Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เอ็กซ์ตร้า นายอรรณพ ศิริศรี
•
ติดตาม
26 มี.ค. เวลา 09:54 • การศึกษา
ลูก-หลาน คนในชุมชน ติดยาเสพติด , ติดเหล้า , โรคเครียด , โรคจิตเวช รักษาให้หายขาดได้
.
"ปัญหา" ที่ไม่มีทางแก้ไขได้ ของทุกหมู่บ้านในสังคมไทย
.
ก็คือเรื่อง บุตร-หลาน คนในชุมชน ติดยาเสพติด , ติดเหล้า , โรคเครียด , โรคจิตเวช
.
ในตอนนี้นะครับ กระผมจะมาเล่าเรื่องประสบการณ์ตรง ของกระผม เองครับ
.
เพื่อให้ทุกท่าน ทราบถึงปัญหา และ วิธีการแก้ปัญหาให้กับ บุตร-หลาน รวมถึง บุคคลในชุมชน นะครับ
.
ก่อนอื่นเลย ทุกท่านต้องรับทราบไว้ก่อนนะครับว่า
.
คนติดยาเสพติด , ติดเหล้า , โรคเครียด , โรคจิตเวช รักษาให้หายขาดได้ ครับ
.
ปัจจุบันกระผมอายุ 41 ปี ครับ เมื่อช่วงอายุประมาณ 18 ปี กระผมเป็นบ้า ครับ
.
เป็นบ้า จากพิษภัยของ ยาบ้า ครับ
.
บ้าถึงขนาดที่ว่า เดินตามข้างถนนเลย ครับ ไม่สามารถควบคุมตนเอง ได้
.
ลักษณะอาการของกระผมก็คือ อยู่ในโลกส่วนตัว คิดว่าทุกคนคือเพื่อน คิดว่าเราไปขอข้าวใครกินก็ได้
.
เราอยากได้อะไรเราก็จะได้ เกิดภาพจินตนาการจาก "จิตใต้สำนึก" ที่มาจาก สมองฝ่อ เพราะพิษของยาบ้า ครับ
.
แต่ด้วยโชคชะตาของกระผม ที่ยังพอจะมีบุญหลงเหลืออยู่บ้าง ครับ
.
คือ ที่ผมบ้า คือบ้าทางดีครับ คือเดินยิ้ม
.
หากเป็นบ้าแบบ "ทำร้ายผู้อื่น" กระผมคงได้ไปรับกรรมต่อ ในชาติต่อไปแล้วครับ
.
แล้วหากทุกท่านถามว่า ทำไม ? กระผมถึงมาเล่า ให้ทุกท่านฟัง
.
กระผมก็จะบอกว่า อาการของคน ติดยาเสพติด , ติดเหล้า , โรคเครียด , โรคจิตเวช รักษาให้หายขาดได้
.
เพราะกระผมเคยรักษาให้หายขาดมาแล้ว ครับ
.
หลังจากที่กระผม ทำการรักษาจนหายขาด
.
กระผมก็แนะนำเพื่อน คนรู้จัก จากอาการ ติดยาเสพติด , ติดเหล้า , โรคเครียด , โรคจิตเวช ไปรักษา
.
เพื่อน ๆ หลายคน ก็อาการดีขึ้น ไปจนถึงหายขาด เช่นเดียวกันครับ
.
และ ที่สำคัญ ไม่ได้ใช้เงินค่ารักษาแพง แบบที่คุณคิด ครับ
.
กระผมจะเล่า วิธีการรักษาของกระผม เพื่อให้ทุกท่านนำไปปรับใช้กับ บุตร-หลาน และ คุณในชุมชนของท่าน นะครับ
.
ในช่วงที่กระผมเป็นบ้า คุณแม่กระผม พาไปรักษาโรงพยาบาลของรัฐ
.
3 โรงพยาบาล เลยครับ ในระยะเวลาประมาณ 1-2 เดือน
.
กระผมไม่หาย นะครับ ยังมีอาการเดินยิ้ม เพ้อเจ้อ ฟุตซ่าน อารมณ์หงุดหงิด ฉุนเฉียว
.
จนคุณแม่ของกระผมคิดว่า คงไม่มีทางหายขาดแล้ว
.
ส่วนมากยาที่กินจากโรงพยาบาลของรัฐ คือ ยาที่ทำให้กระผมง่วงนอน เซื่องซึม อาการไม่ค่อยดีขึ้น ครับ
.
จนเมื่อด้วย บุญเก่า ของกระผม กับคุณแม่ นำพาให้กระผมได้มาพบกับ
.
