26 มี.ค. เวลา 10:25 • หุ้น & เศรษฐกิจ

“หุ้นเอเชียแปซิฟิก” ถูกกว่า “หุ้นสหรัฐ” กว่า -34%

เป้าหมายเงินลงทุนทั่วโลก เชื่อมีโอกาสกลับมา “Outperform” Top5 “กองหุ้นเอเชีย” ปีนี้ โชว์ผลตอบแทนเฉลี่ย +6.82% !!!
สาระ Fund วันละนิด: “หุ้นเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น)” เป็นหนึ่งในตลาดที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายของเม็ดเงินลงทุนครั้งใหม่หลัง Underperform “ตลาดหุ้นสหรัฐ” และ “หุ้นโลก” มาหลายปี ทั้งที่พื้นฐานทางเศรษฐกิจก็แข็งแกร่ง
ทำให้เชื่อว่าในท้ายที่สุดจะต้องถูกกลับมาเทรดบน “พื้นฐาน” ในที่สุดและนั่นจะผลักดันให้ราคากลับสู่พื้นฐานที่ควรจะเป็นและมีโอกาสจะกลับมา Outperform ได้อีกครั้ง
ปัจจุบัน “หุ้นเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น)” ราคาไม่แพง มี Fwd 12M P/E 13.9 เท่า ถูกกว่า “หุ้นสหรัฐ” ที่ 21.08 เท่า ถึง 34% และถูกกว่า “หุ้นโลก” ที่ 18.11 เท่า อยู่ 23% ตามลำดับ (ที่มา: Bloomberg, วันที่ 21 มี.ค. 25)
หนุนให้กลุ่ม “กองหุ้นเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น)” ปีนี้ฟื้นตัวเช่นกัน โชว์ผลตอบแทนเฉลี่ย +2.45% (กองทุน 79% ผลงานเป็นบวก)
สำหรับ “กองหุ้นเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น)” ที่มีผลงาน “ดีสุด-แย่สุด” ปีนี้ มีกองอะไรบ้างนั้น ทีมงาน ‘Wealthy Thai’ สรุปเอาไว้ให้แล้ว ตามไปดูพร้อมๆ กันได้เลย
“กองหุ้นเอเชีย” ปีนี้ผลงานฟื้น บวกเฉลี่ย +2.45%...“DAOL-KOREAEQ” แชมป์ผลตอบแทนสูงสุด +12.64% ส่วน “KWI ASM RMF” ดิ่งหนักสุด -4.11%
จากการสำรวจผลงานของกลุ่ม “กองหุ้นเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น)” ทั้ง 43 กอง มีผลงานที่ดีขึ้นปีนี้ทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย +2.45% โดยมี 34 กอง คิดเป็น 79% ที่มีผลงานเป็น “บวก” มีเพียงส่วนน้อย 21% เท่านั้น ที่ยัง “ติดลบ” โดยกองที่มีผลงาน “ดีสุด” ทำผลตอบแทนได้ +12.64% ส่วนกองที่มีผลงาน “แย่สุด” ผลตอบแทนยังติดลบอยู่ -4.11% หรือต่างกันอยู่ 16.75%
สำหรับ 5 “กองหุ้นเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น)” ที่มีผลงาน “ดีสุด” ปีนี้ (ไม่นับรวมชนิดหน่วยลงทุนของกองทุนหลักเดียวกัน) ทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย +6.82% ได้แก่
-“DAOL-KOREAEQ” ของบลจ.ดาโอ +12.64%
-“TISCONA” ของบลจ.ทิสโก้ +8.32%
-“B-ASIASSF” ของบลจ.บัวหลวง +5.27%
-“ES-ASIARMF” ของบลจ.อีสท์สปริง +3.94%
-“K-ASIAX” ของบลจ.กสิกรไทย +3.91%
ส่วน 5 “กองหุ้นเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น)” ที่มีผลงาน “แย่สุด” ปีนี้ ผลตอบแทนยังติดลบเฉลี่ย -2.13% ประกอบด้วย
-“KWI ASM RMF” ของบลจ.เคดับบลิวไอ -4.11%
-“K-ASIA” ของบลจ.กสิกรไทย -3.31%
-“ABAPAC” ของบลจ.อเบอร์ดีน -2.54%
-“TLFVMR-ASIAX” ของบลจ.ทาลิส -0.43%
-“UOBSA-SSF” ของบลจ.ยูโอบี -0.26%
ชู “หุ้นเอเชีย” น่าสนใจ ราคาถูกกว่า “หุ้นสหรัฐ-หุ้นโลก” ในขณะที่กำไรโตดี...เป้าหมายเม็ดเงินที่กระจายออกจากตลาดที่แพง
ทางด้าน “บลจ.อเบอร์ดีน” มองว่า “ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) ในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่เติบโตชะลอตัวลง ฉุดตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชีย Underperform ดัชนี “S&P500” ของสหรัฐ
สำหรับแนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียน (EPS) ในเอเชีย คาดการณ์ EPS เติบโตได้ค่อนข้างดีประมาณ 10-12% ในปีนี้ ขณะที่ Valuation ‘หุ้นเอเชีย’ Discount กับตลาดหุ้นโลกเมื่อเทียบกับ MSCI World กว่า 30% ซึ่งใกล้เคียงระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี จึงมองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันน่าสนใจเช่นกัน
เช่นเดียวกับ “บลจ.ยูโอบี” ที่มองว่า ปีนี้ “หุ้นเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น)” เป็นตลาดที่น่าสนใจ และปีนี้น่าจะเห็นการกระจายตัวของเม็ดเงินจากตลาดที่แพง เช่น หุ้นสหรัฐ ออกไปยังตลาดอื่นมากขึ้น ซึ่งหุ้นเอเชียก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของเม็ดเงินลงทุนเหล่านั้นด้วย
สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสลงทุนในตลาดที่มีศักยภาพและราคายังไม่แพง “หุ้นเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น)” น่าจะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายของเม็ดเงินลงทุนที่จะไหลออกจากตลาดหุ้นที่แพงแล้วอย่าง “หุ้นสหรัฐ” อีกด้วย
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
โฆษณา