฟ้า คลุมดินแดนด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์
ปีศาจกรีดร้อง ดิ้นรน แต่ไม่อาจทานทนพลังแห่งความเมตตาได้ มันสลายไปในอากาศ กลายเป็นสายลมอ่อนโยนที่พัดผ่านภูเขาเทเปยัค
.
นับแต่นั้นมา… พระแม่กวาดาลูเปกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธาและความหวัง นางมิได้มาเพื่อพิชิตด้วยอาวุธ แต่มาด้วยความรัก และเป็นแสงนำทางให้กับลูกหลานผู้ศรัทธาทั่วทั้งแผ่นดิน
กล่าวกันว่า "ฮวน ดิเอโก" อ้างว่าพระแม่กวาดาลูเปปรากฏตัวต่อเขาบนเนินเขา เทเปยัค ซึ่งมีบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์และตำนานของชาวคาทอลิก เป็นเอกสารทางศาสนา ซึ่งเป็นเอกสารภาษา "นาวัตล์" (nāhuatl) ที่เขียนขึ้นราวศตวรรษที่ 16 โดยบันทึกเกี่ยวกับการปรากฏตัวของพระแม่กวาดาลูเปใน "Nican Mopohua" และมีหลักฐานทางวัฒนธรรม เป็นภาพของพระแม่กวาดาลูเปบนผืนผ้าคลุม (ดิสม่า) ของ ฮวน ดิเอโก ที่มีปรากฏอยู่ในมหาวิหารแห่งกัวดาลูเปาจนถึงปัจจุบัน
...
วันกวาดาลูเป – 25 มีนาคม National Guadalupe Day
ตรงกับวันที่ 25 มีนาคมของทุกปี เป็นวันที่ให้เกียรติแก่ผู้ที่มีชื่อ "Guadalupe" ซึ่งเป็นชื่อที่มีความหมายลึกซึ้งและมีประวัติยาวนาน
Guadalupe มีรากศัพท์มาจากทั้งภาษา อาหรับ และ ละติน โดยในภาษาอาหรับ หมายถึง "แม่น้ำที่ซ่อนอยู่" และในภาษาละติน หมายถึง "หุบเขาแห่งหมาป่า"
ชื่อนี้ยังเป็นที่นิยมมากทั้งในประเทศ สเปน และเม็กซิโก รวมทั้งประเทศในละตินอเมริกา อีกทั้งยังสามารถดัดแปลงเป็นชื่อเล่นที่หลากหลายอีกด้วย
คำว่า "Guadalupe" มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับ พระแม่กวาดาลูเปแห่งกัวดาลูเป (Our Lady of Guadalupe) ซึ่งเป็นพระนามของพระแม่กวาดาลูเปที่ได้รับการเคารพบูชาในแถบอเมริกา จากตำนานเล่าขานถึงการปรากฏตัวในศตวรรที่ 16 และยังเป็นช่วงเวลาที่สเปนพิชิตอาณาจักรแอซเท็ก ทำให้มีการสันนิษฐานว่า
ชื่อ "Guadalupe" อาจถูกใช้แทนชื่อของเทพีแอซเท็ก "Coatlaxopeuh" ซึ่งหมายถึง "สตรีผู้พิชิตงู" เรื่องราวนี้เชื่อมโยงกับภาพลักษณ์ของพระแม่กวาดาลูเปที่ปราบงูร้ายในสวนเอเดน ทำให้ชื่อ Guadalupe แพร่หลายไปทั่วเม็กซิโกและละตินอเมริกา
.
ปัจจุบัน มหาวิหารกวาดาลูเป (Basilica of Guadalupe) ในเม็กซิโกซิตี้ ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้แสวงบุญมาเยือนมากที่สุดในโลก
...
หากกล่าวถึงวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสเปนและเม็กซิกัน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งสองมีสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและสะท้อนออกมาผ่านศิลปะ สถาปัตยกรรม ภาษา และที่สำคัญที่สุดคือ...อาหาร!