คลินิกคุณหมอวิโรจน์ ครับ อยู่ที่ ถ.โพศรี ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี
.
แถว ๆ วัดโพธิสมภรณ์ อยู่ติดกับร้าน วีที แหนมเนือง อุดรธานี แถว ๆ ตลาดโพธิ์ศรี ครับ
.
ต้องขออนุญาตเอ่ยนาม ชื่อคุณหมอท่านนนะครับ
.
เพราะท่านมีบุญคุณกับกระผม และ กับคุณแม่ของกระผม มากมายเกินกว่าจะเป็นคำพูดได้
.
เหตุการณ์นี้ย้อนไปประมาณ 20 กว่าปี มาแล้วนะครับ
.
ปัจจุบัน คุณหมอวิโรจน์ ท่านก็อายุเยอะแล้ว ครับ
.
กระผมก็ยัง พาคนรู้จักไปหาท่าน ให้ท่านรักษาอยู่บ้าง
.
หลัก ๆ ที่ "คลินิกคุณหมอวิโรจน์" ท่านก็จะรักษา
.
คนเป็นบ้าจากยาเสพติด , ติดเหล้า , โรคเครียด , โรคจิตเวช , นอนไม่หลับ ครับ
.
ท่านคุณหมอวิโรจน์ ท่านเป็นคนใจดีมีเมตตามาก นะครับ
.
ปัจจุบันท่านเปิดคลีนิคเล็ก ๆ เงียบ ๆ กับ ภรรยาท่าน ไม่ได้ใหญ่โตอะไรครับ
.
ช่วงที่กระผม รักษาอยู่กับคุณหมอวิโรจน์ ท่านจะให้ยามากินที่บ้าน ครับ
.
ผมต้องกินยา 4 เวลา เช้า เที่ยง เย็น ก่อนนอน กินยาครั้งละ ประมาณ 4-5 เม็ด
.
พอกินยาเสร็จ ก็จะง่วงนอน เหมือนกับการได้พักสมอง เพื่อให้สมองพื้นฟู มั้งครับ อันนี้กระผมคิดเอง นะครับ
.
คุณหมอวิโรจน์ ก็จะนัดให้ไปพบ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อไปดูอาการ และ ไปรับยาเพิ่ม
.
คุณแม่กระผม จ่ายเงินต่อครั้งที่ไปพบคุณหมอ ประมาณ 7-8 ร้อย ไม่เกิน 1 พันบาท ครับ ต่อครั้ง ต่อ 7 วัน ครับ
.
กระผมจำได้ว่า ช่วงนั้น กระผมกินยา , แล้วก็กิน ,แล้วก็เล่น , แล้วก็นอน
.
จนอยู่ดี ๆ ภาพตัดมา ประมาณ 3-6 เดือน มั้งครับ กระผมจำไม่ได้
.
แต่รู้ตัวอีกที ก็คือว่า ใน 3-6 เดือนนี้ ภาพตัดกลับมา มีสติ รู้สึกตัว และ สามารถควบคุมตัวเอง ได้ครับ
.
ใน ภวังค์แห่งความคิด ช่วง 3-6 เดือน คือ คุยรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง เพ้อเจ้อ เดินเล่นตามท้องถนน นั่งรถสาธารณะเล่น
.
จนอยู่ดี ๆ ภาพตัดมา กระผมกลับมามีสติ พูดคุยรู้เรื่องเหมือนเดิมครับ
.
ใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน ครับ
.
คือที่พูดมาทั้งหมด มันเหมือนง่ายนะครับ
.
แต่ในทางปฏิบัติ ไม่ได้ง่ายเลยครับ
.
เพราะหากคุณ มีบุตร-หลาน หรือ คนในชุมชน ที่ต้องการจะนำไปรักษาให้หายขาด
.
สิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ ครับ คือ "ความเอาใจใส่" ของผู้ดูแล ตรงนี้ละครับสำคัญที่สุด
.
เพราะในระยะเวลา 3-6 เดือน คุณแม่กระผม ดูแลผมไม่ขาดเลยครับ
.
คุณแม่กระผม พาไปหาหมอทุกอาทิตย์ ให้กินยาตรงเวลา 4 เวลา ไม่เคยขาดแม้แต่ครั้งเดียว
.
จึงทำให้กระผมหายขาด ได้มีโอกาสมาสร้างบุญกุศล จนถึงทุกวันนี้ ครับ
.
