26 มี.ค. เวลา 15:30 • ไลฟ์สไตล์

“คนหาเงินได้ 30,000 จ่าย 20,000” อาจมีความสุขมากกว่า “คนหาเงินได้ 1 แสนแต่ต้องจ่าย 1.5 แสน”

“จงใช้ชีวิตให้ต่ำกว่าเงินที่หามาได้” คำสอนคุณพ่อนักการเงินถึงลูกสาว จาก มอร์แกน เฮาเซิล
ในหนังสือ “The Psychology of Money” (แปลไทยโดยสำนักพิมพ์ Live Rich ชื่อ “จิตวิทยาว่าด้วยเงิน”) เขียนโดย มอร์แกน เฮาเซิล (Morgan Housel) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินได้อธิบายเอาไว้ว่าความสำเร็จทางด้านการเงินนั้นไม่ได้มาจากระดับการศึกษาหรือความเฉลียวฉลาดซะทีเดียว เขาและภรรยาเพิ่งมีลูกสาวในปี 2019 แม้จะยังเด็กและไม่เข้าใจเรื่องการเงินในตอนนี้ แต่เขาก็รู้สึกว่าอยากจะเขียนเรื่องนี้เอาไว้เผื่อวันหนึ่งลูกสาวโตพอรู้เรื่องและสำหรับคนอื่น ๆ ด้วย
❤️ 1. อย่ามองข้ามความสำคัญของ ‘โชคชะตา’ ของชีวิต
มันง่ายมากเลยที่จะมองว่า ‘ความมั่งมี’ หรือ ‘ความยากจน’ นั้นเป็นผลของการตัดสินใจที่เราทำ แต่มันยิ่งง่ายขึ้นไปอีกที่จะมองข้ามความสำคัญของ ‘โชคชะตา’ ในชีวิต
ครอบครัว คุณค่าทางสังคม ความเชื่อ รวมไปถึงยุคสมัยและประเทศที่เกิดมา นอกจากนั้นยังมีคนที่คุณได้เจอระหว่างทางล้วนมีส่วนสำคัญในสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตมากกว่าที่เราคิดเสมอ
จริงอยู่ที่คุณค่าและผลงานของการทำงานหนักนั้นเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ แต่คุณก็ต้องเข้าใจด้วยว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากการทำงานหนักเพียงอย่างเดียว และความยากจนก็ไม่ได้เป็นเพราะความเกียจคร้านทั้งหมด จำตรงนี้เอาไว้เมื่อเรากำลังตัดสินคนอื่นในหัวและตัวเราเองด้วย
❤️ 2. สิ่งที่เงินตอบแทนได้มากที่สุดคือเวลา
การที่เราได้ทำในสิ่งที่อยากทำ เมื่อไหร่ก็ได้ กับใครก็ได้ ที่ไหนก็ได้ นานแค่ไหนก็ได้เป็นสิ่งที่นำความสุขในระยะยาวมาสู่เรามากกว่าของมีค่าทั้งหลายสามารถจะมอบให้เราได้
ความตื่นเต้นในการเป็นเจ้าของสินค้าราคาแพง ๆ นั้นหายไปอย่างรวดเร็ว แต่งานที่มีชั่วโมงที่ยืดหยุ่น เดินทางสะดวกนั้นดีเสมอ การมีเงินในบัญชีเพียงพอเป็นทางเลือกสำหรับเหตุฉุกเฉินเป็นเรื่องที่ดีเสมอ การที่จะได้เกษียณเมื่อต้องการเป็นเรื่องที่ดีเสมอ
อิสรภาพทางการเงินเป็นเป้าหมายในชีวิตของเราก็จริง แต่มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ ‘ขาว/ดำ’ ทำได้หรือไม่ได้ การเก็บเงินตอนนี้ตามที่วางแผนเพื่อการเกษียณเหมือนเป็นการซื้อเวลาในอนาคตที่เราไม่จำเป็นต้องไปทำตามความต้องการของคนอื่น
❤️ 3. อย่าไปหวังว่าชีวิตจะสบาย
เราจะรู้ค่าของเงินหนึ่งบาทก็ตอนที่ไม่มีเงินแล้วเท่านั้น แม้ว่าพ่อ/แม่จะคอยสนับสนุนอยู่เท่าที่ทำได้ แต่พ่อกับแม่จะไม่ตามใจลูกจนเสียคนอย่างแน่นอน
การเรียนรู้ว่าชีวิตของเรานั้นไม่มีทางได้ทุกอย่างเป็นหนทางเดียวที่ลูกจะเข้าใจสิ่งที่เรียกว่า ‘สิ่งที่จำเป็น’ กับ ‘สิ่งที่อยากได้’ บทเรียนนี้ก็จะสอนลูกเกี่ยวกับการจัดสรรเงิน เก็บเงิน และมองเห็นคุณค่าของสิ่งที่ลูกมีแล้วด้วย
รู้ว่าเมื่อไหร่ควรประหยัด (โดยไม่ทำร้ายตัวเองเกินไป) เป็นทักษะที่สำคัญมากในชีวิตและจะยิ่งมีประโยชน์มากในช่วงชีวิตล้มลุกคลุกคลานที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
❤️ 4. ความสำเร็จไม่ได้มาจากการตัดสินใจครั้งใหญ่เสมอไป
คำจำกัดความของคำว่า ‘อัจฉะริยะ’ ของจักรพรรดินโปเลียนบอกว่าคือคนที่ “สามารถทำเรื่องทั่วไปในขณะที่ทุกคนรอบตัวกำลังเป็นบ้าเป็นหลัง” พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือคนที่ฉลาดสามารถควบคุมอารมณ์และการตัดสินใจของตัวเองได้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายนั่นเอง
การจัดการเรื่องเงินก็เช่นเดียวกัน คุณไม่จำเป็นต้องทำสิ่งที่มันยิ่งใหญ่หรือสุดยอดเพื่อจะไปให้ถึงปลายทางที่ตั้งใจเอาไว้ ลูกแค่ต้องอย่าทำผิดซ้ำ ๆ และทำเรื่องเดิม ๆ ที่ให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าพึงพอใจเป็นระยะเวลาที่นานเพียงพอเท่านั้น
หลีกเลี่ยงความผิดพลาดครั้งใหญ่ ๆ (ที่ใหญ่ที่สุดคือการเป็นหนี้ที่ทับถมจนหลุดออกมาไม่ได้) เป็นทักษะด้านการเงินที่มีพลังมากกว่าเคล็ดลับการเงินเรื่องอื่น ๆ เลย
❤️ 5. ใช้ชีวิตให้ต่ำกว่าเงินที่หามาได้
ทักษะในการใช้ชีวิตด้วยเงินจำนวนน้อยนั้นเป็นข้อได้เปรียบทางด้านการเงินที่มีพลังมาก เพราะลูกจะมีความสามารถในการควบคุมทิศทางของชีวิตตัวเองได้ว่าจะไปทางไหนต่อ
คนที่หาเงินได้ 30,000 แล้วใช้ชีวิตที่มีความสุขด้วยเงินแค่ 20,000 จะมีความสุขมากกว่าคนที่หาเงินได้ 150,000 แล้วต้องใช้เงิน 160,000 เพื่อจะมีความสุข นักลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนที่ 5% แต่มีค่าใช้จ่ายน้อยปลายทางอาจจะดีกว่าคนที่ได้ผลตอบแทน 7% แต่ต้องจ่ายทุกบาทตลอดเลยก็ได้
เงินที่หามาได้ ไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่าสุดท้ายคุณจะมีเงินเท่าไหร่ และเงินที่คุณมีก็ไม่ได้บ่งบอกว่าคุณต้องการเท่าไหร่
เรียนรู้ที่ใช้ชีวิตให้มีความสุขด้วยเงินจำนวนน้อยกว่าที่หามาได้ จะช่วยทำให้ชีวิตมีอิสระมากขึ้น
❤️ 6. การเปลี่ยนใจเป็นเรื่องที่โอเค
ไม่มีใครในโลกที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรตอนอายุ 18 (อย่าว่าแต่ 18 เลย บางที 30,40 ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ) เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเรื่องโลกแตกที่จะเปลี่ยนใจหลังจากที่เลือกคณะที่มหาวิทยาลัยไปเรียบร้อยแล้ว หรือบางทีเรียนจบสาขาหนึ่งแล้วเริ่มทำงานไปกลับไม่รู้สึกว่ามันใช่ก็เปลี่ยน
