27 มี.ค. เวลา 07:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ไร้กังวลภาษีความหวาน ปรับสูตรน้ำตาลน้อยลง

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ไร้กังวลภาษีความหวาน ปรับสูตรน้ำตาลน้อยลง ลุยขยายพอร์ตเครื่องดื่มชิงส่วนแบ่งการตลาด ปรับภาพลักษณ์ใกล้ชิดกับกลุ่ม Gen Z
นายทานุจ ชาดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 8.2% โตกว่าภาพรวมของตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 2 เท่า และสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมได้ โดยเฉพาะในกลุ่มน้ำตาลน้อยและไม่มีน้ำตาล ซึ่งทำให้หากมีการเก็บภาษีความหวาน ที่จะเริ่มในวันที่ 1 เมษายน 2568 นี้ โดยเครื่องดื่มที่น้ำตาลไม่เกิน 6 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จะได้รับการยกเว้นภาษีนั้น
ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ไร้กังวลภาษีความหวาน ปรับสูตรน้ำตาลน้อยลง เดินหน้า ขยายพอร์ตเครื่องดื่มเพิ่ม ปรับภาพลักษณ์ใกล้ชิดกับกลุ่ม Gen Z ตั้งเป้า ปี 68 ชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น
บริษัทฯ จึงไม่กังวลถึงผลกระทบ เพราะได้ปรับสูตรสินค้าผลิตภัณฑ์ใช้น้ำตาลน้อยลง แต่ยืนยันว่า จะยังคงรสชาติที่อร่อยเหมือนเดิม
สำหรับความท้าทายในการประกอบธุรกิจในปีนี้ มองว่าคือพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่ ซึ่งบริษัทได้เข้าไปวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคว่าต้องการอะไร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด
ด้านนายอนวัช สังขะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ เน้นทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทั้งความใส่ใจเรื่องสุขภาพที่มีมากขึ้น การใช้จ่ายเงินเพื่อแลกกับการได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน รวมถึงมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคา
ทั้งนี้ โดยภาพรวม ตลาดเครื่องดื่มยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องดื่มในกลุ่มน้ำตาลน้อย หรือ ไม่มีน้ำตาล ทั้งในกลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มให้พลังงาน โดยเราเดินเกมรุกตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลม ปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ใกล้ชิดกับกลุ่ม Gen Z มากยิ่ง พร้อมเสริมแกร่งเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในกลุ่มชาและกาแฟพร้อมดื่มพรีเมียม ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน รวมถึงขยายการเติบโตในกลุ่มเครื่องดื่มให้พลังงาน ผ่านแคมเปญการตลาด 360 องศา ให้เข้าถึงผู้บริโภค ทั่วประเทศ
ยอดขายเครื่องดื่มอัดลมเป๊ปซี่ มีสัดส่วนสูงถึง 75% และมีส่วนแบ่งการตลาดในปัจจุบันอยู่ที่ 39.1% ตั้งเป้า สิ้นปี 68 นี้ จะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นที่ 40% ส่วนตลาดกาแฟและชาพร้อมดื่มเติบโต 11% ขณะที่เครื่องดื่มให้พลังงานเติบโต 5 เท่า อย่างไรก็ตาม คาดว่า ช่วงหน้าร้อนนี้ ยอดขายของผลิตภัณฑ์จะเพิ่มขึ้นและคึกคัก : นายอนวัช สังขะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด
ด้านนายยศยุต สหวัชรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ตามแนวคิด People-First มุ่งพัฒนาและดูแลบุคลากร เพื่อให้พนักงานเติบโตไปพร้อมกับความสำเร็จขององค์กรด้วย
สำหรับ ปี 2568 ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ จะเดินหน้า กลยุทธ์ “Must Win” ทั้งตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลม ชาและกาแฟพร้อมดื่ม ขยายการเติบโตในกลุ่มเครื่องดื่มให้พลังงานผสานนวัตกรรม เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ ประกอบด้วย
1. เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจเครื่องดื่มน้ำอัดลม (Strengthen Core) โดยส่งผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่ออกสู่ตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มน้ำตาลน้อยและไม่มีน้ำตาล ส่งผลให้เครื่องดื่มเป๊ปซี่ไม่มีน้ำตาลเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 16.1%
2. ขยายกลุ่มนวัตกรรมเครื่องดื่ม (Portfolio Transformation) นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจทั้งสุขภาพและความอร่อยของชาอู่หลงพร้อมดื่มทีพลัส และกาแฟพร้อมดื่มบอส คอฟฟี่ รวมทั้งสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ด้วยเครื่องดื่มให้พลังงานแนวใหม่อย่างสติงค์
3.สร้างความสำเร็จร่วมกับคู่ค้า (Win With Customers) ขยายฐานคู่ค้าทั่วประเทศ พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละช่องทางการจำหน่าย เน้นการใช้เทคโนโลยี AI เสริมศักยภาพการขาย สร้างการเติบโตอย่างรวดเร็ว
4. ส่งเสริมการเติบโตระยะยาวด้วยการผลิตที่มีประสิทธิภาพและมุ่งสู่ความยั่งยืน (Insulated Long Term) ด้วยการส่งมอบเครื่องดื่มที่มีคุณภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานด้านอาหาร สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วยสายการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง โดยมีปริมาณเครื่องดื่มที่ผลิตได้เฉลี่ย 1,300 ล้านลิตรต่อปี ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพทำให้สามารถใช้น้ำเพียง 1.40 ลิตร จากทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต
เพื่อผลิตเครื่องดื่ม 1 ลิตร / รวมถึงขยายผลการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมการคัดแยกและเก็บกลับขวด PET ใช้แล้วอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อรีไซเคิลหมุนเวียนกลับมาเป็นขวดใหม่
5. พัฒนาองค์กรพร้อมดูแลพนักงาน ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน เพื่อการเติบโตไปพร้อมกับองค์กร สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับพนักงานอย่างแท้จริง
ปี 68 จะขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพิ่ม และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้ใช้งบลงทุนไปแล้วกว่า 1000 ล้านบาทในการพัฒนาโรงงานผลิตที่จังหวัดสระบุรี และระยอง ซึ่งมั่นใจว่า ทั้งปีนี้ ตลาดเครื่องดื่มจะเติบโต โดยสิ่งที่บริษัทจะทำคือเดินหน้าการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ในการผลิตเพื่อตอบโจทย์และสไตล์ใหม่ๆในปัจจุบัน : นายทานุจ ชาดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/stock-investment/245593
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา