26 มี.ค. เวลา 02:11 • หุ้น & เศรษฐกิจ

5 สัญญาณเตือนต้องทบทวนแผนการเงินด่วน

หลายคนอาจเคยรู้สึกว่าแม้จะพยายามวางแผนการเงินอย่างดีแล้ว แต่บางครั้งก็ยังรู้สึกว่า “มีบางอย่างไม่ค่อยลงตัว” “น่าจะต้องปรับอะไรบางอย่าง” “ยังมีเวลา” “เดี๋ยวค่อยจัดการ” และรู้หรือไม่ว่าการผัดวันประกันพรุ่งอาจทำให้พลาดโอกาสสำคัญในชีวิต ซึ่งจากการสังเกตพบว่ามีสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าถึงเวลาต้องทบทวนแผนการเงินกันแล้ว 5 ประการ
✅ สัญญาณที่ 1 เงินเดือนหมดก่อนสิ้นเดือนทุกครั้ง สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
“เดือนนี้เงินหมดอีกแล้ว...” เสียงบ่นที่คุ้นเคยของชาวออฟฟิศ หลายคนเงินเดือนหลายหมื่นบาท แต่กลับต้องเผชิญกับภาวะ “เงินไม่พอใช้” ทุกเดือน ทั้งที่ยังไม่ถึงวันเงินเดือนออก จึงต้องยืมเงินเพื่อนรอบข้าง รูดบัตรเครดิต หรือบางครั้งถึงขั้นต้องกดเงินสดฉุกเฉิน นี่คือสัญญาณชัดเจนว่ากำลังมีปัญหาการใช้จ่ายเกินตัว
หากกำลังเผชิญสถานการณ์แบบนี้ ควรรีบแก้ไขด้วยกฎ 50/30/20 ที่จะช่วยจัดระเบียบการเงินใหม่ โดยแบ่งเงินเดือนออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ
ส่วนแรก 50% หรือครึ่งหนึ่งของรายได้ ให้เอาไว้สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าน้ำค่าไฟ หรือค่าใช้จ่ายประจำที่ขาดไม่ได้
ถัดมา 30% สำหรับกิจกรรมที่ทำให้มีความสุข อยากไปเที่ยวพักผ่อน ชอปปิง ทานอาหารร้านอร่อย หรือทำงานอดิเรกที่ชอบ ก็ใช้เงินส่วนนี้
สุดท้าย 20% เก็บไว้สำหรับอนาคต ทั้งการออมและการลงทุน เพื่อสร้างความมั่นคงในระยะยาว
คำแนะนำ อย่าลืมสำรวจค่าใช้จ่ายที่อาจดูเล็กน้อยแต่รวมกันแล้วเป็นเงินก้อนใหญ่ เช่น ค่าสมาชิกรายเดือนต่าง ๆ ที่เราอาจสมัครไว้แต่แทบไม่ได้ใช้ การยกเลิกสิ่งที่ไม่จำเป็นอาจช่วยให้มีเงินเหลือเพิ่มขึ้นได้อย่างน่าประหลาดใจ
✅ สัญญาณที่ 2 ภาระหนี้สินพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อหนี้กลายเป็นผู้ร้าย
นาย ก. มีหนี้บัตรเครดิต 3 ใบ รวมกันกว่า 200,000 บาท แต่ละเดือนพยายามจ่ายขั้นต่ำ แต่ยอดหนี้กลับไม่เคยลดลง เพราะดอกเบี้ย 16% ต่อปีที่ทับถมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สถานการณ์ยิ่งแย่ลงเมื่อต้องใช้บัตรใบใหม่จ่ายค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ทำให้วนเวียนอยู่ในวังวนแห่งหนี้สินไม่จบสิ้น
นี่คือสัญญาณอันตรายระดับสูงที่บ่งบอกว่าถึงเวลาต้องจัดการอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากการจัดลำดับความสำคัญของหนี้ ด้วยการมุ่งชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน
อีกทางเลือกที่น่าสนใจ คือ การรวมหนี้ ซึ่งเป็นการนำหนี้ที่มีอยู่จากหลาย ๆ ที่ทั้งในและนอกระบบ หรือจากบัตรเครดิตหลาย ๆ ใบ มารวมไว้ที่เดียวกัน เพื่อขออนุมัติสินเชื่อกับสถาบันการเงิน มาปิดหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงทั้งหมด แล้วมาเลือกผ่อนเป็นรายงวดคืนให้กับธนาคารด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง ซึ่งจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยลงได้มาก