มันเป็นเรื่อง “โอเค” ที่คุณค่าหรือความชอบของคุณจะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อโตขึ้น ไม่ต้องโกรธตัวเอง ไม่ต้องโทษที่ตัดสินใจผิดพลาด การเปลี่ยนแปลงตัวเองและแนวคิดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกคน เป็นเหมือนพลังวิเศษด้วยซ้ำ จงอย่ายึดติดโดยเฉพาะตอนที่ยังอายุไม่มากนัก
❤️ 7. ทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายของมัน
สิ่งที่ต้องจ่ายเมื่อมีงานที่ยุ่งรัดตัวคือเวลาที่จะได้ใช้กับคนที่รักหรือครอบครัว สิ่งที่ต้องแลกมากับผลตอบแทนของหุ้นระยะยาวคือการที่ต้องอดทนผ่านช่วงเวลาอันโหดร้ายของตลาดที่ขึ้นลงอยู่เสมอ สิ่งที่จ่ายเมื่อตามใจลูกจนเสียคนคือพวกเขาจะไม่รู้เลยว่าชีวิตต้องเจออะไรอีกเยอะมาก
ทุกอย่างที่มีค่านั้นมีสิ่งที่ต้องแลกมาเสมอ ส่วนใหญ่แล้วบางทีเรามองมันไม่เห็น บางอันก็คุ้มที่จ่าย แต่ต้องไม่ลืมมองให้ครบทุกด้านด้วย เมื่อเราเข้าใจจุดนี้และยอมรับมันได้ คุณจะเริ่มมอง ‘เวลา’ ‘ความสัมพันธ์’ ‘อิสรภาพ’ และ ‘ความคิดสร้างสรรค์’ ว่าเป็นสิ่งที่มีมูลค่าไม่ต่างจะเงินเลย
❤️ 8. เงินไม่ใช่ตัววัดความสำเร็จที่ดีที่สุด
วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) เคยกล่าวเอาไว้ว่าความสำเร็จของชีวิตคือ “ตอนที่คนที่คุณอยากให้รักคุณนั้นรักคุณจริง ๆ”
โดยความรักเหล่านั้นก็มาจากวิธีที่คุณปฏิบัติต่อคนอื่น ไม่ใช่จำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชี เงินไม่ได้มอบสิ่งที่คุณ (และคนส่วนมาก) อยากได้ที่สุด เงินไม่สามารถทดแทนชื่อเสียงแย่ ๆ ความซื่อสัตย์ และความเห็นอกเห็นใจคนอื่นได้เลย นี่คือคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องการเงินที่สำคัญที่สุดที่สามารถมอบให้ได้
❤️ 9. อย่าเชื่อคำแนะนำที่ได้รับอย่างไม่ลืมหูลืมตา
บทเรียนเรื่องชีวิตและการเงินเหล่านี้ รวมถึงข้อนี้ด้วย คือสิ่งที่หลายคนเรียนรู้สายเกินไปในชีวิต แต่...ถ้าจะปฏิเสธมันก็ไม่เป็นไร
โลกของลูกจะแตกต่างจากโลกของพ่อ เหมือนอย่างที่โลกของพ่อแตกต่างจากโลกของคุณปู่คุณย่า ไม่มีใครเหมือนใคร และไม่มีใครที่มีคำตอบที่ถูกต้องสำหรับทุกอย่าง อย่ารับเอาคำแนะนำของคนอื่นมาโดยไม่ดูบริบทของคุณค่า เป้าหมาย สภาพแวดล้อม และความเชื่อของตัวเอง
พ่อแม่รักลูกอยู่แล้ว และเราก็มีความสุขมากที่ลูกมาอยู่ด้วยกันตรงนี้
#aomMONEY #การเงินส่วนบุคคล #แนวทางการใช้เงิน #MorganHousel #มอร์แกนเฮาเซิล #จิตวิทยาว่าด้วยเงิน
โฆษณา