28 มี.ค. เวลา 06:11 • นิยาย เรื่องสั้น

ตัวนิ่มตัวหนึ่งขดตัวอยู่ในโพรงใต้ดินด้วยความกลัว มันเพิ่งอายุได้ 4 เดือนแต่กลับต้องพรากจากแม่

ตั้งแต่เกิดมันจะเกาะอยู่ที่โคนหางของแม่ตลอดเวลา ไม่ว่าแม่มันจะไปไหนมันก็จะเกาะติดไปด้วยไม่เคยห่าง
จนวันหนึ่งที่มันเริ่มโตพอจะแยกจากแม่ มันจึงลองไปหามด หาปลวกกินเอง
แต่ด้วยความที่มันยังไม่ชำนาญ มันจึงเดินไปเจอเข้ากับพวกลักลอบล่าสัตว์ป่า แม้จะไม่ใช่ระยะประชิด แต่มนุษย์พวกนั้นก็ได้ยินเสียงของมันและกำลังเดินเข้ามาตามเสียง
มันทั้งตกใจทั้งกลัวมากจนทำอะไรไม่ถูก
แต่จู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นจากฝั่งตรงข้าม เป็นเสียงเดินของสัตว์ที่ดึงดูดพวกลักลอบล่าสัตว์ป่าให้ตามไป
มันโล่งใจมาก จากนั้นก็ค่อย ๆ เดินกลับไปหาแม่
แต่ไม่เจอ
ในโพรงใต้ดินที่มันนอนกับแม่ทุกวันมีแต่ความว่างเปล่า
มันร้อนใจจึงปีนขึ้นต้นไม้เพื่อมองหาแม่
ในที่สุดมันก็เจอแม่ของมัน อยู่ในกรงที่มนุษย์แบกไป
ทั้งคู่ได้สบตากัน
แม่ยิ้มให้มัน
เป็นรอยยิ้มที่ทำให้มันรู้ว่า เสียงที่ดึงความสนใจของพวกล่าสัตว์ป่าไปคือเสียงของแม่มัน และทำเพื่อช่วยมันนั่นเอง
เพราะตลอดมาแม่ของมันระมัดระวังตัวเป็นอย่างดีจึงไม่มีทางที่จะโดนจับได้ นอกจากจะตั้งใจเอง
เมื่อรู้ความจริงมันถึงกับหมดแรงจนหล่นลงมาจากต้นไม้
นอนนิ่งอยู่ที่พื้น ก่อนจะทิ้งตัวลงไปในโพรงแล้วนอนขดตัวร้องไห้อยู่อย่างนั้น
หลายวันแล้วที่มันนอนขดตัวร้องไห้อยู่ในโพรงด้วยความกลัว จนในที่สุดมันก็ทนการจู่โจมของความหิวไม่ได้
ทำให้มันนึกถึงตอนที่มันยังเล็ก มันกลัวความมืดมาก ๆ และทุกครั้งแม่จะม้วนตัวกอดมันเข้ามาที่กลางอก แล้วบอกกับมันว่า
"ไม่ต้องกลัวไปหรอก เพราะความมืดนั้นอ่อนแอ เวลาเจอแสงสว่าง ความมืดก็จะหนีไป เพียงแค่เจ้าเดินเข้าหาแสงสว่าง ความมืดก็จะหายไปเอง"
พอตอนเช้ามันก็จะได้เห็นแสงสว่างขับไล่ความมืดไปทุกครั้ง อย่างที่แม่มันบอก
ในที่สุดมันก็ไม่กลัวความมืดอีกแล้ว
ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ถ้ามันยังมัวแต่กลัวอย่างนี้ก็คงจะทำให้แม่ของมันผิดหวัง
สิ่งที่มันจะตอบแทนการเสียสละของแม่มันได้ คงจะเป็นการมีชีวิตให้ดีต่อไป
เพื่อที่วันหนึ่งมันจะไปช่วยแม่ของมันกลับมาให้ได้...มันคิดอย่างนั้น
โฆษณา