ที่สำคัญ อย่าลืมสร้างเงินสำรองฉุกเฉินควบคู่ไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ต้องก่อหนี้เพิ่มเมื่อมีค่าใช้จ่ายไม่คาดฝัน เพราะการมีเงินสำรอง คือ เกราะป้องกันที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้ไม่ต้องกลับไปติดกับดักหนี้สินอีกครั้ง
✅ สัญญาณที่ 3 ไม่มีเงินสำรองฉุกเฉิน เมื่อชีวิตไม่เคยบอกล่วงหน้า
นาย ข. เจ้าของร้านอาหารวัย 35 ปี ที่ธุรกิจกำลังไปได้สวย มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 80,000 บาท แต่ใช้จ่ายหมดไปกับการขยายร้านและการใช้ชีวิต จนแทบไม่มีเงินเหลือเก็บ จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดเหตุไฟไหม้ในครัว ทำให้ต้องปิดร้านซ่อมแซมเป็นเวลา 2 เดือน โดยที่ไม่มีเงินสำรองรองรับ สุดท้ายต้องกู้เงินด่วนดอกเบี้ยสูงมาแก้ปัญหา
นี่คือตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าความไม่แน่นอน เป็นสิ่งเดียวที่แน่นอนในชีวิต ดังนั้น ลองถามตัวเองว่า “ถ้าวันนี้ต้องหยุดงานกะทันหัน จะอยู่ได้กี่เดือน” หากคำตอบคือ ไม่ถึงเดือน นั่นหมายความว่ากำลังเดินอยู่บนเส้นด้ายที่พร้อมจะขาดได้ทุกเมื่อ
ดังนั้น เป้าหมายขั้นต่ำที่ควรมี คือ เงินสำรอง 3 – 6 เดือนของค่าใช้จ่ายรายเดือน สำหรับวิธีการสร้างเงินสำรองที่ได้ผลที่สุดคือ การตั้งระบบออมอัตโนมัติ โดยทันทีที่เงินเดือนเข้า ให้หักเงินออมไปยังบัญชีแยกต่างหาก โดยต้องแยกบัญชีเงินสำรองออกจากบัญชีใช้จ่ายปกติ จะช่วยลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและทำให้เงินสำรองเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
เพราะเงินสำรองฉุกเฉิน คือ เกราะป้องกันชั้นแรกที่จะช่วยให้รับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องพึ่งพาหนี้สินหรือความช่วยเหลือจากผู้อื่น
✅ สัญญาณที่ 4 ไม่มีประกันที่จำเป็น เมื่อความเสี่ยงไม่เคยบอกล่วงหน้า
“เรายังอายุน้อย ยังไม่จำเป็นต้องทำประกัน” นี่คือความคิดของคุณบี วัย 32 ปี ที่เพิ่งแต่งงานและมีลูกน้อยวัย 2 ขวบ เขาทำงานเป็นวิศวกร มีรายได้ดี แต่ไม่เคยคิดเรื่องประกัน จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดอาการปวดท้องรุนแรง ต้องผ่าตัดด่วนเพราะไส้ติ่งอักเสบ ค่ารักษาพยาบาลกว่า 100,000 บาท ทำให้ต้องกู้ยืมเงินญาติมาจ่าย และยังต้องผ่อนชำระอีกหลายเดือน
ซึ่งเรื่องนี้สอนว่า ความเสี่ยงในชีวิตไม่เคยบอกล่วงหน้า และบางครั้งการไม่มีประกันที่จำเป็นอาจทำให้เงินก้อนที่เก็บมาทั้งชีวิตหมดไปในพริบตา โดยเฉพาะคนที่มีภาระต้องดูแลครอบครัว
ประกันที่ควรพิจารณาตามลำดับความสำคัญ เริ่มจากประกันสุขภาพที่จะช่วยรองรับค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นทุกปี ตามด้วยประกันชีวิตที่จะเป็นหลักประกันให้ครอบครัวหากเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง และประกันอุบัติเหตุที่จะช่วยคุ้มครองเหตุไม่คาดฝัน
