• Big Idea ที่ทรงพลัง ไม่ใช่แค่การสร้างแคมเปญโฆษณา แต่เป็นไอเดียที่นำไปสู่ Product Innovation หรือ Brand Movement
• สร้างสรรค์ IDEA โดยยึดเกณฑ์ 1) Creativity 2) Customer Insightful / Relevance 3) Fresh Idea 4) World Class Idea เพื่อให้เกิด Viral และ !MPACT กับ แคมเปญสื่อสารการตลาดต่างๆ ที่ AI ยังทำไม่ได้
4. สร้าง “AI-Enhanced Creativity” แทนที่จะสู้กับ AI
แทนที่จะมอง AI เป็นคู่แข่ง เอเจนซีควรใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริมศักยภาพ เช่น
• ใช้ AI วิเคราะห์ Data และสร้าง Consumer Insight ลึกขึ้น
• ใช้ Generative AI ในการช่วยสร้าง Visual หรือ Copywriting เพื่อเพิ่มความเร็ว
• ใช้ Machine Learning เพื่อ Optimize Media Buying และ Personalization
5. สร้าง Bran Model / DNA และ Business Model ใหม่ที่ Beyond Advertising
เอเจนซีต้องรู้จักตัวตนของตัวเอง รู้จักจุดแข็งของตัวเองโดยการค้นหา Brand DNA ที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของตัวเอง ทิศทางของ Business Model ต้องแตกไลน์จากแค่การทำโฆษณา ไปสู่การสร้าง Brand Experience, Product Innovation และ Venture Building เช่น
แบรนด์อาจมีเครื่องมือครบ แต่การเข้าใจวัฒนธรรม, Trend และ Movement ที่เกิดขึ้นในสังคมยังเป็นสิ่งที่ AI หรือ In-house Team ทำได้ยาก เอเจนซีสามารถสร้างมูลค่าโดย
• นำเสนอ Consumer Trend ที่ลึกกว่าข้อมูลจาก AI
• สร้างแคมเปญที่กลายเป็น “Cultural Phenomenon”
• ทำให้แบรนด์เป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาในสังคม
สรุป:
เอเจนซีโฆษณาต้องเปลี่ยนจาก “ผู้ให้บริการ” เป็น “พาร์ทเนอร์เชิงกลยุทธ์” ที่แบรนด์ขาดไม่ได้ ต้องเก่งเรื่อง Brand Strategy, Business Strategy, Marketing Strategy, Communication Strategy: Big Idea, Storytelling, และ AI-Enhanced Strategy รวมถึงต่อยอดไปสู่ธุรกิจที่ไม่ใช่แค่โฆษณา เช่น Product Innovation หรือ Venture Building