ฉนั้นครับ หากท่านใด ที่อยากนำ บุตร-หลาน หรือ คนในชุมชนไปรักษา
.
กระผมก็แนะนำว่า นอกจากจะเป็นโรงพยาบาลของรัฐ
.
กระผมอยากให้ คลีนิคที่เกี่ยวกับโรคจิตรเวช ใก้ลบ้านท่าน เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งนะครับ
.
สิ่งที่สำคัญ คือ กำลังใจ และ การดูแลเอาใจใส่ ครับ
.
เพราะ หลังจากที่กระผมหายดี ในระยะ 20 กว่าปี ให้หลัง
.
กระผมก็แนะนำ เพื่อนฝูง คนรู้จัก ให้ไปหา คุณหมอวิโรจน์ อยู่เรื่อย ๆ ครับ
.
จนปัจจุบันนี้ กระผมยังแอบคิดเลยครับว่า หาก คุณหมอวิโรจน์ ท่าน เสียชีวิตไป
.
กระผมก็ไม่รู้ว่าจะแนะนำคุณหมอท่านใด ให้กับทุกท่าน พาบุตร-หลาน ไปรักษา ครับ
.
ตอนที่กระผมติดยา เพราะ กระผมอยากทำตามเพื่อน อยากเป็นที่ยอมรับของกลุ่มเพื่อน
.
ไม่มีสติ ไม่มีสมาธิ ไม่รู้จัก ผิด-ชอบ ชั่ว-ดี
.
รู้แค่ว่า ความสนุกอยู่ไหน เราก็อยากให้ตัวเอง มีความสุข สนุกสุดเหวี่ยง
.
คุณแม่ของกระผมก็เป็นคุณครู ครับ เงินเดือนน้อยนิด
.
ไม่สามารถพากระผมย้ายที่อยู่ เพื่อเปลี่ยนสังคม แยกจากเพื่อนที่ติดยาเสพติดได้
.
ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก นะครับ
.
แต่สิ่งที่เป็นความจริง ในสังคมปัจจุบันนี้ กระผมไปบ้านไหน ? ชุมชนไหน ?
.
กระผมก็จะเห็นเด็ก และ เยาวชน รวมไปถึงผู้ใหญ่ "ติดยา"
.
ลักขโมยของ พูดคนเดียว ด่าพ่อ ด่าแม่ เปรียบเหมือนตกนรกทั้งเป็น นั้นแหละครับ
.
หากมองในมุมมองของ "พุทธศาสนา" พระพุทธเจ้าบอกว่า ทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง
.
ผมไม่ได้หมายความว่า เด็กติดยา คือกรรมเก่า และ ต้องยอมรับกรรม นะครับ ไม่ใช่ นะครับ
.
แต่ทุกอย่างล้วนเกิดจากเหตุปัจจัย ตามกฏ ปจิจสมุบาท (เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี)
.
อาจไม่ใช่แค่เรื่องของความบันเทิง หรือ เพื่อนชักนำ ครับ
.
แต่อาจเป็นเรื่องของ "ความทุกข์" ที่ครอบครัว สิ่งแวดล้อมรอบข้าง แบกรับ
.
คุณพ่อ คุณแม่ คุณลูก มีอวิชชา (ความไม่รู้) จึงทำให้ต้องเลยตามเลย
.
ผ่านหลายช่วงอายุคน ไม่แน่นะครับ อาจจะผ่านมาหลายภพ หลายชาติ แล้วครับ
.
มีสิ่งหนึ่งที่กระผมตกผลึก มองภาพย้อนหลังไป ก็คือ
.
หากวั้นนั้น ช่วงกระผมอายุ 18 ปี ที่กระผมติดยาเสพติด จนเป็นบ้า
.
หากกระผมมี หิริโอตัปปะ (ความละอายใจต่อบาป)
.
นับถือ "ศีล 5" เข้าวัด ทำบุญตักบาตร เป็นประจำ
.
มาตั้งแต่เด็ก ๆ ตั้งแต่ช่วงอายุที่เริ่มเดินได้ 3 ขวบ 5 ขวบ 10 ขวบ 15 ขวบ
.
ซึ่งให้กระผม มองย้อนหลังกลับไป ไม่มีเลยครับ
.
กระผมไม่ได้เข้าใจถึง "กฏแห่งกรรม" เลยครับ
.
ช่วงอายุ 3 ขวบ 5 ขวบ 10 ขวบ 15 ขวบ จนถึงช่วงกระผมติดยา
.