การทำประกันไม่ใช่การสิ้นเปลืองเงิน แต่เป็นการลงทุนเพื่อบริหารความเสี่ยง เปรียบเสมือนร่มชูชีพที่พร้อมกางเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ที่สำคัญต้องเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับช่วงชีวิตและความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและไม่เป็นภาระในระยะยาว
✅ สัญญาณที่ 5 ไม่มีแผนเกษียณที่ชัดเจน อย่าปล่อยให้ความฝันวัยเกษียณเลือนหาย
พนักงานบริษัทเอกชน 35 ปีคนหนึ่ง เพิ่งตระหนักว่าตัวเองยังไม่ได้เริ่มวางแผนเกษียณเลย ทั้งที่มีรายได้ดีเดือนละ 70,000 บาท แต่มักคิดว่า “ยังมีเวลาอีกนาน” หรือ “ค่อยเริ่มปีหน้า” จนผ่านมาหลายปี เมื่อคำนวณดูพบว่าหากต้องการใช้ชีวิตหลังเกษียณด้วยเงินเดือนละ 30,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี จะต้องมีเงินออมอย่างน้อย 7.2 ล้านบาท
ตัวเลขนี้อาจทำให้หลายคนตกใจ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะยิ่งเริ่มเร็ว โอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายก็ยิ่งมีมากขึ้น ด้วยพลังของดอกเบี้ยทบต้น เงิน 5,000 บาทต่อเดือนที่ลงทุนตั้งแต่อายุ 35 ปี จะเติบโตเป็นเงินก้อนใหญ่กว่าการเริ่มออมเดือนละ 15,000 บาทตอนอายุ 45 ปี
เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการสมัครกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นอกจากเงินสะสมแล้ว เงินบริษัทจะสมทบให้ด้วย เท่ากับได้ผลตอบแทนทันที 100% จากเงินที่นายจ้างจ่ายสมทบ จากนั้นพิจารณาลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่นอกจากจะช่วยสร้างวินัยการออมระยะยาวแล้ว ยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วย
เพราะวัยเกษียณ คือ ช่วงเวลาที่ควรได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ใช่กลายเป็นภาระของลูกหลาน การเริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้จึงเป็นของขวัญล้ำค่าที่เราให้กับตัวเองในอนาคต
💡 เริ่มต้นวันนี้ เพื่ออนาคตที่มั่นคงกว่า
จากสัญญาณเตือนทั้ง 5 ประการ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเงินหมดก่อนสิ้นเดือน ภาระหนี้สินที่พอกพูน การขาดเงินสำรองฉุกเฉิน การไม่มีประกันที่จำเป็น หรือการไม่มีแผนเกษียณที่ชัดเจน ล้วนเป็นเรื่องที่สามารถแก้ไขได้ หากเริ่มลงมือทำตั้งแต่วันนี้
เหมือนการเดินทางไกล การก้าวเล็ก ๆ ทีละก้าวอย่างมั่นคง ย่อมดีกว่าการวิ่งเร็วแต่หกล้ม
การปรับปรุงสุขภาพทางการเงินก็เช่นกัน เริ่มจากจุดเล็ก ๆ ที่ทำได้ ค่อย ๆ สร้างวินัยทางการเงิน และที่สำคัญต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะความมั่งคั่งไม่ได้เกิดจากโชคช่วย แต่เกิดจากการวางแผนที่ดีและการลงมือทำอย่างจริงจัง
เป้าหมายชีวิตสำเร็จได้ด้วย นักวางแผนการเงิน CFP®
ติดตามข่าวสารสมาคมฯ ผ่านช่องทางอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่
📌 LINE Official Account https://page.line.me/cfpthailand
📌 Spotify Podcast https://spoti.fi/45kkuIV
📌 Apple Podcast https://apple.co/3QwZ4UJ
โฆษณา