จากอิทธิพลของสเปนที่เดินทางมาสู่โลกใหม่ วัตถุดิบ เครื่องเทศ และวิธีการปรุงอาหารได้ถักทอเข้ากับรากเหง้าของชนเผ่าพื้นเมืองในเม็กซิโก กลายเป็นรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น "Mole" ซอสที่เกิดจากการผสมผสานของเครื่องเทศจากยุโรปและช็อกโกแลตพื้นเมือง หรือ "Pan de Cazón" อาหารทะเลที่สะท้อนอิทธิพลของทั้งสองวัฒนธรรมอย่างลงตัว
.
มีเมนูมากมายที่อร่อยและน่าลองกินเป็นอย่างมาก วันนี้ขอหยิบมา 5 เมนู
.
1. Tlayuda "พิซซ่าแห่งเม็กซิโก"
Tlayuda เป็นแป้งตอร์ติญ่าขนาดใหญ่ที่อบจนกรอบ ทาด้วย refried beans (ถั่วบด) และราดด้วยชีส Oaxaca, อะโวคาโด, เนื้อย่าง และซัลซ่าหลายชนิด ถือเป็นอาหารพื้นเมืองของรัฐโออาซากา
.
2. Gazpacho Manchego "ซุปข้นร้อนจากดอนกิโฆเต้"
แตกต่างจาก Gazpacho แบบเย็นที่คนรู้จักทั่วไปของสเปน Gazpacho Manchego เป็นสตูว์ข้นร้อนจากแคว้นลามันชา ประกอบด้วยเนื้อกระต่าย ไก่ หรือเนื้อนกป่า ตุ๋นกับมะเขือเทศ กระเทียม และสมุนไพร เสิร์ฟพร้อมแผ่นแป้งข้าวสาลี
.
3. Pan de Cazón "ลาซานญ่าปลาแบบเม็กซิกัน"
อาหารพื้นเมืองของรัฐแคมเปเช่ Pan de Cazón คือแป้งตอร์ติญ่าซ้อนกันเป็นชั้นๆ คล้ายลาซานญ่า โดยแต่ละชั้นมีไส้เป็น ปลาฉลาม Cazón ราดด้วยซอสถั่วดำและซัลซ่ามะเขือเทศ
สูตรและวิธีทำสไตล์เม็กซิกัน: https://www.recetasgratis.net/receta-de-pan-de-cazon-74379.html
.
4. Sopa de Ajo "ซุปกระเทียมเพื่อความอบอุ่น"
ซุปกระเทียมแบบสเปน ทำจากกระเทียมอบจนหอม ผัดกับขนมปัง น้ำซุปไก่ และไข่ต้มสุก เคยเป็นอาหารของชนชั้นแรงงาน แต่ปัจจุบันกลายเป็นเมนูพื้นเมืองที่หาทานยาก
สูตรและวิธีทำสไตล์เม็กซิกัน: https://www.guiadetacos.com/recetas_mexicanas/consomes_sopas/54/sopa-de-ajo-receta.html
5. Hornazo "พายเนื้อแห่งสเปน"
Hornazo เป็นขนมปังสอดไส้เนื้อสัตว์ เช่น ไส้กรอก Chorizo, เนื้อหมูหมัก และไข่ต้ม เป็นอาหารดั้งเดิมของแคว้นกัสติยาและเลออน นิยมรับประทานในช่วงเทศกาลเฉพาะ
...
นอกจากอาหารแล้ว ประเพณี ความเชื่อ และศิลปะก็ต่างได้รับแรงบันดาลใจซึ่งกันและกัน เช่น "Our Lady of Guadalupe" สัญลักษณ์แห่งความศรัทธาที่เป็นที่เคารพของทั้งชาวสเปนและเม็กซิกัน สะท้อนถึงความหลอมรวมของความเชื่อจากสองซีกโลก
.
หาอาหารสเปนและเม็กซิกัน หากินไม่ยากมากแล้วในประเทศไทย แต่ราคาก็อาจจะสูงหน่อย ถ้ามีเพื่อนๆ นำสูตรไปทำแล้วเปิดเป็นร้านอาหาร ในราคาไม่แพง..ได้นะ!
.
ขอขอบคุณข้อมูล
: wikidates
: wikipedia
: killingatheism
: britannica
: library .fiveable
: sup .org
: tasteatlas
.
LookAtEvent - ปฏิทินแห่งเรื่องราว
โฆษณา