กระผมไม่เคยเข้าใจแบบตระหนักลึ้งซึ้ง ถึง ศีล 5 ,
.
ถึง หิริโอตัปปะ (ความละอายใจต่อบาป)
.
ถึงการเข้าวัด ทำบุญตักบาตร ถึงเรื่อง "กฏแห่งกรรม"
.
ทั้งที่บ้านของกระผมเอง อยู่ติด "วัด" ครับ
.
แต่กระผมกลับเห็น เณรน้อย ออกมาเล่นเกม
.
กระผมกลับเห็นพระ แอบมาเที่ยวโสเพณี ตอนดึก ๆ
.
ซึ่งหากกระผมมองย้อนหลังกลับไป กระผมก็จะบอกว่า
.
กระผมเห็นสิ่งที่ไม่ดีของศาสนา ก็เลยมาตีรวมจาก สัญญา (ความจำได้หมายรู้)
.
ว่า พระ เณร จะต้องชั่ว ทำไม่ดีเหมือนกันหมด
.
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ช่วงที่กระผมอายุ 18 ปี ต่างหากที่มีอวิชชา (ความไม่รู้)
.
บวกกับ ไฟแห่ง กิเลสตัณหา ที่อยากทำตามใจตนเอง ไม่เคยรู้จักคำว่า "หักห้ามใจ"
.
กระผมลูกชายคนเดียว ครับ ขออะไรได้หมด ถ้าขอไม่ได้ก็แค่นั่งร้องไห้ ตีโพยตีพาย
.
หรือ ขู่ว่าจะไม่ไปโรงเรียน กระผมก็ได้สิ่งที่กระผมต้องการแล้ว ครับ
.
นี่ก็อาจจะเป็น "บ่วงกรรม" ที่ทำให้กระผมติดยาเสพติด จนเป็นบ้า
.
เกือบหลับ แต่กลับมาได้ ครับ
.
สรุป ครับ
หากคุณ ถามกระผมว่า แล้วจะทำอย่างไร ? เพื่อไม่ให้ ลูก-หลาน ติดยาเสพติด
.
คำตอบของกระผม ก็คือ ง่ายมาก ๆ ครับ "ศีล 5" ตัวเดียวเลยครับ
.
ปลูกผัง บุตร-หลาย ตั้งแต่เด็ก ๆ เลยครับ
.
หาก บุตร-หลาน ท่าน มี "ศีล 5" ความละอายใจต่อบาป (หิริโอตัปปะ) จะเกิดขึ้นเอง
.
ปัญหายาเสพติด ไม่ใช่แค่เรื่องของเด็ก แต่เป็น ‘บททดสอบ’ ของทั้งครอบครัว
.
"พุทธศาสนา" สอนว่า ทุกปัญหามีทางออก ถ้าเราใช้ ‘ปัญญา’ และ ‘ความรัก’ อย่างถูกวิธี"
.
"อย่าโทษเด็ก อย่าโทษสังคม แต่จงเริ่มที่ตัวเองตั้งแต่วันนี้
.
เราสามารถช่วย บุตร-หลานได้ครับ
.
ด้วยการเป็น "แบบอย่างที่ดี" และให้ "ธรรมะ’ เป็นเครื่องนำทาง
.
สร้างปัญญา – สอนให้เด็กเข้าใจโทษของยาเสพติดด้วย "หลักกฏแห่งกรรม"
.
ฝึกสมาธิ – ให้เด็กมี "สติ" สามารถควบคุมจิตใจ ไม่ให้หลงไปกับ "กิเลส" ได้ง่าย
.
ปรับสภาพแวดล้อม – สร้างครอบครัวที่อบอุ่น มีธรรมะเป็นหลักยึดในครอบครัว
.
ชดเชยกรรมเก่า – ชวนกันทำบุญ อุทิศส่วนกุศล เพื่อลดวิบากกรรม อยู่บ่อยครั้ง
.
"ยาเสพติด" ไม่ใช่ทางออกของ "ความทุกข์" แต่มันคือ บ่อนทำลาย ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ
.
เรามาช่วยกัน "สร้างธรรมะ" ให้เกิดในจิตใจของเยาวชน
.
เพื่อปราบปราม "ยาเสพติด" อย่างยั่งยืน กันนะครับ
.
สวัสดีครับ
.
#ธรรมะ , #ศาสนาพุทธ , #พุทธศาสนา , #ยาบ้า , #ปัญหาครอบครัว , #ยาเสพติด , #วิธีรักษาคนติดยาเสพติด
พุทธศาสนา
ศาสนา
ธรรมะ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย