Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เต่าน้อยลงทุน
•
ติดตาม
26 มี.ค. เวลา 01:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Easy Reading : มารู้จักหุ้นกลุ่มหลักในแต่ละตลาดกัน !!!
จะว่าไปแล้ว ตลาดหุ้นแต่ละตลาด มีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่น ไม่ซ้ำกัน และแต่ละตลาดก็จะมี “หุ้นกลุ่มใหญ่” ที่มีอิทธิพลต่อตลาดซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างกัน
วันนี้ Mr. เต่า จะพาเพื่อนๆ มารู้จักกับหุ้นกลุ่มหลักในแต่ละตลาดหุ้น ดูว่าจะมีหุ้นอะไรบ้าง ไหนใครรู้จักหุ้นตัวไหนบ้าง ยกมือขึ้น !!! เราไปดูกลุ่มหุ้นใหญ่ในแต่ละตลาดกันเลย
หุ้นกลุ่ม 7 นางฟ้า หรือ Magnificent 7
• หุ้นสหรัฐฯ ประกอบด้วย หุ้น Magnificent 7 หรือ 7 นางฟ้า + FAANG
กลุ่มหุ้นที่เน้นบริษัทในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและฟุ่มเฟือย GRANOLAS ในยุโรป
• หุ้นยุโรป ประกอบด้วย หุ้น GRANOLAS ซึ่งเป็นชื่ออักษรแรกของหุ้นแต่ละตัวในยุโรป
BAT กลุ่มหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่สุด 3 แห่งของจีน
• หุ้นจีน ประกอบด้วย หุ้น BAT เป็นหุ้นเทคโนโลยี 3 ตัว ที่มีความสำคัญต่อทิศทางตลาดหุ้นจีนอย่างมาก
จริงๆแล้ว มีหุ้นในตลาดอื่นที่มีความสำคัญเช่นกัน แต่ผมเลือกหุ้นที่คิดว่า สำคัญและอยู่ในความสนใจของตลาดในช่วงนี้เป็นอันดับแรกนะครับ ถ้ามีหุ้นกลุ่มอื่นๆที่น่าสนใจ Mr. เต่าขอเอามาฝากในครั้งหน้านะครับ
ผลตอบแทนตลาดหุ้นต่างๆ ตั้งแต่ต้นปี จะเห็นว่า กลุ่มหุ้น BAT ปรับตัวดีกว่าหุ้นจีนในภาพรวม ขณะที่ในยุโรป หุ้น GRANOLAS ปรับตัวขึ้นได้ดีเช่นกัน และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐฯ ทั้ง FAANG และ Magnificent 7 ปรับตัวลงมากกว่า ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ S&P500 และ Nasdaq ตามลำดับ
Mr. เต่า มองว่ายังไง ?
หุ้นกลุ่มหลักในสหรัฐฯ ปรับตัวลงตามความกังวลการขึ้นภาษี ซึ่งผมมองว่า จะเป็น “ปัจจัยลบระยะสั้น” ซึ่งถ้าไปดูปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเหล่านี้ “ไม่ได้แย่ลง” ทำให้มองว่า หุ้นกลุ่มหลักของสหรัฐฯ “น่าซื้อ” ในตอนนี้มากๆ เพื่อนที่ยังไม่ได้ถือหุ้นเหล่านี้ อาจลงทุนตรงผ่านการซื้อหุ้นด้วยเงินบาท (DRx) หรือ ลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีการถือหุ้นเหล่านี้ก็ได้ครับ
ขณะที่ หุ้นยุโรป ปรับตัวขึ้นมาได้พอสมควรตั้งแต่ต้นปี ทั้งนี้ ยุโรปเป็นภูมิภาคที่ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีทั้งภูมิภาค ทำให้ ยังคงต้องเฝ้า “ระวัง” แนะนำ “ทยอยซื้อได้” หลังจากที่ความไม่แน่นอนด้านสงครามการค้าคลี่คลายลงในต้นเดือน เม.ย.
ด้านตลาดหุ้นจีน ปรับตัว “ขึ้นมาอย่างร้อนแรง” ตั้งแต่ต้นปี จากความคาดหวังว่า ทางการจีนจะกระตุ้นเศรษฐกิจและยื่นมือเข้าช่วยเหลือบริษัทขนาดใหญ่ในปีนี้ ทั้งนี้ ผมเห็นว่า มาตรการกระตุ้นของรัฐยัง “ไม่ออกมาเป็นรูปธรรม” มากนัก ทำให้ต้อง “รอมาตรการอื่นๆเพิ่มเติม” ที่จะหนุนให้ตลาดหุ้นจีนปรับขึ้นได้ต่อไป รวมทั้ง “ความขัดแย้งกับสหรัฐฯจะไม่จบ” แนะนำ “คงสัดส่วน” หุ้นจีนในพอร์ตให้อยู่พอประมาณ
ส่วนตัว Mr. เต่า ลงทุนในกองทุนจีนประมาณ 8-10% แค่นี้พอครับ เพราะตลาดจีนผันผวนเหลือเกิน แต่ก็มีไว้ติดปลายนวมนิดหน่อย
เหตุการณ์ที่ต้องติดตาม คือ การประกาศภาษีสินค้านำเข้าตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ ในวันที่ 2 เม.ย. นี้ ซึ่งคาดว่า จะทำให้ตลาดเริ่มสะท้อนความเสี่ยงต่างๆ และแนวโน้มตลาดหุ้นจะมีความชัดเจนยิ่งขึ้นหลังจากนี้ครับ
*ปล. การเปรียบเทียบในกราฟ เป็นการเทียบแค่ผลตอบแทนด้านราคายังไม่รวมเงินปันผล (Price Performance) ดังนั้น ตัวเลขที่ได้อาจแตกต่างไปจากนี้นะครับ & ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้ยืนยันผลตอบแทนในอนาคต
โชคดีในการลงทุนนะครับ
Mr. เต่า
ค้นหาบทความเต่าน้อยลงทุนผ่าน Facebook ได้อีกช่องทางที่
#อัพเดตการลงทุน #เต่าน้อยลงทุน #ลงทุน #การลงทุน #กองทุนรวม #ข่าวต่างประเทศ #หุ้น #ตลาดหุ้นโลก #กองทุนรวม #ข่าวการลงทุน #ข่าวเศรษฐกิจ #เศรษฐกิจโลก
ติดตามเพจ “เต่าน้อยลงทุน” ได้ที่
Facebook -
facebook.com/เต่าน้อยลงทุน-102224827916550/
Blockdit -
blockdit.com/pages/5ea67ed0daa9310ca5266aa9
Source :
Investing.com
, FundFactsheet และเพจเต่าน้อยลงทุน
ธุรกิจ
การลงทุน
เศรษฐกิจ
1 บันทึก
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย