🔥ขายดีไม่มีวันหยุด! 4 ขั้นตอน เปลี่ยนลูกค้าขาจรให้กลายเป็นลูกค้าประจำ 🥰
สิ่งสำคัญของการขาย ไม่ใช่ขายได้แค่ครั้งเดียว แต่ทำอย่างไรให้ลูกค้ารักจนซื้อซ้ำและอยากบอกต่อ ทำให้เราไม่ต้องลงทุนทรัพยากรเพิ่มขึ้น แต่กลับได้ยอดขายเพิ่มขึ้นแทน บทความนี้ จึงขอเสนอ 4 ขั้นตอน ที่จะทำให้ลูกค้ารักเราและอยากบอกต่อ
✅ขั้นตอนที่ 1) กำหนดกลุ่มลูกค้าในฝัน ให้เหมาะกับสินค้าที่ยอดเยี่ยมของเรา
ข้อกำหนดพื้นฐานของทุกธุรกิจที่อยากขายดี มีลูกค้าซื้อซ้ำ คือ “สินค้าต้องยอดเยี่ยม” คำว่า ยอดเยี่ยม ไม่ได้หมายถึงแค่คุณภาพ และคุณประโยชน์ที่เกินความคาดหมายของลูกค้า แต่รวมไปถึงการให้บริการและกระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อทำให้ลูกค้า “ประทับใจ” กับสินค้าของเรา จนอยากจะบอกต่อให้คนอื่นมาซื้อหรือใช้บริการ
เมื่อมีสินค้าที่ดีแล้ว สิ่งที่ต้องทำควบคู่กัน คือ เลือกกลุ่มเป้าหมายในฝันที่เหมาะกับสินค้าของเรา เพราะไม่มีสินค้าชิ้นใด ที่จะตอบโจทย์ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ
ดังนั้น เพื่อความชัดเจนในการทำการตลาดให้เกิดการบอกต่ออย่างได้ผล ข้อสำคัญของการสร้างลูกค้าในฝัน คือ การจินตนาการภาพในหัวให้เป็นรูปธรรมที่สุด ภายใต้การศึกษาข้อมูลของกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงทำความเข้าใจสินค้าของเราเองอย่างถ่องแท้ เพื่อหากลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมกับสินค้าของเรา ที่สำคัญทำให้เราจัดการทรัพยากรทั้งด้านเวลาและงบประมาณทางการตลาดได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น
✅ขั้นตอนที่ 2) ใช้โปรแกรมและระบบจัดการรายชื่อในการขายและติดตาม
“การติดตาม” เป็นหัวใจสำคัญในการขายไม่ว่าจะเป็นยุคไหนก็ตาม เพราะโดยทั่วไปแล้ว ลูกค้ามักไม่ได้ตัดสินใจซื้อตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยินหรือได้เห็นสินค้า เราจึงมีหน้าที่ในการติดตามลูกค้า โดยเน้นไปที่การให้คุณค่า และสร้างสัมพันธ์ที่ดีในทุกครั้งที่มีโอกาสได้ติดต่อกัน จนเมื่อถึงจังหวะเวลาที่ใช่แล้ว ลูกค้าจะซื้อสินค้าจากเราเอง
การใช้โปรแกรมและระบบจัดการรายชื่อ ถือเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ สำหรับการตลาดและการขายแบบมืออาชีพ เพราะจะช่วยให้จัดระเบียบรายชื่อของลูกค้า นำมาวิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญได้ง่าย มีระบบการนัดหมายและติดตามที่ชัดเจน มีการเตือนเมื่อถึงเวลา ฯลฯ ช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น นักขายสามารถบริหารเวลาได้ดี และทำหน้าที่ได้อย่างเต็มศักยภาพ สามารถรักษาลูกค้าไม่ให้ตกหล่นไปเป็นของคู่แข่งได้
✅ขั้นตอนที่ 3) ดูแลและให้บริการแบบเกินความคาดหมาย
การดูแลและให้บริการเกินความคาดหมายจะได้ผลลัพธ์ที่ดีได้ ก็ต่อเมื่อธุรกิจทำตามหลักการข้อ 2) อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหากทำได้ดีแล้ว การมอบบริการที่เหนือความคาดหมายก็ไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งสำคัญคืออย่ารอให้ลูกค้ามีปัญหาก่อนแล้วค่อยตอบสนอง แต่ต้องหมั่นติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เราไม่ได้คาดหวังยอดขาย เพราะลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงความจริงใจ และยอมให้เราติดตามโดยไม่ตะขิดตะขวงใจ
หัวใจสำคัญคือการเพิ่ม “ระดับความสนิทสนม” กับลูกค้า ผ่านการส่งต่อความรู้และความปรารถนาดีอย่างจริงใจ แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องสนิทกันเหมือนคนในครอบครัว เพราะลูกค้าแต่ละคนมีความคาดหวังที่แตกต่างกัน แต่ทุกครั้งที่เราไปหาลูกค้า เราควรมอบ “คุณค่า” บางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการทำงานของลูกค้า หรือสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงความห่วงใย
สิ่งเหล่านี้ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า เราดูแลพวกเขาด้วยความจริงใจ ไม่ใช่แค่เรื่องผลประโยชน์ แต่เพราะเราให้ความใส่ใจจริงๆ ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่จะขอให้ช่วยแนะนำลูกค้าให้ในอนาคต โอกาสที่เขาจะช่วยก็มีสูงขึ้น
✅ขั้นตอนที่ 4) ให้มากพอ ก่อนจะขอให้แนะนำลูกค้า
แม้ว่าเราอยากจะขอให้แนะนำลูกค้าท่านอื่นขนาดไหนก็ตาม แต่ก่อนจะทำ เราควรตรวจเช็คระดับ “ความสัมพันธ์” ระหว่างเรากับลูกค้าเสียก่อน สมมติว่าให้คะแนนจาก 1-10 (ต่ำไปสูง) ถ้าเรามีความสัมพันธ์ในระดับ 8 คะแนนขึ้นไป อย่างน้อยก็สามารถเอ่ยปาก “ขอการแนะนำ” จากลูกค้าได้ เพราะลูกค้ารู้สึกได้ว่า เราให้มากพอจนอยากตอบแทนคืน ซึ่งลูกค้าจะรู้สึกว่า เขาได้รับจากเรามากพอ มาจากการดูแลและให้บริการในแบบข้อ 3) อย่างสม่ำเสมอ
สำหรับการขอการแนะนำ (Referral) สามารถใช้คำถามแบบนี้ เช่น “ถ้าลูกค้าประทับใจสินค้าชิ้นนี้ ลูกค้าเคยนึกถึงใครที่เหมาะกับสินค้าชิ้นนี้ บ้างหรือไม่” และไม่ว่าผลจากการไปแนะนำคนที่ลูกค้าบอกต่อจะเป็นอย่างไร อย่าลืมกลับไปขอบคุณลูกค้าด้วย
และถ้าลูกค้าบางคนใจดี สามารถรับการร้องขอจากคนอื่นได้ บางครั้งเราก็สามารถขอร้องได้เลย แต่ควรทำด้วยความสุภาพ ไม่กดดันลูกค้ามากเกินไป เพราะเมื่อเราบริการลูกค้าด้วยความใส่ใจอย่างสม่ำเสมอ พวกเขาอาจแนะนำคนอื่นให้เราเอง โดยที่เราไม่ต้องร้องขอ
การที่ทำให้ลูกค้ารักจนเอ่ยปากอยากบอกต่อให้ผู้อื่น เป็นการยืนยันว่าเราจะมีลูกค้าแบบไม่จำกัด และเป็นทรัพย์สินสำคัญของธุรกิจ ทำให้มียอดขายที่มั่นคงและสม่ำเสมอไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร
บทความห้องเรียนผู้ประกอบการ
โดย ธนโชค โลเกศกระวี
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
